The Emporium และ The EmQuartier ถือเป็นอีกแลนมาร์คสำหรับนักกิน เพราะมีร้านอาหารที่หลากหลายตั้งอยู่ ทั้งคาวหวาน รวมถึงร้านที่อิมพอร์ตมาจากเมืองนอก และในช่วงนี้ยังมีกิจกรรม Stamp Rally (กินครบ 500 บาท สามารถสะสมเป็นแสตมป์ไว้รับของรางวัลผ่านแอพ Stamp ได้ด้วย) แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องวิธีการเล่นกิจกรรม ชาว Mango Zero ขอถือโอกาสลงพื้นที่สำรวจร้านขนมหวานกันดีกว่า ว่าทั้ง 2 ห้างนี้จะมีขนมที่อลังการงานสร้างแค่ไหน เพราะจะกินทั้งทีมันต้องจัดใหญ่เอาให้คุ้มค่าแก่จำนวนแคลอรี่กันซะหน่อย เราเลยได้ไปบุกร้านขนมหวานมาถึง 5 เมนู ซึ่งแต่ละอย่างนี่เกิน 1,000 แคลทั้งนั้น จะหนักจะอ้วนและน่ากินแค่ไหน มาดู! 1. เมนู The Knightsbridge Tea Set (825 บาท) ร้าน Harrods Café and Ice Cream Parlour มาเข้าร้าน Harrods ทั้งทีจะให้ไม่จัดเต็มจัดใหญ่คงจะไม่ได้ เราเลยสั่งเซ็ตน้ำชาสุดอลังมารีวิวให้ทุกคนน้ำลายไหลกันนน ในเซ็ตจะประกอบด้วยเค้ก 4 ชนิด (ราคาปกติ 170 บาท/ 2ชิ้น) ที่คละแต่ละประเภทมาอย่างน่ากิน มีทั้งเค้กช็อกโกแลต คัพเค้ก ครีมพัพ และทาร์ตที่มีสีสันน่าทาน โดยเราสามารถเลือก custom มาการองได้ 2 ชิ้น (ราคาปกติ 55 บาท/ชิ้น และสโคนได้ 4 ชิ้น (ราคาปกติ 60 บาท/ชิ้น) จะเลือกเป็นรส Butter Scone, Bangkok Tea Blends Scone หรือจะเป็น Fruit Scone ก็ได้ นอกจากนี้ในตัวเซ็ตยังเสิร์ฟมาพร้อมชาร้อนสำหรับ 2 ท่าน ซึ่งเลือกได้จากเมนูทั้งหมด 6 ชนิดเลย (ราคาปกติ 125 บาท/1 เซ็ต) เมนูที่ชอบที่สุดคือสโคน ที่เนื้อแน่นและรสชาติดีมาก ตัวแยมที่เลือกมาก็ตัดเลี่ยนได้ดี มีทั้งแยมผลไม้และเนยหอมๆ ถามว่าคุ้มไหมก็คุ้มนะ เพราะถ้าแยกออกมาเป็นชิ้นๆ ทั้งหมดนี้จะสนนราคาที่ 940 ถือว่าลดไปได้ 115 บาท เลย! 2. เมนู Le Baguette High Tea Set (790 บาท) ร้าน Le Baguette ร้านเบเกอรี่สัญชาติฝรั่งเศส ที่เดิมทีมีสาขาอยู่พัทยา แต่คนกรุงเทพไม่ต้องไปไกลแล้วเพราะร้านเขามาเปิดอยู่ใจกลางเมืองที่ห้าง The Emquartier นี่เอง เซ็ตที่เราสั่งมาก็เป็นเซ็ตน้ำชา เพราะเห็นว่าสั่งเมนูเดียวได้กินทุกอย่างไปเลย มีความหลากหลายดี เซ็ตน้ำชาของที่นี่ถ้าเทียบกับ Harrods จะหลากหลายกว่ามาก เพราะมีทั้งของคาว ของหวาน และผลไม้สด ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม กินได้สนุกกว่า ในเซ็ตจะประกอบด้วย มินิเค้ก, ครัวซองต์อัลมอนต์ 2 ชิ้น, มาการอง 2 ชิ้น, ผลไม้สด, แซนวิชแซลมอนรมควัน และ พาร์มาแฮมที่ตกแต่งมาด้วยแคนตาลูป และเซ็ตชา/ กาแฟ ที่สามารถเลือกจากในเมนูได้เลย ร้านนี้เมนูที่ชอบที่สุดก็คือ ครัวซองต์อัลมอนต์ เพราะกัดไปแล้วได้ความกรอบความนุ่มของขนมปัง เป็นรสชาติที่รู้สึกใหม่มากๆ สำหรับครัวซองต์ (หื้มมม อยากกิน) แต่มากกว่าอาหารที่อร่อยแล้ว สิ่งที่ชอบก็คือบรรยากาศร้านที่จะดูชิลๆ น่านัดเพื่อนมาจอย มาคุยกัน ดูไม่กดดันและหรูหราเกินไป 3. เมนู Melon Bingo Big Size (300 บาท) ร้าน Han bingo ถามว่าชอบกินเมล่อนไหม..ก็ชอบ, ถามว่าชอบกินบิงซูไหม..