หลังจากพี่ตูน บอดี้สแลม วิ่งมาอย่างต่อเนื่องรวมระยะทางกว่า 2,215.40 กิโลเมตรจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะวิ่งทั้งสิ้น 2,191 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มายังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในที่สุดหลังสิ้นแสงสุดท้าย ของวันที่ 25 ธันวาคม พี่ตูน และคณะก้าวคนละก้าว ก็วิ่งจนถึงจุดสูงสุดของไทยแล้วเรียบร้อย พร้อมยอดบริจาคที่ทะลุไปแล้วกว่า 1,143 ล้านบาท ตลอดเวลา 55 วันที่ผ่านมามีเหตุการณ์ใดบ้างที่น่าจดจำเกี่ยวกับโครงการก้าวคนละก้าว ที่พี่ตูน และคณะทำให้เกิดความสนใจเป็นวงกว้างจนการวิ่งของคนตัวเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่คนไทยต้องจำจดไปอีกนาน และนี่คือ 9 เรื่องที่เราบันทึกไว้ได้ 3 ตุลาคมวันประกาศภารกิจ ‘ก้าว’ รอบใหม่ วันที่ 3 ตุลาคม 2017 ตูน บอดี้แสม ประกาศผ่านเพจ ‘ก้าว’ ด้วยการเซอร์ไพร้ส์คนที่ติดตามเพจก้าว ว่าเขาและคณะจะเริ่มวิ่งเพื่อหาระดมทุนหาเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ตูนตั้งเป้ายอดบริจาคที่ 700 ล้านบาท โดยจะมอบให้กับ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมวิ่งเพื่อให้กำลังใจบุคคลากรทางการแพทย์ที่เหน็ดเหนนื่อย รวมถึงเชิญชวนให้คนออกกำลังกายซึ่งเป็นพื้นฐานของสุขภาพที่แข็งแรง ที่น่าสนใจคือครั้งนี้ตูน จะวิ่งไกลกว่าเดิมจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปยังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระยะทางคือ 2,191 กิโลเมตร วิ่งทั้งสิ้น 55 วัน คำถามที่ตามมาในทันที่ยังไม่ออกวิ่งคือจะไหวเหรอ รวมไปถึงคำวิจารณ์ที่บอกว่าการวิ่งของเขาก็คือเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามคำวิจารณ์ต่างๆ ไม่ส่งผลใดๆ ต่อทีมก้าวคนละก้าว ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป ‘ก้าวแรก’ จากใต้สุดเริ่มต้นวิ่ง 1 พฤศจิกายน 2017 ก้าวแรกของพี่ตูน พี่ป๊อก (อิทธิพล สมุทรทอง) , หมอเมย์ (พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ ) และทีมก้าวคนละก้าว เริ่มต้นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 หลังจากที่ ประกาศบอกคนไทยทั้งประเทศว่าพวกเขากำลังจะวิ่งเพื่ออะไร และวิ่งไปทำไม ก้าวแรกเริ่มต้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ก็เริ่มตั้งแต่วันนั้น ตลอดสองข้างทาง ทำให้เราได้มองเห็นว่าทุกการวิ่งของชายคนนี้มีคนให้กำลังใจ และได้รับความสนใจตลอดตั้งแต่กิโลเมตรแรก ส่วนเงินบริจาคนั้นก็เริ่มต้นทยอยถูกโอนเข้าบัญชีมาตั้งแต่ก่อนวิ่งแล้ว แม้จะดูห่างใกล้จากยอดที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาท รวมถึงระยะทางที่ยังอีกไกล แต่พี่ตูน ก็ออกวิ่งไปโดยไม่บ่น และแวะทักทายทุกคนที่ยืนรออยู่สองข้างทาง บาดเจ็บระหว่างทาง แต่ยัง ‘ก้าว’ ต่อ ออกวิ่งไปได้ไม่กี่วันพี่ตูน ก็เจออาการป่วยเข้าเล่นงานทันที