category ในสถานการณ์คนเยอะ แอปฯ เรียกรถเจ้าไหนคุ้มสุด!

Writer : uss

: 6 ธันวาคม 2565

หลายคนที่เดินทางบ่อยๆ ด้วยรถสาธารณะ คงเผชิญกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ไม่รับ รถมาไม่ตรงเวลา หรือการโก่งราคาที่สูงขึ้นกว่าปกติ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจึงทำให้เกิดแอปพลิเคชันเรียกรถมากมาย เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหาให้เราสามารถกดเรียกรถผ่านมือถือได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา แต่ว่ากันว่าถ้าอยากปราบเซียน…ก็ต้องลองเจอด่านลาสต์บอสสักหน่อย

วันนี้ Mango Zero เลยอยากลองมาเปรียบเทียบข้อดี และข้อเสียของแอปฯ เรียกรถแต่ละเจ้าดู ว่าท่ามกลางสถานการณ์คนเยอะ อย่างคอนเสิร์ต หรืองานอีเวนต์ เจ้าไหนจะเวิร์คและคุ้มที่สุด! มาดูกันเลย

ปล. เป็นเพียงความคิดเห็น และประสบการณ์ของเรานะฮะ

Grab 🛻

หนึ่งในแอปเรียกรถอันดับต้นๆ ยอดนิยมที่ผู้คนเรียกใช้กัน อาจเพราะเป็นแอปเรียกรถเจ้าแรกๆ ที่เริ่มสร้างขึ้น บวกกับหน้าตาที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์ที่หลากหลาย ช่วยให้เราเลือกใช้งานได้อย่างสะดวก  

ฟีเจอร์เด่น ❇️

  • เพิ่มจุดรับ-ส่งได้หลายที่ แวะส่งเดอะแกงค์กลับบ้านก่อน ไม่ต้องแยกรถกันไป 
  • Silent Mode โหมดงดการสนทนา ขออยู่เงียบๆ พี่คนขับวอนอย่าชวนคุยค้าบบบบบ
  • Ride Cover คุ้มครองผู้โดยสารผ่านวงเงินประกันอุบัติเหตุ จ่ายเพียงแค่ 5 บาทต่อการเดินทางเท่านั้น
  • สามารถแชร์ข้อมูลของคนขับ และการเดินทางแบบเรียลไทม์ให้คนอื่นได้ รวมถึงมีปุ่ม Emergency Button ให้เรากดในกรณีฉุกเฉิน
  • Sayanora หากเราไม่ประทับใจกับพฤติกรรมของคนขับ สามารถเลือกฟีเจอร์นี้ในการเซย์บ้ายบายต่อคนขับได้ โดยแกร้บจะป้องกันไม่ให้เรากับพี่คนขับได้โคจรกลับมาพบกันอีก 

อัตราค่าโดยสาร 💸

  • ค่าบริการเริ่มต้นที่ 30 บาท โดยคิดเป็นกม. ละ 9 บาท
  • สำหรับค่าทางด่วนเราต้องรับผิดชอบเอง ตั้งแต่ต้นทางถึงจุดหมาย
  • สำหรับไปสนามบินจะบวกเพิ่มอีก +150 บาท 

*ค่าโดยสารจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น งานอีเวนต์ , คอนเสิร์ต หรือฝนตก*

ข้อดี 🙂

  • มีรถให้บริการจำนวนมาก และหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์
  • สามารถจองรถเรียกล่วงหน้าได้ 7 วันก่อนเดินทาง
  • สามารถเลือก Grab Car Lady ได้ สำหรับสาวๆ ที่กังวลใจกลับบ้านตอนดึก
  • ระบบ GrabAcademy สอนถึงวิธีการรับงาน และมาตรการต่างๆ 
  • ตรวจคัดกรองคนขับถึงประวัติอาชญากรรม

ข้อด้อย 🙃

  • ณ ปัจจุบันราคาค่าโดยสารแพงขึ้นจากเมื่อก่อน
  • ต้องคอยเช็คระบบการจองอยู่เสมอ เพราะคนขับสามารถยกเลิกการจองล่วงหน้าของเราได้เหมือนกัน
  • บางพื้นที่ใช้เวลารอนานมากขึ้นกว่าจะเรียกรถได้

ในสถานการณ์คนเยอะ 🙋🏻‍♀️

7.5/10 

Lineman 🚕

เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแอปที่คนไทยหลายคนคุ้นเคย โดยส่วนใหญ่เรามักจะสั่งอาหารจากแอปนี้กัน แต่รู้มั้ยบริการเรียกรถแท็กซี่ของเขาก็สุดยอด และสะดวกสบายอีกด้วย

ฟีเจอร์เด่น ❇️

  • มีปุ่ม Contact Police ให้ติดต่อได้กรณีฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
  • ติดตามข้อมูลทุกอย่างได้ผ่าน @LINE OA 

อัตราค่าโดยสาร 💸

  • คิดตามมิเตอร์รถแท็กซี่ โดยเพิ่มค่าบริการเรียกแค่ 20 บาท 
  • สำหรับค่าทางด่วนเราจะต้องเป็นผู้จ่ายทั้งหมดตลอดเส้นทาง

ข้อดี 🙂

  • มีการคัดกรองคนขับจากเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ทุกคน
  • ทราบค่าโดยสารล่วนหน้าจากระบบประมาณราคา
  • สามารถแชร์ข้อมูลการเดินทางผ่าน Line ได้
  • คนขับมีความชำนาญเส้นทางสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนขับแท็กซี่อยู่แล้ว 
  • จ่ายผ่าน Rabbit Line Pay ได้ 

