เมื่อพูดถึงออฟฟิศธนาคาร ภาพในหัวของคนส่วนใหญ่คงนึกถึงตึกที่แต่ละชั้นถูกกั้นเป็นคอก บรรยากาศดูเครียดไร้ชีวิตชีวา แต่นั่นคือภาพในอดีต ลืมภาพที่คุณเห็นลบทิ้งไปให้หมด ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย พลิกโฉมออฟฟิศใหม่หมดจด เปลี่ยนอาคารเก่าในเมืองทองธานี ให้กลายเป็นอาคารสุดโมเดิร์นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นสำนักงานของบริษัทในกลุ่มกสิกร บิซิเนส – เทคโนโลยี กรุ๊ป อาคารแห่งนั้นชื่อ ‘KBTG’ หรือ ‘กสิกร บิซิเนส – เทคโนโลยี กรุ๊ป’ อาคารที่ถูกยกให้เป็นสำนักงานของกลุ่มธุรกิจการเงินแห่งแรกในไทยที่ได้รับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวหรือ LEED-NC ระดับ Platinum และเราจะพาไปดูออฟฟิศที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่คนที่ทำงานก็รู้สึกมีความสุขด้วย 1. ออฟฟิศเก๋ ถ่ายรูปตรงไหนก็เท่ ลืมภาพออฟฟิศกล่องๆ ตามสไตล์ธนาคารแบบเดิมไปได้เลยออฟฟิศที่นี่ตกแต่งออกมาได้อย่างเท่ เหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง The Intern โดยเฉพาะชั้นบนสุดของอาคารคือ 11 และ 11M มีชื่อเรียกว่า Innovation Campus บนพื้นที่ 7,000 ตร.ม. เต็มไปด้วยพื้นที่สำหรับทำงาน หรือทำกิจกรรมใดก็ได้ มีการตกแต่งที่ให้เรารู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ออฟฟิศทั่วๆ ไป แต่ให้อารมณ์เหมือนกับกำลังทำงานอยู่ในบริษัทนวัตกรรมสักแห่งที่อยู่ในซิลิคัล วัลเลย์ มีความชิคๆ คูลๆ คนที่ทำงานอยู่ชั้นนี้จะถ่ายรูปมุมไหนไปอวดก็ได้ด้วยความภูมิใจว่าออฟฟิศฉันเก๋ไหม 2. มีพื้นที่สีเขียวให้แวะพักใจ ภายในอาคารมีพื้นที่สีเขียวที่แบ่งไว้กว่า 5,800 ตารางเมตรเพื่อให้พนักงานได้ออกไปชมความเขียวของต้นไม้ สร้างความผ่อนคลายให้กับการทำงาน สมมติว่าเราจ้องหน้าคอมทั้งวันอยากจะพักสายตาจากงานที่ทำ ก็เปิดกระจกออกไปเดินดูต้นไม้ ใบหญ้า ดูความสวยงามของกล้วยไม้ สูดอากาศจากด้านนอกแล้วค่อยกลับมาทำงานอีกครั้งด้วยไฟที่เต็มเปี่ยม! เพราะได้รับพลังจากพื้นที่สีเขียว (จากต้นไม้จริงๆ) อาจไม่ค่อยมีออฟฟิศไหนให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเท่าไหร่ เพราะอาจคิดว่าคนเราจะอยากมองต้นไม้ไปทำไม แต่ที่ KBTG มองเห็นคุณค่า และประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวจริงๆ รวมถึงด้านในก็ตกแต่งให้มีสีเขียวแทรกเข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความรู้สึกของการได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วย 3. ห้องทำงานแบบใหม่ไร้คอก Innovation Campus มีห้องทำงานที่เรียกว่า Project Room อยู่ 8 ห้องไว้สำหรับเป็นฐานทัพให้หน่วยงานที่พัฒนาด้านนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีด้านการเงิน ทุก Project Room ถูกตั้งชื่อตามนักสร้างสรรค์ในยุคสมัยต่างๆ เช่น จ็อบส์, พี่น้องตระกูลไรท์ หรือไอน์สไตน์ ให้สมกับที่เป็นออฟฟิศแห่งการสร้างสรรค์ ความน่าสนใจของ Project Room