เราอยากทำอะไรกันแน่ ? เป้าหมายของเราคืออะไร ? คำถามที่หลายคนถามตัวเองซ้ำๆ และมองข้ามไปบ่อยๆ เราลองมาหาคำตอบให้สองคำถามนี้ ถึงแม้อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แต่เราอยากให้ทุกคนยังไม่ลืม Passion ในการลงมือทำอะไรซักอย่าง และได้มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตให้สนุกยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็เป็นเป้าหมายเล็กๆ ในปีนี้ก่อนก็ได้ !! ถามตัวเอง 3 คำถาม ลองคิดง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะ !! ลองนึกดูคำตอบทั้งสามจะเชื่อมกันเป็นอะไรซักย่าง อาจไมช่อะไรใหญ่โต แต่คำตอบพวกนี้จะทำให้คุณรู้จักความต้องการของตัวเองมากขึ้น วิชาอะไรที่คุณสามารถอ่านหนังสือเรียนได้โดยไม่เบื่อซะก่อน คุณอยากทำอะไรต่อเนื่องไป 5 ปี โดยไม่จำเป็นต้องได้ค่าจ้าง คุณจะใช้เวลากับอะไร หากคุณมีเงินเก็บมากพอจนใช้ไม่หมดไปทั้งชีวิต เช่น ซื้อรถในฝันแล้วขับไปท่องเที่ยว, หาชายในฝันแล้วแต่งงาน, เรียนภาษาอังกฤษแล้วไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก ฯลฯ อะไรที่รู้สึกว่าไม่ใช่ให้รีบก้าวออกมา เชื่อว่ามนุษย์ทำงานเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้รักงานที่เราทำ การตื่นเช้าออกจากบ้านในแต่ละวัน, งานที่ทำไปวันๆ จนรู้สึกตัวเองไร้ค่า จนจิตใจห่อเหี่ยว แต่ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ถึงไม่ยอมก้าวออกมาจากงานที่ทำงานอยู่สักที หนึ่งในเหตุผลนั้นน่าจะเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าเราอยากทำอะไร ซึ่งการรีบก้าวออกมาจะเป็นการกระตุ้นให้เรารีบหาสิ่งที่เราอยากทำให้เร็วที่สุด มันอาจไม่ง่ายนักทั้งโอกาสที่มีอยู่และต้องยอมทิ้งมันรวมไปถึงกับการรับมือกับปัญหาต่างๆ แต่อย่างน้อยเราก็จะเห็นเป้าหมายในระยะสั้นที่เราอยากทำ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ใช่ที่สุด แต่ก็จะเป็นความท้าทายใหม่ๆ ให้เรารู้สึกกระตือรือร้นกับชีวิตมากขึ้นแน่ๆ คิดถึงสิ่งที่เราสนใจตอนยังเด็ก ใครยังจำ สิ่งที่เราชอบทำตอนยังเด็ก อย่างการ์ตูนตอนเช้า, ลองเอาใบไม้มาทำเป็นกับข้าว, วาดรูปเล่น, ดูหนังแล้วแต่งเรื่องแฟนตาซีต่อ, ขีดเขียนกำแพง, สร้างบ้านต้นไม้ ฯลฯ ก่อนที่เราจะได้รับแรงกดดันทั้งจากการเรียนเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ หรือมีใครบอกว่าเราเหมาะกับอะไร ควรทำงานอะไร ความรู้สึกกับสิ่งที่เราชอบตอนยังเด็กหากเราได้หวนคิดดูอีกครั้ง เราอาจเจอสิ่งที่เราชอบใช้เวลากับมันก็ได้ เพราะมันจะช่วยให้เราได้เคลียร์ความคิดและรู้จักความสุขในแบบที่เราไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน หรือหากใครมีกิจกรรมยามว่างที่ชอบอยู่แล้ว อาจลองนำมันมาขยายให้มีบทบาทมากขึ้นในชีวิต เพื่อให้เรารู้สึกสนุกตื่นเต้นกับการใช้ชีวิตมากขึ้นด้วย อย่าคิดว่า Passion ต้องเป็นแค่อาชีพเท่านั้น