เนื่องจากเขาต้องวิ่งฝ่าฝนของภาคใต้ ที่ตกแทบจะตลอดเวลา เมื่อเจอฝนสลับกับแดดออกทำให้ตูนล้มป่วย ตอนนั้นหมอเมย์ แพทย์ที่ดูแลการวิ่งของเขาตลอดทั้งโครงการที่วิ่งเคียงข้างตูน มาตั้งแต่ก้าวคนละก้าวครั้งแรก แนะนำให้เขาหยุดพักก่อนสักหน่อย แต่ตูนบอกว่า “เราไม่ดื้อหรอก เดี๋ยวเราก็กลับมานอนต่อ ก็ไม่ดื้อนะหมอ จริงๆ อยากจะหายแต่ว่า…” คลิปนั้นถูกเผยแพร่โดยเพจก้าว ความมุ่งมั่นของตูน ทำให้หลายคนน้ำตาซึมและเอาใจช่วยให้วิ่งจนจบ และตลอดเวลาของการวิ่งตูน มีอาการบาดเจ็บมารบกวน บางช่วงต้องหยุดพักเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ท่ามกลางความกังวลของกองเชียร์ ว่าเขาจะวิ่งต่อได้ไหม หรือถ้าวิ่งต่อไปได้ แต่ถึงช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร ทุกคนยินดี #SaveToon เพราะพี่ตูน มีแค่คนเดียว ตลอดระยะเวลาการวิ่งของตูน มีคนหลายคนต้องการที่จะได้สัมผัสตัวพี่ตูน สักครั้งซึ่งนี่เป็นปัญหาตั้งแต่ก้าวคนละก้าว ครั้งแรกแล้วที่ตูน โดนคนที่อยู่สองข้างทางวิ่งเข้ามาเพื่อขอกอด เพื่อขอถ่ายรูป และเพื่อเก็บความประทับใจ แต่ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจากการหยุดบ่อยๆ เมื่อกระแสข่าวอาการบาดเจ็บของตูนที่เกิดจากคนที่มารอเชียร์สองข้างทางดังขึ้น โลกออนไลน์จึงเกิดแฮชแท็ค #SaveToon เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนไม่เข้าไปขัดขวางการวิ่งของตูน และรณรงค์ให้เซลฟี่กับตูน แบบสุภาพและไม่เข้าไปกระชาก ไม่เข้าไปขวางทาง ไม่กระทำการใดๆ จนพี่ตูนก้าวต่อไปไม่ไหว ภายหลังได้มีการจัดขบวนวิ่งใหม่ และเชิญชวนคนดังมาร่วมวิ่งด้วยเพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระพี่ตูน วันนี้พี่ตูนได้อะไร หนึ่งสิ่งที่เป็นสีสันของ ‘ก้าวคนละก้าว’ คือการดู Live แล้วเห็นว่าวันนี้มีคนมอบอะไรให้พี่ตูน ซึ่งก็มีตั้งแต่ได้ตุ๊กตา ได้หมวกปีกกว้าง ได้กีต้าร์ ได้กล้วยทั้งเครือ ได้แวะเล่นปิงปอง ไปจนถึงได้เล่นฮูลาฮูป (…อะไรวะเนี้ย) กิจกรรมของก้าวคนละก้าว เลยไม่ใช่แค่การวิ่งอย่างเดียวให้จบๆ ไปตามสัญญา แต่เป็นการวิ่ง และได้มีโอกาสทักทายผู้คนที่คอยมาให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง ด้านแผนการวิ่งในแต่ละวันของทีมก้าวคนละก้าว ก็ถูกวางเอาไว้อย่างดีเพื่อให้พี่ตูน มีทั้งเวลาในการวิ่ง และเวลาในการพักเบรคพื่อพบปะผู้คนตลอดสองข้างทาง จึงเกิดภาพน่ารักๆ ที่คนได้ดู Live ได้เห็น หรือถ้าเห็นไม่ทันก็มีเพจ ‘วันนี้พี่ตูนได้อะไร‘ เก็บโมเมนต์สิ่งของที่พี่ตูน ได้รับในแต่ละวันไว้ นักกีฬา – ศิลปินดังส่งกำลังใจให้ตูน การวิ่งของตูน ไม่ได้รู้จักกันแค่ในไทย แต่มีคนดังระดับโลกทั้งวงการกีฬา และวงการดนตรีที่ทราบข่าวก็ร่วมส่งกำลังใจมาให้ตูนด้วย ในฝั่งนักกีฬาก็มีทั้ง ‘โม ฟาราห์’ นักวิ่งเหรียญทองสองสมัย, ‘เอเลียด คิปโชเก้’ นักวิ่งระดับโลก, ‘เจมี่ วาร์ดี้’ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ตัวแทนจากเลสเตอร์ ซิตี้ และ ‘แฮร์รี เคน’ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ และตัวแทนจากสเปอร์ ในส่วนของศิลปินก็มีทั้ง ‘เอ็ด ชีแรน’ ที่เซ็นลายเซ็นบนหมวกก้าว เพื่อให้กำลังตูน และ ‘นูโน เบ็ทเทนคอร์ท’ มือกีต้าร์ วงร็อคที่ตูน ชื่นชอบ ‘Extreme’ อัดคลิปให้กำลังใจตูน น้ำใจจากสองข้างทางที่มอบให้ตูน ตลอดสองข้างทางที่พี่ตูนวิ่งผ่าน เราได้เห็นคนมากมายที่เข้ามาเพื่อหยิบยื่น ‘น้ำใจ’ ซึ่งเป็นทั้งรูปแบบของเงินที่ร่วมบริจาค และกำลังใจในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายให้กำลังใจ การแสดงโชว์เล็กๆ จากคนในพื้นที่ ซึ่งทำให้ตูนถึงกับหยุดแล้วลงไปดูอย่างตั้งใจให้สมกับที่พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอคณะก้าวคนละก้าว วิ่งผ่านหากใครได้มีโอกาสชมไลฟ์ตลอดทั้งวันก็น่าจะมีโอกาสเห็นช่วงเวลาที่น่ารัก และเต็มไปด้วยน้ำใจเกิดขึ้นตลอดสองข้างทางตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนถึงกิโลเมตรสุดท้าย อาทิวราห์ เซอร์วิส แบ่งความสุขให้ทุกคน “พี่ตูนน่ารัก…” ใครสักคนพูดขึ้นมาในระหว่างที่เรากำลังดู Live ซึ่งก็จริงอย่างที่เขาว่าไว้เพราะพี่ตูน เล่นแวะทุกป้ายเพื่อลงไปเซอร์วิส แฟนๆ ที่มารอต้อนรับชนิดว่าถูกใจคนที่รอ หากตูน วิ่งผ่านไปเจอเด็กๆ เล่นเพลงแสงสุดท้ายเพื่อต้อนรับ ถ้าไม่ติดขัดอะไร เขาก็กระโจนลงไปร้องเพลงแสงสุดท้าย ด้วยบางจุดที่มีคนแก่รอบริจาคเงินให้ตูน แต่ไม่สามารถออกจากบ้านมาหาได้ พี่ตูนก็วิ่งลงไปหาถึงบ้านแล้วรับน้ำใจนั้นมา แม้จะมีคนห้ามบอกว่าตูน อย่าหยุดวิ่งบ่อยๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือหยุดพัก และลงไปเซอร์วิสแฟนๆ สมกับฉายา ‘อาทิวราห์ เซอร์วิส’ จริงๆ นั่นแหละ ขนาดวันสุดท้ายวิ่งจนถึงแม่สาย พี่ตูน กับวงบอดี้สแลมยังจัดมินิคอนเสิร์ต ร้องเพลง ‘แสงสุดท้าย’ ที่แม่สายเพื่อเซอร์วิส แฟนๆ ที่รอต้อนรับ จะวิ่งไปจนถึง ‘แสงสุดท้าย’ ที่เชียงราย แม้พี่ตูนจะวิ่งจนถึงระยะทาง 2,191 กิโลเมตรตามเป้า และตรงเวลาที่ตั้งใจไว้คือ 25 ธันวาคม แต่เขายังวิ่งไม่ถึงจุดหมาย เหลืออีก 24 กิโลเมตร จะถึงจุดหมายที่วางไว้นั่นคือป้ายเหนือสุดแดนสยาม ที่บริเวณด่านแม่สาย พี่ตูน จึงออกวิ่งต่อเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ที่น่าสนใจคือระหว่างที่ Live มีคนเข้ามาร่วมชมการ Live ช่วงสุดท้าย ยอดวิวสูงสุดที่เห็นทันคือ 2 แสนวิว เยอะที่สุดตั้งแต่มีการ Live ก้าวคนละก้าว ในที่สุดราวๆ 18.30 น.เมื่อสิ้นสุดแสงสุดท้าย พี่ตูน และคณะก็วิ่งจนถึงจุดสูงสุดแดนสยามอย่างที่ตั้งใจไว้ ถือเป็นการสิ้นสุดโครงการก้าวคนละก้าว พร้อมกับแสงสุดท้ายที่ลาลับหายไป ก่อนที่พี่ตูน จะขึ้นเวทีทักทายแฟนคลับ และสรุปรวมยอดบริจาคของโครงการนี้อย่างไม่เป็นทางการยอดบริจาคอยู่ที่ 1,148,718,907.72 บาท นับว่ามากกว่าที่ตั้งใจไว้ถึง 400 กว่าล้านบาท
