category จบแล้ว แล้วไง ไปไหนต่อ ? 8 หนทางชีวิตหลังเรียนจบของเด็กยุคนี้

Writer : nardpradabt

: 9 สิงหาคม 2561

เย้ เรียนจบแล้วโว้ย ภายใต้ความยินดีหลังเรียนจบ แต่คำถามที่ตามมาคือ จบแล้วไปไหนต่อ ? เด็กจบใหม่ ได้ยินประโยคนี้ มีสะอึกแทบทุกคน บางคนชัดเจนอยู่แล้วว่าชอบอะไร ค้นหาตัวเองเจอว่าจะวางตัวเองไว้ตรงไหน ก็ดีไป แต่สำหรับใครที่เรียนจบแล้ว ไม่รู้ตัวเองว่าจะไปจุดไหน ยังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร ความชอบของเราคืออะไร นั่งถามตัวเองอยู่ทุกวันว่า “เอาไงต่อกับชีวิตดี ? ” สมัยนี้ตัวเลือกในมีเยอะขึ้นมาก ลองดูว่าทางไหนจะเหมาะกับเราที่สุด

คุณเหมาะกับชีวิตหลังเรียนจบแบบไหน

คิดว่าเรียนจบแล้ว อยากทำอะไร

A. ทำงานเลยแล้วกัน ช่วยพ่อแม่ และป้าข้างบ้านชอบถาม

B. คิดไม่ออก ยังไม่อยากทำงานเลย

C. รู้สึกยังอยากเรียนอยู่

เฉลย ถ้าคำตอบ คือ A เรามีตัวเลือกมาให้เลือกเพิ่ม นั้นคือ 1. ทำงานประจำ 2. ทำ Freelance หรือ รับงานพิเศษเพิ่มเติม และ 3. ทำธุรกิจส่วนตัว / กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว

ทำงานประจำ

ถ้าคุณเรียนจบแล้วไม่รู้จะทำอะไรต่อ เรียนจบแล้วต้องแบ่งเบาภาระพ่อแม่ พ่อแม่ไม่ได้ให้เงินค่าขนมแบบเคยแล้ว มองหาความมั่นคงและรับประกันอนาคตได้ แถมป้าข้างบ้านยังคอยถามกวนใจว่า “หนูๆ ทำงานที่ไหนจ๊ะ” เราแนะนำให้คุณทำงานประจำ แล้วงานไหนล่ะที่เหมาะกับเรา วิธีการง่ายๆ เป็นข้อแนะนำสำหรับ ไม่รู้จะทำงานอะไรดี ลองหาว่าเราชอบทำอะไรที่สุด หรือ สิ่งที่เราทำได้ดี แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบที่สุด แต่สิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่ถนัดที่สุดก็ได้ ลองวาดแผนผังต้นไม้ตัดช้อยส์ แบ่งเป็นสิ่งที่ชอบ และ สิ่งที่ถนัด และลองวิเคราะห์ดูว่า เราควรทำสิ่งไหนที่สุดในตอนนี้

สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา การทำงานประจำถือว่าเป็นสิ่งที่เพิ่มความมั่นคงและเพิ่มความรับประกันหน้าที่การงานได้ในอนาคต การเรียนจบก็คนสมัยนั้นจึงต้องการทำงานประจำเลย มองหาบริษัทใหญ่ๆ ที่น่าเชื่อถือและสมัครเข้าไป แต่สมัยนี้ตัวเลือกในการทำงานมีมากมายหลายอย่าง จะทำงานประจำในบริษัทที่มีชื่อเสียง หรือ บริษัท Start Up ก็เป็นตัวเลือกของเด็กยุคใหม่ที่อยากเติบโตไปด้วยกัน และ มีอิสระทางความคิดมากกว่า

Freelance

อาชีพ ฟรีแลนซ์ (Freelance) ถือเป็นอาชีพตัวเลือกสำหรับคนยุคใหม่ที่นิยม สำหรับเด็กที่ไม่อยากทำงานประจำ เพราะ มีความอิสระในรูปแบบการทำงาน เรื่องเวลา สถานที่ จึงทำให้คนรุ่นใหม่มีความสนใจและนิยมเป็นอย่างมาก กระบวนการทำงานฟรีแลนซ์ พูดง่ายๆ คือ หาลูกค้า ทำงาน/ส่งงาน และ รับเงิน ซึ่งผู้ที่ทำฟรีแลนซ์ต้องมีความรับผิดชอบอย่างมากในการจัดสรรเวลา และ คงคุณภาพของงานให้ดีอยู่เสมอ เพราะ คุณภาพของงาน และ รักษาเวลา มีผลต่อการจ้างงาน

