หลังจากไวรัส Ransomeware ระบาดไปทั่วโลก ก็ได้สร้างความตกอกตกใจให้กับองค์กรใหญ่ๆ (ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยเองก็โดนแล้วบ้างเช่นกัน) ล่าสุดมีกรณีใหม่หลังจากมีรายงานว่าดิสนีย์ได้ถูกเจาะระบบขโมยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Pirates of the Caribbean 5 ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 24 พ.ค. นี้ โดยแฮกเกอร์ขู่ว่าถ้าไม่ยอมจ่ายเงิน หนังจะถูกปล่อยออกมาสู่โลกออนไลน์ก่อนวันฉายจริง ! โดยสำหรับกรณีดิสนีย์นี้ไม่ได้มีการระบุออกมาว่าเป็นการเจาะระบบด้วย Wannacry ที่กำลังเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่ ‘บ็อบ ไอเกอร์’ (Bob Iger) ซีอีโอของวอลต์ ดิสนีย์ ก็ได้ออกมายอมรับว่ามีแฮกเกอร์อ้างว่าได้เจาะเข้าระบบมายังฐานข้อมูลของบริษัทดิสนีย์จริงๆ โดยภาพยนตร์ที่เป็นตัวประกันของการเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ ก็คือภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean ภาคล่าสุด และ ภาพยนตร์เรื่อง Cars 3 ที่มีกำหนดจะเข้าฉายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งทางแฮกเกอร์ได้ขู่ให้ดิสนีย์จ่ายเงินค่าไถ่ให้ ไม่อย่างนั้นจะมีการปล่อยหนัง 2 เรื่องนี้ ออกมาในโลกออนไลน์ให้ทุกคนได้ชมกันฟรีๆ แต่อย่างไรก็ตามดิสนีย์ก็ยืนยันที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้กำลังร่วมมือกับหน่วยงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐเพื่อดำเนินเรื่องอยู่ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเคยเกิดขึ้นกับบริษัทวงการหนังชื่อดังอย่าง Netflix ที่ตอนนั้นโดนขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ที่เข้าไปขโมยซีรี่ส์เรื่อง ‘Orange Is the New Black’ ซึ่งในกรณีนั้นทางบริษัทก็ได้จ่ายเงินให้กับแฮกเกอร์ไปในรูปแบบ Bitcoin (เงินในรูปแบบดิจิทัล) เพื่อแลกกับการไม่ให้แฮกเกอร์ปล่อยซีรี่ส์ออกมาสู่โลกออนไลน์ก่อนมีการฉายจริง ที่มาข้อมูลจาก mashable.com catdumb.com bangkokbiznews.com