อยู่ตรงที่การตกแต่งห้องทำงานเป็นรูปแบบใหม่ ไร้คอกกั้น ทุกคนสามารถปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในทีมได้ทันที และเปลี่ยนจากห้องทำงานให้กลายเป็นห้องประชุมโปรเจคต์ได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาหาห้องประชุมเพื่อนัดหมาย การทำงานจึงมีความยืดหยุ่น บรรยากาศในการทำงานก็ดูสนุกสนานเหมือนกำลังทำงานกลุ่มกับเพื่อนมากกว่า 4. นั่งทำงานตรงไหนก็ได้ หนึ่งในแนวคิดของการสร้างออฟฟิศ KBTG คือ Agile Workplace หรือการส่งเสริมให้มีการทำงานที่คล่องตัว ดังนั้นทุกจุดของออฟฟิศสามารถนั่งทำงานได้หมด หากเบื่อจะนั่งทำงานอยู่ใน Project Room ก็เข้าไปจองพื้นที่ทำงานห้องอื่นๆ หรือโซนอื่นๆ ได้ตลอดเวลาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานไอเดีย ออกไปทำงานตรงอื่นบ้างก็อาจได้อะไรใหม่ๆ กลับมา และที่สำคัญ อันนี้ต้องจดเลย ทุกพื้นที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 1.3 Gbps ครอบคลุมทุกโซนของอาคาร สามารถรับชมความบันเทิง กับทำงานไปด้วยได้สบายๆ 5. มีจุดจอดจักรยานและห้องอาบน้ำให้บริการ ความที่เป็นออฟฟิศสีเขียวที่เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน KBTG ก็สนับสนุนให้พนักงานลดการใช้รถยนต์ทางอ้อมด้วยการสร้างจุดจอดจักรยานเท่ๆ ไว้ให้ และยังมีห้องอาบน้ำแบ่งโซนชาย – หญิง ชัดเจนเพื่อให้พนักงานที่ปั่นจักรยาน หรือเดินมาทำงานให้มาอาบน้ำที่ออฟฟิศได้เลย หมดปัญหาคนที่กลัวว่าถ้าปั่นจักรยานมาแล้วตัวจะเหม็นเหงื่อ หรือวิ่งมาทำงานแล้วใครจะกล้าเข้าใกล้ถ้ากลิ่นตัวหึ่ง ปัญหานี้จะหมดไปด้วยห้องอาบน้ำ! 6. ตรงกลางมีสังเวียนประลองความคิด K-Stadium พื้นที่ส่วนกลางถือเป็นอีกหนึ่งไอเดีย และจุดที่ตอบโจทย์การทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง เพราะ KBTG สร้างให้พื้นที่ส่วนกลางกลายเป็นสังเวียนสำหรับฟาดฟันประลองกันทางความคิดและนำเสนอไอเดีย โดยเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า K-Stadium พื้นที่ส่วนกลางที่ออกมาเป็นรูปแบบห้องประชุมเปิดโล่ง ที่มีอัฒจันทร์รายล้อม จุคนได้ 250 คน เพราะการทำงานสร้างสรรค์จำเป็นต้องอาศัยการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ยุคสมัยของการทำงานแบบตัวใครตัวมันหมดยุคแล้ว โดยเฉพาะคนทำงานสร้างสรรค์ มาทำงานด้วยกันสนุกกว่าเยอะ ได้เจอคนใหม่ๆ ด้วย 7. มีมุมส่วนตัวกระจายอยู่โดยรอบ หน่วยงานต่างๆ ใน KBTG ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้ทุกคนต้องทำงานตลอดเวลา แต่เล็งเห็นว่างานทุกอย่างต้องอาศัยไอเดีย และการนั่งอยู่หน้าคอมเฉยๆ ไอเดียไม่เกิด ก็เลยสร้างห้องสำหรับพักผ่อน และเป็นห้องประชุมงานขนาดเล็กน่ารักกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ โดยโซนพักผ่อนใช้ชื่อว่า ‘Recreation Area’ ภายในเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน กินข้าว ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือเมาท์มอยหอยกาบกับเพื่อน