สิ่งที่ทำให้เราได้งานมีลูกค้า นั้นคือ “การสร้างตัวตน” เราต้องคอยเก็บผลงาน ทั้งงานจ้าง และ งานฟรี แม้ว่าจะฟรีแต่มันก็เป็นประสบการณ์ เหมือนเป็นสร้างพอร์ตให้ตัวเอง ยิ่งประสบการณ์เราเยอะ เราทำงานมาเยอะ ยิ่งสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้ามากขึ้น เราสามารถสร้างผลงานให้ตัวเอง โดยการสร้างเว็บไซต์ หรือ บล็อก เช่น WordPress.org Medium , Facebook เป็นต้น สร้างพอร์ตออนไลน์ เช่น Pinterest , Behance , GitHub , Tumblr เป็นต้น หรือช่องทางอื่นๆ เช่น Youtube , Vimeo เป็นต้น ก็จะเป็นการสร้างผลงานเพื่อเอาไว้คุยงานกับลูกค้า หาลูกค้าของเราได้

นอกจากการสร้างตัวตนให้ตัวเองในรูปแบบพอร์ตผลงานแล้ว เราอาจจะเข้าร่วมสังคมใหม่ๆ ในสายงานที่เราต้องการ เช่น ไปเข้าค่าย ไปงานนิทรรศการ งานที่สามารถพบเจอผู้คนใหม่ๆ สร้างมิตรภาพ เพื่อทำให้เรารู้จักคนมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเรารู้จักคนเยอะ การที่เค้าจะนึกถึงเรา ว่า “เห่ย ไอคนนี้มันทำฟรีแลนซ์เกี่ยวกับส่วนนี้” ก็จะเป็นการง่ายมากยิ่งขึ้น

แต่หัวใจสำคัญของงานฟรีแลนซ์ ก็คือ การรักษาเวลา คงคุณภาพของงาน และ การคิดค่าแรง (ที่ต้องพูดคุย ทำความเข้าใจกันกับลูกค้าตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เกิดการผิดใจกันในอนาคต)

ทำธุรกิจส่วนตัว หรือ ไปช่วยธุรกิจครอบครัว

ไม่อยากทำงานประจำ ไม่ได้อยากทำงานฟรีแลนซ์ แต่อยากเป็นนายตัวเอง งั้นก็เป็นเจ้าของมันซะเลยสิ! การเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นความฝันของเด็กรุ่นใหม่หลายคน อยากทำอะไรของตัวเอง มีอิสระในชีวิต สร้างความมั่นคงด้วยตัวเอง อยากรวยเร็วๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว การทำธุรกิจส่วนตัวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เราต้องมีความต้องการทำในสิ่งนั้น มีความชอบ และ ที่แน่ๆ มันมีความเสี่ยง

การจะทำธุรกิจส่วนตัว เราต้องศึกษาในสิ่งที่จะทำอย่างรอบคอบ วิเคราะห์ในส่วนต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ และ ไม่เคยเกิดขึ้น จะเป็นการสร้างจุดขายได้อย่างดีเยี่ยม หาจุดแข้ง และ จุดอ่อนให้กับธุรกิจของเรา พอเมื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงแล้ว เงินถึง Passion มี ก็ลุยเลย ของแบบนี้มันต้องลอง การเริ่มต้นมันอาจจะเสี่ยง แต่ถ้าไม่เสี่ยง แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เริ่มต้น

ส่วนอีกตัวเลือก คือ การไปช่วยธุรกิจที่บ้าน เป็นข้อดีอย่างหนึ่งคือ ธุรกิจไม่ต้องเริ่มจาก 0 ด้วยตัวเอง แต่ความยากมันอยู่ตรงที่ เราจะสามารถรักษาธุรกิจนี้ให้มั่นคงต่อไปได้อย่างไร? ความหวังของครอบครัวก็จะตกมาอยู่ที่รุ่นเรา ครอบครัวฝากความหวังให้ การเรียนรู้จากรุ่นผู้ใหญ่ และ นำมาปรับใช้ในแบบของเราเอง เพื่อต่อยอดและพัฒนาให้คงอยู่