Hunter S. Thompson นักเขียนนิยายและบทความชื่อดังเคยพูดว่า “อะไรก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกเลือดสูบฉีดแรง หัวใจพองโต สิ่งนั้นคุ้มค่ากับการจะทำ” มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่คุ้มค่าในการทำโดยสิ่งนั้นอาจไม่ได้สร้างรายได้หรือมูลค่าให้กับเรา และการทำสิ่งนั้นเราก็แค่มีความสุขกับมันไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองว่าต้องทำสิ่งนั้นให้ดี เราจะพยามหาเงินให้ได้มากพอที่จะมีเวลาไปทำสิ่งนั้นเอง นั่นก็เป็น Passion อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน อย่างใครชอบวิ่งก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งถึงขั้นเป็นนักกีฬามืออาชีพ แค่หาเวลาไปวิ่งให้ได้ในแต่ละอาทิตย์ หรือหาเงินจนซื้อรองเท้าวิ่งในฝันได้ “การวิ่ง” ก็จะเป็น Passion อีกอย่างที่ช่วยผลักให้ชีวิตเรามีความหมายยิ่งขึ้น ถ้าเป้าหมายใหญ่ไป ลองย่อยให้เล็กลง และตั้งไทม์ไลน์ให้ละเอียด การตั้งเป้าหมายตอนต้นปีบางอย่างอาจยิ่งใหญ่ไปจนเราไม่มีเวลาโฟกัสที่จะเปลี่ยนแปลง เราลองย่อยเป้าหมายให้เล็กลงดู เพื่อให้สำเร็จง่ายขึ้น และมั่นใจว่าเราจะสามารถทำให้สำเร็จได้จริงๆ เช่น จากจะลดน้ำหนัก 10 กิโลในปีนี้ ก็เปลี่ยนเป็น 5 กิโลซะ และตั้งเป้าไปเลยว่าจะทำให้ได้ อีกสองเดือนข้างหน้า หรืออยากเรียนอะไรใหม่ๆ ใรปีนี้ ก็อาจเริ่มจากลองลงเรียน Workshop ซัก 1 คอร์สในเดือนหน้า ทำเป้าหมายให้ทำง่ายขึ้นที่สำคัญคือ ได้ทำ!! ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเห็นว่ามันใหญ่เกินไปและละเลยที่จะทำมันด้วย อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วย หากเราทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่าให้ผ่านไปเปล่าๆ รางวัลที่เราให้ตัวเองอาจจะเล็กน้อยจนไปถึงของชิ้นใหญ่แล้วแต่กำลังและความใหญ่ของเป้าหมาย อย่างถ้าลดน้ำหนักสำเร็จอาจให้รางวัลตัวเองด้วยเครื่องดื่มอ้วนๆ สักแก้ว (แค่แก้วเดียวพอนะ!!) หรือหากเราได้ส่งประกวดถ่ายภาพที่เล็งมานาน อาจให้รางวัลตัวเองด้วยสายคล้องกล้องอันใหม่ นอกจากจะเป็นกำลังใจดีๆ ยังช่วยให้เรามีแรงในการทำเป้าหมายต่อๆ ไปเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะ เริ่มทำตอนนี้เลย !! หลังจากไล่มาหลายๆ อย่าง มันจะไม่เป็นผลเลยถ้าเราไม่ลงมือทำ เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้ทุกคนคิดสิ่งที่อยากทำ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อาจะเป็นแค่ ลดการกินน้ำอัดลม เริ่มเขียนไดอารี่, อ่านหนังสือวันละบท, กินผักให้มากขึ้น, นอนก่อนเที่ยงคืน ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นอะไร เริ่มทำเลย ไม่ต้องรอแล้ว ทำทีละนิด Passion จะตามมาจากการเริ่มทำสิ่งต่างๆ และค้นพบสิ่งที่เราคิดว่าใช่นั่นเอง ขอบคุณที่มาจาก : Telegraph, The Muse, FORBES, INC