คุณเคยตกหลุมรักใครสักคนไหม ? ยังพอจำกันได้ไหมว่า เหตุผลที่คุณตกหลุมรัก คืออะไร ? นิสัย ? รักแรกพบ ? เหตุการณ์อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังตกหลุมรักคนๆ นี้ แล้วจะเป็นไปได้ไหม ว่าเหตุผลที่คุณตกหลุมรักจะสามารถกำหนดได้ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน Arthur Aaron นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Brookในตอนแรกเขาคิดแค่ว่าอยากให้คนสองคนมีความรู้สึกคุ้นเคยกัน, สนิทกันมากขึ้นเท่านั้น แต่คู่หนึ่งในผู้ทดลอง ซึ่งเป็นคนแปลกหน้า 2 คน กลับตกหลุมรักกันในแล็บของเขา และยังแต่งงานกันด้วยหลังจากนั้น เอาล่ะมาดูกันว่าการทดลองนี้มันยังไงกันแน่ สูตรการตกหลุมรักนี้มี 2 ขั้นตอนง่ายๆ คือ แลกเปลี่ยนคำถาม – คำตอบ คำถาม 3 ชุด จำนวน 36 ข้อ จ้องตากัน 4 นาที โดยห้ามพูด เพียง 2 ขั้นตอนนี้การที่เราจะเปิดใจและรู้สึกใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าที่เราไม่คุ้นเคย หรือมากกว่านั้นอาจทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างในตัวใครบางคนจนเกิดเป็นความรักขึ้นได้ด้วย แลกเปลี่ยนคำถาม – คำตอบ จำนวน 36 ข้อ เราลองมาดูชุดคำถามในขั้นตอนที่ 1 กันก่อนเลย ซึ่งรวมๆ จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที หรือใครอยากกดเล่นแบบในเว็บไซต์เลื่อนไปทีละคำถามจาก NY Times คลิกที่นี่ เลย Set 1 ถ้าให้เลือกคนที่คุณอยากให้มากินข้าวเย็นด้วยมากที่สุดในโลกนี้คือ ? คุณอยากมีชื่อเสียงหรือไม่ ? มีชื่อเสียงในทางไหน ? ก่อนที่จะโทรหาใคร คุณจะทวนสิ่งที่จะพูดก่อนหรือไม่ ? เพราะอะไร ? วันที่สมบูรณ์แบบของคุณ ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ครั้งสุดท้ายที่คุณร้องเพลงกับตัวเอง หรือร้องให้คนอื่นคือเมื่อไหร่ ? ถ้าคุณมีอายุถึง 90 ปี โดยที่ร่างกายและจิตใจของคุณยังคงเหมือนตัวเองตอนอายุ 30 อยู่ ใน 60 ปี สุดท้ายของชีวิตคุณอยากจะทำอะไร ? คุณมีความลับเกี่ยวกับความตายของคุณไหม ? บอกสิ่งที่คุณและคู่ มีเหมือนกัน 3 ข้อ ? รู้สึกขอบคุณอะไรในชีวิตมากที่สุด ? ถ้าให้เปลี่ยนสิ่งที่ทำให้คุณเติบโตมา คุณจะเปลี่ยนอะไร ? ใช้เวลา 4 นาที อธิบายชีวิตของคุณให้เยอะที่สุด ถ้าคุณตื่นขึ้นมา แล้วได้รับความสามารถ 1 อย่าง สิ่งนั้นจะเป็นอะไร ? Set 2 ถ้ามีลูกแก้ววิเศษที่จะบอกอนาคตของคุณได้ คุณอยากรู้เรื่องอะไรมากที่สุด ? คุณมีความฝันที่อยากทำมานานแล้วหรือไม่ ? และทำไมยังไม่ได้ทำมันซักที ? อะไรคือความสำเร็จสูงสุดของชีวิตคุณ ? คุณให้คุณค่าอะไรมากที่สุดในมิตรภาพ ? อะไรคือความทรงจำที่มีค่าของคุณที่สุด ? อะไรคือความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดของคุณ ? ถ้าคุณเพิ่งรู้ว่าจะมีชีวิตอีกได้แค่ 1 ปี คุณจะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตของคุณหรือไม่ ? เพราะอะไร ? มิตรภาพสำคัญกับคุณอย่างไร ? ความรักและความหลงไหล