ข้อด้อย 🙃

  • รถให้บริการมีเพียงแต่แท็กซี่เท่านั้น 
  • ใช้เวลาในการหารถนานในบางพื้นที่ 
  • ในส่วนของต่างจังหวัดยังเปิดพื้นที่ให้บริการน้อยอยู่ ไม่ได้ครอบคลุมทุกภาค
  • ไม่มีโหมดส่วนตัว อาจจะทำให้บางครั้งคนขับชวนพูดคุยตลอดเส้นทางได้
  • ฟีเจอร์ลูกเล่นมีน้อย ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

ในสถานการณ์คนเยอะ 🙋🏻‍♀️

7/10 

Bolt 🚗

แอปฯ เรียกรถชูราคาสบายกระเป๋า พร้อมหน้าตาที่ใช้งานง่ายคล้ายกับการใช้ Google Maps รวมถึงสมัครง่ายอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ใช้ให้ความสนใจสูงในขณะนี้ 

ฟีเจอร์เด่น ❇️

  • Bolt Ladies ให้ผู้โดยสารสามารถเลือกให้ผู้หญิงเป็นคนขับได้
  • Share my ETA สามารถคัดลอกลิงก์ข้อมูลการเดินทางให้กับเพื่อน หรือคนสนิทได้

อัตราค่าโดยสาร 💸

  • ค่าบริการเริ่มต้นที่ 40 บาท โดยคิดเป็นกม. ละ 7.80 บาท
  • สำหรับค่าทางด่วนเราจะต้องเป็นผู้จ่ายทั้งหมดตลอดเส้นทาง

ข้อดี 🙂

  • ราคาค่าโดยสารถูก จ่ายง่าย สบายกระเป๋า 
  • ในพื้นที่กรุงเทพฯ คนขับพร้อมรับบริการไวกว่า
  • คิดค่าคอมมิชชันกับพาร์ทเนอร์คนขับถูกกว่าเจ้าอื่น
  • สามารถแชร์ข้อมูลการเดินทางให้คนอื่นได้

ข้อด้อย 🙃

  • ไม่มีระบบตรวจสอบประวัติอาชญากรรมคนขับ
  • บางครั้งคนขับ และรถที่มารับไม่ตรงกับในระบบที่ลงทะเบียนไว้
  • แอปฯ มีให้เลือกรับเงินสดเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่คนขับก็ให้โอนได้
  • ไม่มี Contact Center ให้ติดต่อ และระบบร้องเรียนค่อนข้างล่าช้า

ในสถานการณ์คนเยอะ 🙋🏻‍♀️

8/10 

Caab 🚙

ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่สนใจเดินทางด้วยบริการมาตรฐานใหม่ โดดเด่นด้วยรถสีน้ำเงินรูปทรงคลาสสิกที่มีต้นแบบมาจากลอนดอนแท็กซี่ ฟังก์ชันด้วยเทคโนโลยีตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ

ฟีเจอร์เด่น ❇️

  • มีปุ่ม SOS ในกรณีฉุกเฉิน และกล้องบันทึกภาพเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์
  • สามารถใช้ไวไฟฟรี รวมถึงมีพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟอุปกรณ์ Gadget ที่ใช้งาน
  • จองรถล่วงหน้าได้ ตั้งแต่เวลาตี 5 – 4 ทุ่ม
  • มีการติดตั้งฉากกั้นใสที่กันเสียงได้ระหว่างคนขับ และผู้โดยสารเพื่อความเป็นส่วนตัว 

อัตราค่าโดยสาร 💸

  • เริ่มต้นที่ 60 บาท กิโลเมตรต่อไป 6 – 8 บาท 
  • กรณีรถติด 2.5 บาท / นาที
  • ค่าจองรถล่วงหน้า 50 บาท 
  • สำหรับเดินทางไปสนามบินบวกเพิ่ม +50 บาท

ข้อดี 🙂

  • รถแท็กซี่มีการดีไซน์ที่สวยงาม สะอาด และรองรับได้ถึง 5 ที่นั่ง
  • มีการคัดเลือกอบรบคนขับให้ได้มาตรฐานสูง
  • ภายในรถยนต์มีการออกแบบเทคโนโลยีต่างๆ ที่ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งาน
  • รถสามารถรองรับผู้โดยสารที่มีข้อจำกัดทางเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้วีลแชร์ ผู้ใช้ไม้ค้ำยัน ไปจนถึงผู้บกพร่องทางการได้ยินและการมองเห็น
  • มีบริการจุดจอดรถตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม, สยามดิสคัฟเวอรี่⁣, เซ็นทรัลเวิลด์, ซีคอนสแควร์, รพ.สมิติเวช, รพ.กรุงเทพ และ รพ.พญาไทนวมินทร์

ข้อด้อย 🙃

  • ราคาค่าโดยสารค่อนข้างสูง
  • พื้นที่ให้บริการมีแค่ในส่วนภาคกลาง ภาคอื่นยังไม่รองรับ
  • จำนวนรถมีให้บริการน้อย ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะไม่ทันใจ 

ในสถานการณ์คนเยอะ 🙋🏻‍♀️

6/10 

TAG :
Writer Profile : uss
ชอบฟังเพลงพอๆ กับชอบนอนหลับ :)
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save