ถ้าคำตอบคือ B. คิดไม่ออก ยังไม่อยากทำงานเลย มีตัวเลือกให้ คือ 1. ไปเที่ยวต่างประเทศ 2. ไป Work and Travel 3. ไปทำกิจกรรมเข้าค่ายต่างๆ หรือ อาสาสมัคร

ไปเที่ยว

ถ้าไม่อยากทำงาน อยากเปิดโลก อยากท่องเที่ยวในที่ใหม่ๆ แนะนำ ไปเที่ยว ไม่ว่าจะตะเวนเที่ยวในประเทศ หรือ หาประสบการณ์ใหม่ ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าปัจจัยด้านการเงินพร้อม ที่บ้านไม่ได้ติดขัดว่าอะไร ก็ลุยเลย

การไปท่องเที่ยว คือ การสร้างประสบการณ์ให้ตัวเอง ดีกว่าการไปลงทุนในเรื่องการซื้อของต่างๆ เพราะ การซื้อประสบการณ์เป็นสิ่งที่เราจะจดจำมันไปอีกนาน นึกถึงทีไรก็จะมีแต่ความทรงจำดีดี ถ้าหลังเรียนจบไม่รู้จะทำอะไร ลองออกไปเที่ยว ออกไปพักผ่อนความเหน็ดเหนื่อยจากการเรียนมาหลายปี บางทีกลับมาอาจจะได้รับแรงบันดาลใจ หรือ ไอเดียดีดี ที่ให้ทำในสิ่งที่เราต้องการก็ได้

ไป Work and Travel

ถ้าตัวเลือกของคุณคือ ไม่อยากทำงาน อยากไปเที่ยวต่างประเทศ และอยากหาประสบการณ์การทำงานไปด้วย ขอแนะนำให้ไป Work and Travel หรือ Work and Holiday การไป Work and Travel คือ การไปทำงานช่วงสั้นๆ ที่ต่างประเทศ อย่างเช่นประเทศที่นิยมไปกันคือ อเมริกา ไปทำงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วัฒนธรรม การใช้ชีวิต เปิดโลกชีวิตในต่างประเทศ เจอเพื่อนใหม่ๆ ทั้งไทยและต่างชาติ ไปเรียนรู้ อดทนการใช้ชีวิตด้วยตัวเองในต่างแดน ซึ่งได้ทั้งความสนุก และ แถมได้เงินอีกด้วย

หลังจบโครงการเรายังสามารถนำเงินที่เราทำงาน ไปเที่ยวต่อในที่ต่างๆ ที่เราต้องการได้อีกด้วย หาเงินด้วยตัวเอง เอาไปเที่ยวเอง ทั้งสนุกและท้าทายสุดๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เด็กรุ่นใหม่ก็ทำกัน

เข้าค่าย หรือ ทำกิจกรรมอาสา

ถ้ายังอยากได้ความรู้ ความสนุก รู้จักคนกลุ่มใหม่ๆ หรือ อยากใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขอแนะนำ ไปเข้าค่ายที่เราสนใจ หรือ ทำงานอาสาสมัครในประเทศ หรือ ต่างประเทศ การที่เราได้ไปเข้าค่ายไม่ว่าจะเป็น ค่ายความรู้ต่างๆที่เราสนใจ หรือ จะค่ายอาสาสมัครช่วยเหลือผู้อื่น จะทำให้เราได้รับความรู้ใหม่ๆ รู้จักผู้คนใหม่ๆ เรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ฝึกภาษาได้ ฝึกฝนทักษะในด้านต่างๆ ด้านการเอาตัวรอด การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และที่สำคัญเป็นการท้าทายตัวเอง ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวปนะสบการณ์ที่ดีที่สุด

การที่เราเก็บประสบการณ์จากหลายๆ สิ่ง จะทำให้ประวัติหรือพอร์ตของเรามีความน่าสนใจและสามารถต่อยอดไปในอนาคตได้ ดูมีความน่าสนใจ โดดเด่นมากกว่าคนอื่น ส่วนใครที่อยากออกค่ายอาสาที่ต่างประเทศ มีโครงการมากมายให้ได้เลือกไป นอกจากเราจะได้ไปทำอาสาแล้ว ที่สำคัญคือ ได้ไปเที่ยวด้วย ถือเป็นการใช้ช่วงเวลาให้เป็นประโยชน์อย่างมากเลย

