รู้จักกับ 'โรคพิษสุนัขบ้า' อันตรายใกล้ตัวที่ทำให้ถึงตายได้

Writer : Sam Ponsan

: 13 มีนาคม 2561

did-you-know-about-rabies-09

ดูเหมือนว่าปีนี้ ‘โรคพิษสุนัขบ้า’ กลายเป็นหนึ่งในคำเตือนที่ทั้งกระทรวงสาธารณะสุข, กรมปศุสัตว์ และกรมควบคุมโรค ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากหลายพื้นที่ทั่วไทยรวมถึงกรุงเทพฯ เองเกิดการระบาดของเชื้อพิษสุนัขบ้าในหมู่สุนัขจรจัดอย่างหนัก บางจุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว อีกทั้งปีนี้ถือว่าโรคพิษสุนัขบ้าระบาดหนักสุดในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว

สถานการณ์ปัจจุบันกับการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า 

did-you-know-about-rabies-10

ทำไมเราถึงคิดว่าเรื่องนี้ควรตื่นตัวและชวนให้ตระหนกถึงความน่ากลัวของโรคพิษสุนัขบ้าขนาดนี้ เนื่องจากว่าโรคพิษสุนัขบ้านั้นหากผู้ป่วยโดนกัดแล้วไม่ยอมไปรับวัคซีนเพื่อรักษาตามเวลาที่กำหนดมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิตได้เลย จึงนับว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์ที่อันตรายถึงชีวิต คนที่เสี่ยงก็มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่อให้สุนัขที่เลี้ยงไว้ก็เสี่ยงจะติดเชื้อถ้าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สถานการณ์ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าดังนี้

  • ปัจจุบันมีพื้นที่สีแดงที่เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้าระบาด 22 จังหวัดได้แก่ สุรินทร์ ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา น่าน บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ร้อยเอ็ด สงขลา ระยอง ตาก ศรีสะเกษ มหาสารคาม นครราชสีมา ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ อำนาจเจริญ ยโสธร สมุทรสงคราม และนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
  • อีกกว่า 42 จังหวัดถูกจัดเป็นพื้นที่สีเหลือง หรือพื้นที่เฝ้าระวัง
  • มี 21 จังหวัดที่เป็นพื้นที่สีเขียวไม่พบการระบาด
  • มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 3 ราย (ข้อมูลเมื่อ 2 มีนาคม 2561)
  • ในกรุงเทพฯ มีผู้ติดเชื้อ 6 คน (ข้อมูลเมื่อ 6 มีนาคม 2561)
  • ปีนี้นับเป็นปีที่มีโรคพิษสุนับบ้าระบาดมากที่สุดในรอบ 2 ปี
  • กรมปศุสัตว์รายงานว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2561 ตรวจพบสัตว์ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า 315 ตัว ซึ่งสูงกว่าระยะเวลาเดียวกันของปี 2560 กว่า 2 เท่า
  • ขณะนี้อยู่ในระหว่างเฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อ

การป้องกันตัวจากโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อโดนกัด

did-you-know-about-rabies-11

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่โดนสุนัขกัด แต่สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือการป้องกันตัวเองและคนรอบข้างจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งคนที่โดนสุนัขต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อกัด ข่วน หรือเลีย ทางกรมควบคุมโรคแนะนำแนวทางในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าดังนี้

  • ล้างแผลทันทีด้วยน้ำ และฟอกด้วยสบู่หลายๆ ครั้งถ้าแผลลึกล้างถึงก้นแผลอย่างน้อย 15 นาที แต่อย่าให้แผลช้ำ
  • ควรปล่อยให้เลือดไหลออก อย่าบีบหรือเค้นแผล เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจาย
  • เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ควรปิดปากแผล แต่หากเลือดออกมากหรือแผลใหญ่มากควรปิดปากแผล
  • ไปที่โรงพยาบาลเพื่อฉีดป้องกันบาดทะยัก รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนใหญ่จะฉีดวัคซีน 3 เข็ม ระยะเวลาห่างกันโดยเข็มแรกกับเข็มที่สองห่างกัน 7 วัน ส่วนเข็มที่สามห่างจากเข็มที่แรก 21 ถึง 28 วัน บางรายแพทย์อาจจะนัดมาฉีดอีกรอบเพื่อกระตุ้นวัคซีนทุก 6 เดือนกรณีที่มีความเสี่ยงสูง
  • หากเป็นไปได้ควรกักสัตว์ที่กัดไว้ดูอาการอย่างน้อย 15 วัน ถ้ามีอาการผิดปกติ หรือหนีไปให้สงสัยว่าป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
  • หากสัตว์มีอาการปกติ ผู้ป่วยสามารถหยุดฉีดวัคซีนได้
  • ปัจจุบันไม่มียารักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ 100%  มีแต่การฉีดยาเพื่อป้องกันตามอาการ

อาการของผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าที่ไม่ควรมองข้าม

did-you-know-about-rabies-12

อาการของผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะติดเชื้อพิษสุนัขนั้นมีวีธีเฝ้าสังเกตอาการความผิดปกติที่ญาติหรือกระทั่งผู้ป่วยเองควรจะทราบไว้หลายอาการ หากมีอาการดังต่อไปนี้หลังจากโดนสุนัขกัด หรือแม้กระทั่งรับวัคซีนแล้วก็ตามควรรีบส่งตัวไปพบแพทย์ทันที

  • ปวดแสบปวดร้อน
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
  • ชัก
  • ปวด หรือบวมบริเวณที่ได้ฉีดวัคคซีน(กรณีที่ฉีดวัคซีนแล้ว)
  • ปวดหัว
  • หายใจถี่ หรือหายใจลำบาก
  • คอติด หรือมีอาการแขนและขาบวม
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม
  • การมองเห็นผิดปกติ

สัตว์ที่เสี่ยงเป็นพาหะโรคพิษสุนัขบ้า 

did-you-know-about-rabies-13-

ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้นที่มีอาการเสี่ยงจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดก็มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าได้ทั้งนั้น โดยสัตว์ที่มีโอกาสเป็นพาหะนำโรคอันดับหนึ่งได้แก่ สุนัข แมว วัว ควาย ลิง ชะนี กระรอก กระแต เสือ หมี หนู และ ค้างคาว แต่ที่ประเทศไทยพาหนะที่แพร่เชื้ออันดับ 1 มาจากสุนัข คิดเป็นอัตราส่วนอยู่ที่ 94% จากสัตว์ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด

Writer Profile : Sam Ponsan
นักเขียนหนุ่มสุดเท่ที่ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ ขนาดฝนตกยังยอมขี่รถตากฝนเลยเพราะคิดว่าทำแล้วเท่ งานอดิเรกของเขาคือการไปออกกำลังกายเพราะเชื่อว่าทำแล้วเท่ ปัจจุบันก็ยังชอบทำ Content อะไรเท่ๆ ลงเว็บ Mango Zero ด้วย แหม่...เท่จริงๆ
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save