“แฟลตเกิร์ลชั้นห่างระหว่างเรา” ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก GDH ค่ายหนังไทยที่พร้อมเสิร์ฟงานคุณภาพ กำกับโดย “แคลร์ จิรัศยา วงษ์สุทิน” จาก ONE YEAR 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ “แฟลตเกิร์ลชั้นห่างระหว่างเรา” เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่อยู่บนพื้นฐานของชีวิตที่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขหลายๆ อย่าง ถือเป็นหนังที่สะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว เรื่องโดยย่อของ “แฟลตเกิร์ลชั้นห่างระหว่างเรา” ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละคร “เจน”และ “แอน” เด็กสาวสองคนที่เติบโตมาพร้อมกับแฟลตตำรวจ เส้นทางชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เป็นการเอาตัวรอดผ่านพ้นแต่ละวันไปด้วยความซับซ้อนของชีวิตที่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของครอบครัวและสังคม แม้ทั้งคู่จะอยู่ในสังคมแวดล้อมเดียวกันแต่กลับมีชีวิตที่แตกต่างกันถึงระดับชั้นเกิดขึ้น แต่พวกเขายังคงจับมือกันและแบ่งปันทุกโมเมนต์ร่วมกัน ไม่ว่าจะทุกข์สุข แล้วการใช้ชีวิตของเด็กสาวธรรมดาสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างการเข้ามาของ “อาตอง” ตำรวจหนุ่มที่เข้ามาเปลี่ยนเกมของความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ ทั้งความหวัง ความฝัน และโอกาสในการอยากมีชีวิตเป็นตัวของตัวเอง ประเด็นที่หนังเรื่องนี้หยิบยกมาเล่า เป็นมากกว่าหนังรักใสๆ วัยมัธยม หากใครที่คาดเดาเรื่องราวจากโปสเตอร์ที่มีเด็กผู้หญิงสองคนมองตากันยิ้มแย้มอย่างแฮปปี้ ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ให้มากกว่าสิ่งที่คุณคาดเดาเอาไว้ ชนิดที่ว่าเดินออกจากโรงมา ขอยืนทบทวนกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสักครู่ “แคลร์ จิรัศยา วงษ์สุทิน” รับหน้าที่เป็นผู้กำกับและเขียนบท โดยหยิบยกเอาเรื่องราวภูมิหลังจากเหตุการณ์จริงที่ว่า “แคลร์” เคยอาศัยอยู่ที่แฟลตตำรวจจริงๆ จึงทำให้องค์ประกอบในเรื่องนี้ถูกเล่าผ่านบุคคลที่มีประสบการณ์ตรง จากสถานที่จริงสู่การสะท้อนสังคมที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ในพาร์ทของการแสดง ถึงแม้เรื่องนี้เป็นการแสดงเรื่องแรกของตัวละครนำอย่าง “แฟร์รี่ กิรณา พิพิธยากร” ที่รับบทเป็น เจน “เอินเอิน ฟาติมา เดชะวลีกุล” รับบทเป็น แอน และ “อาโป วชิรากร รักษาสุวรรณ” รับบทเป็น หนูไนซ์ เรียกได้ว่ามือใหม่ที่ทำเอาประหลาดใจไปตามๆ กันเพราะพวกเขาสามารถสื่อสารอารมณ์ผ่านตัวละครออกมาได้ดี เอาอยู่ทุกซีน จนรู้สึกราวกับว่าตัวละครเหล่านี้กำลังบอกเล่าเรื่องราวนั้นเอง บวกกับมีนักแสดงมากความสามารถอย่าง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” “น้ำฝน ภักดี“และ “จอยซ์ กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์” ที่รับส่งอารมณ์กันอย่างไม่มีจังหวะชะงัก แถมยังเป็นคาแรกเตอร์ที่ช่วยเสริมตัวละครหลักมีมิติขึ้นมาอีกด้วย แต่ในขณะที่กำลังจมดิ่งไปกับเรื่องราวอันดราม่าของตัวละครก็อดใจที่จะเอ่ยชมงานภาพ งานเสียงที่ทำให้มวลอารมณ์ต่างๆ ในภาพยนตร์ดูเป็นธรรมชาติและสมกับเป็นแฟลตตำรวจจริงๆ รวมถึงรายละเอียดยิบย่อยขององค์ประกอบฉากต่างๆ ที่ปัจจุบันยังพอได้เห็นตึกเก่าในลักษณะนี้อยู่บ้าง ทำให้รู้สึกอินไปกับเรื่องราวของชาวแฟลตมากยิ่งขึ้น โดยรวมของ “แฟลตเกิร์ลชั้นห่างระหว่างเรา” เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องการเติบโตของเด็กสาวผ่านเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ ที่กลั่นกรองมาที่ทยอยปล่อยปมปัญหาและค่อยๆ รายละเอียดไปอย่างช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบใส่หมัดฮุกในคราเดียว แต่ก็ยังทิ้งทวนตอนท้ายเรื่องให้ได้ขบคิดกับสังคมถึงความต่างระดับชั้น ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ยูริรักใสๆ อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ทุกคนต้องลองไปสัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้ตัวละครผ่านเรื่องราวของพวกเขาด้วยตัวเอง กับแฟลตเกิร์ลชั้นห่างระหว่างเรา เพราะระยะห่างของทุกความสัมพันธ์ในแต่ละชั้นแฟลต อาจใกล้กับความรู้สึกของคุณ..มากกว่าที่คิด เข้าฉายวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์
