หลังจากเห็นกระแสรีวิวภาพยนตร์เรื่อง LA LA LAND มาสักพัก ก็ได้โอกาสไปดูเองแล้วววว ! และขอบอกเลยว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ ไม่ว่าจะด้วยตัวบท การกำกับ นักแสดง การแต่งกาย องค์ประกอบศิลป์ รวมถึงดนตรีประกอบที่ไพเราะ นอกจากนี้ยังมีรางวัลเข้าชิงสูงสุดลูกโลกทองคำมาเป็นตัวการันตีอีกด้วย มาทำความรู้จักและอ่านรีวิว (แบบไม่สปอยด์) กันได้เลยยย รู้จักกับ La La Land (นครดารา) เป็นภาพยนตร์มิวสิคัล ที่บอกเล่าเรื่องราวของ มีอา (เอ็มมา สโตน) สาวสวยที่มีฝันอยากจะเป็นนักแสดงดาวรุ่ง และได้พบรักกับ เซบาสเตียน (ไรอัน กอสลิ่ง) นักเปียโนผู้อยากเปิดบาร์แจ๊สเป็นของตัวเอง แต่การไล่ตามความฝันของทั้งคู่ก็ทำให้ความสัมพันธ์รักระหองระแหงบ้างกว่าความฝันจะเป็นจริงได้ นำแสดงโดย ไรอัน กอสลิ่ง และ เอ็มมา สโตน ซึ่งทั้งคู่เคยได้แสดงร่วมกันมาแล้วใน Crazy, Stupid, Love(2011) และ Gangster Squad(2013) กำกับและเขียนบทโดย เดเมี่ยน ชาเซลล์ (Damien Chazelle) ผู้กำกับจากเรื่อง Whiplash (2013) ได้คะแนน IMDb 8.9/10 และ Rotten Tomatoes 93% เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globes 2017) สูงสุดถึง 7 สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก (Best comedy or musical) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภท ภาพยนตร์เพลงหรือตลก (Best actress in a comedy or musical) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก (Best actor in a comedy or musical) ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best director) บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Screenplay) ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score) เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song) เมื่อ Ryan Gosling พบกับ Emma Stone นักแสดงทั้งสอง มีเคมีที่ลงตัวดีมาก นับเป็นการเจอกันครั้งที่ 3 ที่เหมาะสมที่สุด ถ้าไม่ใช่สองคนนี้ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะเป็นใคร ตั้งแต่ฉากแรกที่ทั้งคู่สบตากัน สานความสัมพันธ์กัน จนรักกัน ทุกฉากทำให้เราคิดในใจว่าเอาออสการ์ไปเถอะ เอ็มมา สโตน ได้โชว์ฝีมือการเต้น และโปรยเสน่ห์ผ่านรอยยิ้มและดวงตากลมโตที่เป็นเอกลักษณ์ ไรอัน กอสลิ่ง ได้แสดงฝีมือการเล่นเปียโน(ที่โหดมาก) ด้วยลีลาที่น่ารักสุดๆ ไปเลย มีทั้งความเท่และตลก(แบบไรอัน) ผสมผสานทำให้ดูไปอมยิ้มไป งานอาร์ตและภาพโคตรโหด องค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ทำออกมาได้ประเสริฐเลิศเลอเพอร์เฟ็ก (คือยิ่งกว่าคำว่าดี ไม่มีอะไรจะติเลยจริงๆ) แต่ละซีนเป็นเหมือนกับงานศิลปะที่สามารถจับออกมาเป็นภาพนิ่งสวยๆ ได้ทุกซีน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งฉากที่มีความวินเทจ และสีสันสดใส รวมถึงการจัดไฟในหนังเรื่องนี้ก็เป็นจุดเด่นมาก เป็นมิติใหม่ๆ ในการนำไฟมาเปลี่ยนสลับอารมณ์ในแต่ละฉาก (ไม่อยากสปอยด์เพราะฉะนั้นต้องเข้าไปดูกันเอง) มีฉากที่ถ่ายทำแบบ Long take เยอะมาก อย่างที่เราจะได้เห็นกันมาบ้างแล้วในหนัง Whiplash (2013) ซึ่งการถ่ายทำแบบ Long take ในหนังมิวสิคัล ถือว่าเป็นการโชว์โหดของแท้ เพราะไหนจะต้องเต้นไปด้วย ร้องไปด้วย แล้วยังจะต้องถ่ายให้ได้ภาพที่สวยงามอีก การแต่งกาย แต่ละชุดของนักแสดงนั้นได้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งรวมๆ ทั้งเรื่องแล้วนับเป็นหลายสิบชิ้นเลย โดยจะมีกลิ่นอายของความวินเทจสูงมาก ชุดของไรอัน กอสลิ่ง จะมาในแบบผู้ชายเนี้ยบๆ ใส่เสื้อเชิ้ต เนคไท และกางเกงขายาว แต่ยังคงความวินเทจเท่ๆ ไว้อยู่ ชุดของเอ็มมา สโตน จะมีสีสันสดใส เน้นไปในโทน สีเหลือง สีแดง และสีน้ำเงิน สื่อถึงความเป็นคนช่างฝันโลกแฟนตาซีมากๆ ซึ่งแต่ละชุดใส่ออกมาแล้วโคตรเวรี่น่ารัก ! ทุกเพลงประกอบมีเรื่องราว ทุกเพลงมีกลิ่นอายของความแจ๊ส เมื่อฟังแล้วจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกอะไรบางอย่าง ทั้งสุข เศร้า เหงา สามารถลองฟังและร้องตามกันไปก่อนได้ สรุป เอาคะแนนไปเลย 9/10 คงไม่บ่อยนักที่เราจะได้ชมภาพยนตร์มิวสิคัล และน่าจะกินใจใครหลายๆ คนโดยไม่จำเป็นต้องชอบดนตรีแจ๊สก็ได้ (ยิ่งไม่ชอบยิ่งอยากให้ลองชม รับรองว่าจะติดใจ) แค่เข้าไปนั่งฟังเพลงก็คุ้มแล้ว แค่เข้าไปดูภาพและองค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ก็คุ้มแล้ว หัก 1 คะแนนที่เนื้อเรื่อง เพราะอาจจะไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็สามารถทำออกมาในมุมมิวสิคัลที่กลมกล่อมดี นักแสดงต้องได้ออสการ์ เริ่มฉาย sneak preview วันที่ 29 ธันวาคม และฉายจริงวันที่ 12 มกราคม 2560 ที่มาภาพจาก imdb