จากวิกฤตยุค 2000 ทำไม Y2K กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนโหยหา ? “แต่งตัวแบบ Y2K” “ถ่ายรูปแบบ Y2K” “เต้นแบบ Y2K Omg Omg~” มองไปทางไหนก็ Y2K กันทั่วบ้าน เมื่อชาวเจน Z ได้ทำให้เทรนด์นี้ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากกระแสเพลง กระแสหนัง และการแต่งกายตามแบบปี 2000s อย่างสนุกสนาน รวมไปถึงศัพท์ยุคเก่าที่ถูกพูดถึงอย่างมาก จน Y2K กลายเป็นคำลงท้ายฮิตติดปากที่อยู่ในทุกช่องทางออนไลน์ บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป ทำให้ Y2K ในยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่วิกฤตการณ์หรือแฟชั่นที่เรามองเห็นได้ แต่กลายเป็นตัวแทนบรรยากาศของปลายยุค 90s และ 2000s ขึ้นมาทันที ซึ่งเดิมที Y2K มีจุดเริ่มต้นจากวิกฤตการณ์ทางเทคโนโลยี ด้วยปัญหาระบบคอมพิวเตอร์เลข 2 หลัก แต่ก็ได้รวมไปกับประวัติศาสตร์แฟชั่นของตัวแม่แฟชั่น เสื้อครอปเอวลอย, กางเกงกระโปรงเอวต่ำ สีสันตัดกัน พร้อมด้วยเครื่องประดับอีกมากมาย กระตุ้นความนิยมผ่านวงการบันเทิงอย่างสาว Mean Girls, Britney Spears, Destiny’s Child หรือ Paris Hilton ที่เรียกได้ว่าเป็น Iconic แห่งยุค เรียกได้ว่าเป็นโทนของความสนุก หรืออาจมองว่าเป็นขั้วตรงข้ามของสไตล์แบบ Minimalism ก็เป็นได้ แล้วทำไม Y2K ถึงเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคน Gen X, Gen Y, Gen Z และเด็กรุ่นใหม่โหยหาในช่วง 2 ปีนี้ ? มาเปิด 5 เหตุผลที่กระแสนี้มีความหมายกับเรากัน! #1 รุ่นเก่ากับวันวาน และความคลาสสิกบางอย่างที่สะกดใจคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าพอหลายคนอายุมากขึ้น (เฮือกกก! เจ็บ) เราก็มักจะนึกถึงช่วงเวลาวัยเด็ก ซึ่งมันจะเป็นบรรยากาศบางอย่างที่พิเศษจากความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเก่าที่เคยได้ฟัง, รถเข็นไอติม, สายไหมหยอดเหรียญ ขณะเดียวกันก็เป็นความคลาสสิกที่ตื่นตาสำหรับคนรุ่นใหม่ หลายคนอาจเคยฟังเรื่องราวของพ่อแม่เลยอยากเข้าไปสัมผัสกับช่วงเวลาเหล่านั้น ซึ่งการที่คนรุ่นใหม่มาเจอกับ Y2K ก็เหมือนการค้นพบ New Fashion ในรูปแบบที่เราหา Ref จากการนั่งไทม์แมชชีนที่ชื่อว่า “โซเชียลมีเดีย” ไปยังอดีต #2 ยุคโรแมนติกที่ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป บอกรักผ่านจดหมาย โทรหาหวานใจผ่านตู้โทรศัพท์ ในยุคที่เทคโนโลยีไม่ได้มีบทบาทช่วยบอกรักขนาดนั้น เสน่ห์ของการรอใครสักคนติดต่อกลับ ไม่ต้องเร่งรีบในความสัมพันธ์ก็เป็นความคลาสสิกที่ยังทำให้เราอบอุ่นหัวใจ #3 หลีกหนีความวุ่นวายในโลกที่หมุนไปไวมาก พอมายุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไว และเทคโนโลยีที่แกมบังคับให้ชีวิตประจำวันของเราไวยิ่งกว่านั้น จนปัญหาคือเราเริ่มสมาธิสั้นหรือจดจ่อกับโทรศัพท์มากเกินไป ในขณะที่ของยุค Y2K ทำให้เรารู้สึกสบายๆ แต่ไม่เหงา ไปกับโลกของสะสมเก่าๆ และการปล่อยให้เวลาไหลไป #4 ความสุขจากการมองย้อนกลับไป นอกจากจะมองผ่านความทรงจำของตัวเองแล้ว ซีรีส์ ภาพยนตร์ ก็เป็นจุดร่วมในการแชร์ประสบการณ์ของคนในวัยเดียวกัน การไปดูภาพยนตร์ย้อนยุคก็เหมือนพาตัวเองกลับไปตอนอายุ 14 อีกครั้ง อย่างเรื่องเธอกับฉันกับฉัน, Ditto, หรือ 20th Century Girl #5 ความเครียด ความกดดัน และปัจจุบันที่ไม่เป็นใจ เขาว่ากันว่าไม่ว่าจะเป็นคนวัยไหน แต่เมื่อเราโหยหาอดีตเมื่อไหร่ แปลว่าเราอาจรู้สึกไม่พอใจในปัจจุบัน และอนาคตที่ไม่แน่ไม่นอนก็สร้างความเครียดและกดดัน ทำให้เราอยากหลีกหนีเพื่อกลับไปยังช่วงเวลาที่เรียบง่ายกว่านี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ไม่มีความสุขกับชีวิต (เขาอาจจะอินกับแฟชั่นเฉยๆ) เพราะโดยรวมแล้วเทรนด์ฮิตก็จะหมุนเปลี่ยนไปตามเวลา และไม่มีกฏของโลกข้อไหนที่ระบุว่า เทรนด์จากอดีตจะไม่วนกลับมา ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ เราขอแค่ให้ทุกคนสนุกไปกับมันจนกว่าจะสาแก่ใจจจ 💖