อยู่ในบทบาทไหนในชีวิตคุณ ? บอกข้อดีของลักษณะของคู่ของคุณมา 5 ข้อ คุณสนิทกับครอบครัวมากแค่ไหน ? รู้สึกว่าชีวิตวัยเด็กมีความสุขมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่ ? คุณรู้สึกอย่างไรกับความสัมพันธ์ของคุณกับคุณแม่ ? Set 3 ช่วยกันแต่งประโยคโดยใช้คำว่า เรา ตัวอย่างเช่น เราทั้งคู่รู้สึกว่า… เติมประโยคนี้ให้สมบูรณ์ “ฉันอยากมีใครสักคนที่ฉันสามารถแบ่งปัน…..” ถ้าคุณจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกับคู่ของคุณ. มีอะไรสำคัญที่คุณอยากบอกให้เขารู้ไหม ? บอกคู่ของคุณว่าคุณชอบอะไรในตัวเขา (บอกแบบที่จะไม่พูดแบบนี้กับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก) เล่าเรื่องน่าอายในชีวิตของคุณ คุณร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น, กับตัวเอง ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ? บอกคู่ของคุณถึงสิ่งที่คุณชอบหรือประทับใจในตัวเขา เรื่องอะไรที่คุณซีเรียส เอามาล้อเล่นไม่ได้ ? ถ้าคุณต้องเสียชีวิตลงในเย็นวันนี้ โดยไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เลย คุณจะเสียใจที่ไม่ได้บอกอะไรกับใครไหม ? แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกสักที ? ถ้าบ้านของคุณไฟไหม้ทั้งหลัง หลังจากช่วยชีวิตคนที่คุณรักหรือสัตว์เลี้ยงแล้ว คุณสามาถรักษาของได้หนึ่งอย่าง สิ่งนั้นคือ ? การจากไปของสมาชิกคนใดในบ้าน จะทำให้คุณเสียใจมากที่สุด แชร์ปัญหาส่วนตัวของคุณ และขอคำแนะนำว่าคู่ของคุณจะรับมืออย่างไร ? และในความคิดของเขาคิดว่าความรู้สึกที่คุณมีกับปัญหานี้ควรเป็นอย่างไร ? จ้องตากัน 4 นาที โดยห้ามพูด ใครทดลองทำกันแล้วได้ผลมาเป็นยังไงอย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะ 😀 ในปี 2015 ในเวที TED talk ,Mandy Len Catron หญิงสาวที่เคยเข้าร่วมการทดลองกับชุดคำถามนี้ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอได้พบหลังจากการทดลอง และส่งเรื่องราวเข้าไปใน New York Times เธอบอกว่าทุกวันนี้ทุกคนไม่ได้ถามเธอว่า “คำถามพวกนั้นทำให้คนตกหลุมรักกันได้จริงหรือ” แต่เป็นคำถามที่ว่า “ทุกวันนี้ยังคบกันอยู่ไหม” เธอได้เข้าใจความหมายของความรักมากขึ้นจากคำถามที่โดนถามซ้ำไปซ้ำมานี้ โดยเธอได้บอกว่าการตกหลุมรักนับเป็นเรื่องเล็กมากๆ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการทำให้ความรักมั่นคงสม่ำเสมอในทุกๆ วัน และเธอเชื่อว่าความรักไม่ใช่แค่รักวันนี้ หรือรักวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้เธออยากถูกรักโดยคนที่เธอรักตลอดไป “What’s the difference between falling in love and staying in love ?” ถึงอย่างไรก็ตาม Mandy กับหนุ่มคนที่เธอทำการทดลองด้วยก็คบกันมายาวนานจนถึงปัจจุบันเลยนะ ดู “To Fall in Love With Anyone, Do This” ได้ที่นี่ ขอบคุณที่มาและข้อมูลจาก : Bigthink, Journl.sagepub, NYTimes Style, NYTimes Fashion