สัมผัสประสบการณ์ละครเวทีรูปแบบใหม่ และเป็นรูปแบบที่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นในไทย สำหรับ LUNA: Immersive Musical Experience ที่ผู้ชมเลือกเส้นเรื่องและสามารถเดินรับชมได้ด้วยตัวเองจากทีม Castscape และนักแสดงกว่า 250 ชีวิต โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ป้าหมอ – พญ.ดร.เคลียวพันธ์ สูรพันธุ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดูแลเด็กกำพร้าและด้อยโอกาสชัยพฤกษ์ ซึ่งเนื้อเรื่องถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนอย่าง “The Girl Who Drank the Moon” บอกเล่าเรื่องราวของเมืองสมมติที่ต้องสังเวยเด็กทารกให้กับแม่มดผู้อาศัยอยู่ในป่าลึกลับเป็นประจำทุกปี ร้อยเรียงไปกับเรื่องราวแห่งเวทมนต์และแง่คิดชีวิต สะท้อนโลกในชีวิตจริง ให้ผู้ชมได้อินไปตาม ๆ กัน ซึ่งวานนี้ (7 พฤศจิกายน) ทีม Mango Zero ก็มีโอกาสได้เข้าร่วมชมละครเวทีสุดตื่นตา และต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่อยากชวนทุกคนให้ไปสัมผัสกันดูสักครั้ง “เนื้อเรื่อง ดีไซน์สุดสร้างสรรค์ที่ดึงดูดใจได้เป็นอย่างดี” ด้วยลักษณะที่เป็น Immersive Musical ทำให้เราและผู้ชมหลายๆคน รู้สึกสนใจตั้งแต่เริ่มโปรโมตงาน ซึ่งผู้ชมจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงในครั้งนี้ ตั้งแต่การเลือกจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่มี อย่างฝั่งป่า / ฝั่งเมือง หรือการมีอิสระในการเลือกเดินตามตัวละครในเรื่องไป ก็ชวนกระตุกต่อมความอยากรู้อยากเห็นของการเดินเรื่องในเส้นทางต่อไปไม่น้อย โดยตอนท้ายเส้นเรื่องของ 2 ฝั่งจะมาบรรจบกัน โดยในนั้นจะมีเส้นเรื่องมากกว่า 10 รูปแบบ พร้อม 30 บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่เพื่อการแสดงนี้โดยเฉพาะ เวลาการแสดงประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที “ความรู้สึกจากตัวละครที่แทรกซึมมาถึงจิตใจ” LUNA เป็นละครเวทีที่ใช้ตัวละครเยอะมาก ตัวละครจำเป็นต้องใช้นักแสดงมากกว่า 1 คน (ตอนเราไปได้เจอเต๋า The Voice) ซึ่งต้องชื่นชมว่าทุกคนสวมบทบาทได้แนบเนียนไม่มีหลุด แถมรับมุกกับคนดูได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ถ่ายทอดทุกอารมณ์ทั้งสนุก ตลกขบขัน แต่ที่น่าประทับใจคือซีนดราม่าที่ไม่ได้มาบ่อย แต่มากี่ครั้งก็ทำเอาน้ำตาซึมได้ ทั้งเสียงร้อง และสารของตัวละครที่แทรกซึมไปถึงจิตใจ จึงไม่แปลกที่ได้เสียงปรบมืออย่างล้นหลามจากผู้ชม “ประเด็นสังคมหลากหลายในเรื่องเดียว” นอกจากนี้ ยังสอดแทรกประเด็นสังคมที่ใกล้ตัวกว่าที่คิดแบบกระตุกจิตกระชากใจ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นด้านความหลากหลาย ครอบครัว การเมือง จิตใจที่เราสามารถเอ๊ะอ๋อได้ในทันที “ความตั้งใจของทีมงาน” คงต้องบอกว่าทุกส่วนในงาน ตั้งแต่จุดลงทะเบียน เข้างาน ฉาก จนเดินออกมาเมื่อละครจบแล้ว เรารับรู้ได้ถึงทุกความตั้งใจและใส่ใจของทีมงานที่ทุ่มเทความพยายามกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในระหว่างรับชมก็มีผู้ชมที่พยายามมีส่วนร่วมในการแสดงครั้งนี้ไปด้วยกัน ซึ่งหากใครที่สนใจ เราจะขอปิดท้ายด้วยการรีวิวแบบสั้นๆ พร้อมบรรยากาศภายในนั้น แอบบอกว่าแอดเลือกเนื้อเรื่องฝั่งป่า ใครอยากมาฟังนิทานแห่งพงไพรและเรื่องราวของลูน่า LUNA: The Immersive Musical Experience จะจัดแสดงขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 – 28 มกราคม 2566 ณ Q Stadium ศูนย์การค้า The EmQuartier Step 1 : ลงทะเบียน รับบัตรเข้าชมงาน ผู้ร่วมงานที่ซื้อบัตรแล้ว สามารถมาลงทะเบียนได้ที่บริเวณ 📍Q Stadium – The Emquartier ชั้น 1 ซึ่งจะมีบัตรสีส้มเป็นบัตรของผู้ชมที่เลือก “ฝั่งเมือง” และบัตรสีเขียวของเรื่องราว “ฝั่งป่า” โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าทางไหน~ ถ้ามากับเพื่อนจะแยกกันไป หรือไปด้วยกันก็ได้เลยย Step 2 : เข้าประตูตามป้ายโลด เมื่อรับบัตรแล้ว จะมีประตู 2 ฝั่ง เมื่อถึงเวลาประตูเปิดให้เดินตามทางที่เราเลือก แมงโก้ขอเป็นทีมคนป่า ซึ่งบัตรที่เราได้มาจะมีใบหนึ่งที่มีวัญลักษณ์ใบไม้วิเศษอยู่ด้านหลัง เป็นเส้นทางให้เราสามารถเดินแยกไปกับตัวละครสำคัญได้ บ๊ายบายเพื่อนนนน (แล้วประมาณ 20 นาทีก็วนมาเจอกันใหม่55555555) Step 3 : Enjoy the show! บัตรพร้อม ตาพร้อม หูพร้อม ก็เกียมรับบทผู้ชมที่ดีได้ Enjoy กับการแสดงอันน่าประทับใจ ในรูปแบบของการรับชมอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครภูตโซคิ้วท์ ลูน่า ยายแซน และอีกหลายตัวละครจากฝั่งเมือง ที่จะทำให้เราลืมโลกภายนอกไปตลอดระยะเวลา 2.30 ชม.ของการแสดง สามารถซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ https://ticketmelon.com/castscape/lunathemusical ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Castscape