สำหรับห้องประชุมงานแบบกรุ๊ปเล็กมีชื่อว่า ‘Creative Box’ ภายในห้องก็ไม่ได้ตกแต่งเหมือนห้องประชุมเลย แต่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นในบ้านที่มีเคาเตอร์บาร์ สำหรับนั่งคุยงาน มีห้องโทรศัพท์ส่วนตัว มีมุมชมวิว มีจุดสำหรับนั่งคุยกัน เรียกได้ว่าล้างภาพคำว่าห้องประชุมงานในกล่องสี่เหลี่ยมออกไปจากหัวได้เลย เพราะนั่งคุยงานที่นี่ เหมือนคุยงานในห้องนั่งเล่นมากกว่า เวรี่ชิลล์ 8. ห้องโทรศัพท์สำหรับความเป็นส่วนตัว เราอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าห้องส่วนตัวสำหรับโทรศัพท์นั้นสำคัญ ยิ่งการทำงานในตึกใหญ่ และรัดกุม การจะเดินออกนอกตึกไปคุยโทรศัพท์เป็นเรื่องที่เสียเวลา แต่ที่ KBTG เข้าใจ และรู้ว่าการคุยโทรศัพท์คือความส่วนตัวอย่างหนึ่งที่พนักงานทุกคนควรได้ เลยจึงจัดห้องโทรศัพท์ส่วนตัวกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงชั้น 11 ด้วย ภายในห้องโทรศัพท์มีความมิดชิด มีปลั๊กไฟสำหรับเสียบสายชาร์จ มีที่นั่ง (หรือจะนอน) คุยโทรศัพท์ก็ยังได้ ไม่ต้องไปหลบคุยโทรศัพท์ตรงทางหนีไฟ หรือออกไปยืนท้าแดดเพื่อโทรหาใครอีกต่อไปอีกแล้ว 9. มีโต๊ะปิงปอง และโซนนั่งชิลล์ บางทีทำงานมากๆ เราก็ต้องการมุมพักผ่อนแบบที่ว่าพักผ่อนจริงๆ ไม่ใช่พักผ่อนแต่ยังนั่งคุยงานใช่ไหม ที่นี่ก็เข้าใจพนักงานอีกเช่นกัน เขาก็จัดโซนออกกำลังกายสำหรับคนที่อยากจะท้าดวลเพื่อนในกรุ๊ป หรือสาวแผนกอื่นมากระชับความสัมพันธ์ด้วยกีฬา ก็ท้ามาเล่นปิงปองในโซนพักผ่อนที่จัดไว้ให้ได้เลย ถ้าไม่มีทักษะทางกีฬา แต่อยากนั่งพักเฉยๆ เขามีก็มีมุมสงบให้ซื้อเครื่องดื่มมากินแล้วไปหามุมนั่งหว่องๆ ชมวิวจากชั้น 11 ไม่ต้องฝ่าอากาศร้อนๆ ออกไปกินกาแฟไกลๆ ให้เสียเวลาชีวิตอีกต่อไป ทุกอย่างครบ จบที่นี่แหละ 10. โรงอาหารอร่อย ราคาถูก (มาก!) เพราะอาหาร คือสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตคน (เดี๋ยว…จะปรัชญาไปทำไม) KBTG จึงสร้างโรงอาหารสำหรับพนักงานขึ้นมาเพื่อให้บริการพนักงานทุกคนในมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ที่สำคัญอาหารทุกร้านไม่ใช่แค่อร่อยเท่านั้นแต่ราคายังถูกมากชนิดที่ว่าเห็นแล้วต้องขยี้ตาข้าวราดแกง 2 อย่าง 30 บาท ในกรุงเทพฯ เรายังหาราคานี้ได้ที่ไหน อาหารตามสั่งบวกไข่ดาวราคา 37 บาท ราคานี้มีอีกไหม (มีใครให้น้อยกว่านี้ไหม หลังไมค์มา) ขนมหวาน 10 บาท น้ำเปล่าฟรี มีสายพานเก็บจานอัตโนมัติ และไม่ต้องเดินฝ่าแดดไปกินข้าวข้างนอกที่ราคาแพงกว่าเท่าตัว และนี่คือความเท่ ความเก๋ในออฟฟิศที่อยู่ใน KBTG ออฟฟิศที่ทำงานสร้างสรรค์เพื่อคนสร้างสรรค์อย่างแท้จริง การทำงานในสถานที่ที่ไม่เหมือนกับที่ทำงานก็ทำให้เราได้งานใหม่ๆ ออกมาเสมอ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่ธนาคารกสิกรไทย จะเป็นบริษัทด้านการเงินที่คิดใหม่ และเข้าใจยุคสมัยเข้าคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ นั่นเพราะทุกอย่างที่เป็นความสร้างสรรค์ เขาเริ่มปลูกฝังที่บุคลากรนั่นเอง