ถ้าคำตอบคือ C. รู้สึกยังอยากเรียนอยู่ เรามีตัวเลือกมาให้เลือกนั้นคือ 1. เรียนต่อ และ 2.เรียนคอร์สสั้นเสริมทักษะ

เรียนต่อ

ถือเป็นทางเลือกระดับต้นๆ ที่เด็กจบใหม่ เลือกระหว่างจะทำงานเลย หรือ เรียนต่อเลย ข้อดีของการเรียนต่อเลย คือ เรายังมีไฟในการเรียนอยู่ มีความกระตือรือร้นที่จะใฝ่ความรู้ เพราะ พึ่งจบจากการเรียนปริญญาตรี เราก็ยังมีความรู้สึกว่า การเรียนต่อเป็นเรื่องที่สนุก , การเรียนทำให้เราเปิดโลกเพิ่มพูนความรู้ในสิ่งที่เราชอบ และ เหมาะกับคนที่รู้แล้วว่าชอบทำงานอะไร ในอนาคตอยากทำงานแบบไหน , ได้อัพเกรดโปรไฟล์ของตัวเอง พัฒนาทักษะในด้านที่ยังขาดและที่อยากเรียนรู้เพิ่ม

แต่ข้อเสีย คือ อาจจะประสบการณ์น้อยกว่าคนอื่นใน Class เรียน เพราะ การเรียนต่อระดับปริญญาโท ส่วนใหญ่จะมีแต่คนที่ทำงานแล้ว เราอาจจะไม่มีเรื่องราวประสบการณ์การทำงานมาถกเถียงในชั้นเรียน แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะ ทุกอย่างสามารถฝึกและเพิ่มพูนทักษะกันได้

สำหรับใครที่อยากเรียนต่อต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวเรื่องการสอบวัดระดับภาษา เช่น TOEFL , IELTS , GMAT หรือ GRE เป็นต้น แล้วแต่ว่ามหาวิทยาลัยที่ต้องการจะรับรองคะแนนประเภทไหน และ คะแนนระดับเท่าไหร่ ซึ่งถ้าต้องการไปจริงๆ การเตรียมความพร้อมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และ ต้องเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่เมื่อไปอยู่ที่นั้นด้วย

เรียนคอร์สสั้น

การเรียนคอร์สสั้น เป็นการเสริมทักษะความรู้ที่เรายังขาดอยู่ หรือ เป็นสิ่งที่เราสนใจ  เช่น ไปเรียนภาษาอังกฤษ แล้วไปสอบวัดระดับภาษา ก็จะทำให้โปรไฟล์เราดีขึ้น , ไปเรียนคอร์สสอนวาดรูป-ตัดต่อ-ถ่ายภาพ , คอร์สสอนทำอาหาร-ขนม เพื่อนำทักษะไปเปิดร้าน หรือ ทำงานในด้านที่สนใจ เป็นต้น

การเรียนคอร์สสั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เป็นการเพิ่ม Skills ให้กับตัวเอง หรือ เป็นสิ่งใหม่ที่เราไม่เคยลอง แล้วอยากลองทำต่อในอนาคต การทำอะไรใหม่ๆ การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นสิ่งดีมากในชีวิตมนุษย์ เพราะ มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงทักษะที่เพิ่มขึ้น ความพยายาม และ ที่สุดคือ ทำให้เราค้นหาตัวเองเจอ ถ้าคิดไม่ออกว่า จบแล้วจะทำอะไรดี ลองไปเข้าคอร์สที่เราสนใจดู ไม่แน่อาจจะเจอคำตอบของคำถามก็ได้

จริงๆ แล้ว ชีวิตเรามันไม่ได้มีแค่ตัวเลือก A B C D หรอก เราสามารถสร้างตัวเลือกในชีวิตได้อีกมากมาย ถ้าเรายังสับสนอยู่ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ ใครๆ ก็เคยสับสนกันทั้งนั้น ใจเย็นๆ และให้เวลากับตัวเอง แต่ถ้ารู้ทางที่ชอบแล้ว ก็ลุยเลย เพราะ มันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเราไม่ได้ลองทำมัน Just do It! 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save