ก็ชอบ, แต่ถามจริงๆ เถอะ จำเป็นต้องใหญ่เว่อร์อลังการขนาดนี้เลยหรออ! มันชักจะยั่วน้ำลายตอนกลับมาเขียนรีวิวยังไงก็ไม่รู้! เมนูนี้ในราคา 300 บาท ถือว่าเป็นอภิมหาความเป็นไปไม่ได้ (แต่เป็นไปแล้ว) ของเมนูขนมหวานในห้างใจกลางกรุงเทพ เราลองถามพนักงานเล่นๆ ว่าเคยชั่งน้ำหนักไหม เขาบอกน่าจะราวๆ สองกิโลกว่า ภายในเมล่อนที่เห็นจะเป็นน้ำแข็งไสที่เมื่อตักเข้าไปจะเป็นเนื้อเมล่อนสดผสมกับคอนเฟลค กินเข้ากันแล้วกรุบๆ อร่อยมาก ทานได้เรื่อยๆ เลย เพราะขึ้นชื่อว่าบิงซู เราก็เต็มที่ไม่มีกั๊ก! 4. เมนู Marron Pancake The Emporium (235 บาท) ร้าน Iwane ü ร้านนี้แค่เห็นภายนอกเราก็อยากเข้าไปทานแล้ว เพราะมีโซนครัวเปิดให้ได้มองเห็นกันเลย และยังตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่น ดูอบอุ่นน่านั่งมากๆ ใครเดินผ่านมาอาจจะงงไม่คิดว่าอยู่ในห้าง (เพราะมันเป็นฟีลเหมือนร้านที่เดินเจอในสถานที่ลับๆ น่ารักๆ มากกว่า) เมนูของร้านนี้ก็น่ารักเกือบทั้งหมดแต่เราเลือกสั่ง แพนเค้กเกาลัดมา เพราะเห็นว่าเป็นเมนูโปรโมทอยู่หน้าร้านเลยยย รสชาติโดยรวมถือว่าโอเค ตอนแรกนึกว่าครีมจะเป็นรสเกาลัด แต่จริงๆ เป็นครีมสดและมีเกาลัดตกแต่งอยู่ด้านบน แต่โดยรวมถือว่าน่าไปนั่งอยู่ดีนะ ร้านดู local โต๊ะ เก้าอี้ จานชามอะไรก็น่ารักไปหมด แถมมีผู้จัดการสาขาจากญี่ปุ่นมาดูแลเลยด้วย 5. เมนู Gaufre Avec Glace et Baies (245 บาท) ร้าน Paul ปกติเคยกินแต่เมนูคาวๆ ของร้านนี้ วันนี้เลยลองเลือกสั่งขนมหวานดูบ้าง ก็เปิดๆ ดูเจอเมนูวาฟเฟิลที่จัดจานมาอย่างกับหอไอเฟล เอาและ จิ้มเมนูนี้แหละ! เมื่อขนมมาเสิร์ฟก็หน้าตาเหมือนเมนูเด๊ะ ส่วนรสชาติก็ดีนะ เป็นวาฟเฟิลวางบนไอติมวานิลลา และตัดเลี่ยนด้วยผลไม้สดรสอมเปรี้ยวอย่างเบอร์รี่ชนิดต่างๆ ร้านนี้แอบน่านั่งชิลๆ อยู่เหมือนกันถ้าไม่รีบไปไหน เพราะบรรยากาศคึกคักมาก ลูกค้าเข้าออกอยู่ตลอด มีทั้งแบบนั่งทานและซื้อกลับบ้านก็มี เมนูก็หลากหลายดีไว้จะลองมาทานอีกค่ะ ใครอยากตามรอยทานขนมอลังการงานสร้างที่เราเลือกมายั่วน้ำลายแบบนี้ สามารถตามรอยกันได้ที่ห้าง Emquartier และ Emporium เลยจ้า สำหรับการเล่นกิจกรรม Stamp Rally (จัดตั้งแต่วันนี้วันนี้ – 18 กันยายน 2560 ) จะต้องเก็บใบเสร็จจากแต่ละร้านที่ไปทาน (ภายในวันเดียวกัน) แล้วนำไปแลกแสตมป์ที่ Redemption Counter ชั้น 6 The Helix Quartier ห้าง The EmQuartier หรือที่ชั้น G ของห้าง The Emporium ก็ได้ โดยวิธีการสะสมแสตมป์จะไม่ใช่เป็นสติ๊กเกอร์มาให้เราแปะลงสมุดนะ เพราะจะต้องโหลดแอปฯ Stamp เพื่อใช้ในการสะสมและเล่นกิจกรรมนี้ค่ะ Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.getmystamp.stamp IOS : https://itunes.apple.com/th/app/stamp/id525997217?mt=8 และพิเศษ! สำหรับผู้ถือบัตร citi และ citi m visa กินครบทุก 400 บาท รับไปเลย 1 แสตมป์ รางวัลคืออะไร? รางวัลใหญ่สุดคือ สะสมแสตมป์ครบ 50 ดวง จะได้รับตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต มูลค่า 7,960 บาท และถ้าสะสมแสตมป์ครบ 50 ดวง จำนวน 4 รอบ (รวมเป็น 200 ดวง) จะได้รับรางวัลที่พัก Cape Dara Resort พัทยา 2 วัน 1 คืน มูลค่า 17,00 เลยทีเดียวว อ่านรายละเอียดกิจกรรมและกติกาเพิ่มเติมได้ที่ : emquartier.co.th/happening/detail/203/The++Extraordinary++Dining+Journey