dtac Accelerate โครงการบ่มเพาะ Startup อันดับ 1 ของประเทศไทยที่เน้นการดูแลแบบเป็นครอบครัว เปิดรับสมัครแล้วใน dtac Accelerate Batch 5 มาพร้อมกับ Mentors ระดับที่โค้ชแซ่บไม่แพ้ลูกเกดแน่นอน วันนี้เรานำเสนอด้วย 5 เหตุผลที่ Startup ต้องสมัคร dtac Accelerate Batch 5 พร้อมกับคำบอกเล่าจากพี่ๆ Startup รุ่นใหญ่ในวงการ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวพร้อมกันกับ dtac มาแล้ว 1. dtac Accelerate ดูแลกันด้วยความเป็นครอบครัว ความน่าประทับใจของ dtac Accelerate จากการบอกเล่าของ Startup ในโครงการ และเพื่อนๆ ในวงการที่พูดถึงกันเป็นอันดับแรกเลยคือ การดูแลอย่างใกล้ชิดแบบครอบครัว ที่ไม่ได้เป็นแค่คำโปรยสวยๆ แต่หมายถึงแบบนั้นจริงๆ และนี่คือคำกล่าวของ Startup รุ่นพี่ที่ผ่านโครงการนี้มาแล้ว ซึ่งบรรยากาศที่ดีตรงนี้ทำให้แต่ละทีมในโครงการที่ดูเหมือนเป็นคู่แข่งกัน แต่หลังเวทีแล้วคือเพื่อนในวงการเดียวกันที่คอยผลักดันและพัฒนาไปพร้อมกัน เราจะได้เห็นแต่ละท่านพูดคุยเรื่องในวงการอย่างสนุกสนานในร้านชาบู ซึ่งก็ไม่ใช่ทีมที่ชนะอันดับต้นๆ เท่านั้นที่โครงการสนับสนุน เรายังได้เห็นทีมที่ผ่านเข้ารอบหลายๆ ทีมได้รับการผลักดันและเติบโตในวงการอย่างต่อเนื่อง 2. คุณภาพระดับ Top 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ dtac Accelerate ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์บ่มเพาะโครงการ Startup ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคนี้รองจาก สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย มี Startup กว่า 1,000 รายเข้าสมัคร มีทีมที่ผ่านการคัดเลือกสู่โครงการทั้งหมด 21 ทีม ซึ่งทั้งหมดได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไปแล้วถึง 2,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา สร้างงานแล้วกว่า 10,000 ตำแหน่ง ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) รวมแล้วกว่า 150 ล้านบาท โครงการระดับนี้จึงเป็นที่น่าสนใจ ไม่สมัครเดี๋ยวคุยกับเพื่อนในวงการไม่รู้เรื่อง 3. Mentors ระดับคุณภาพจากผู้ประกอบการ Startup ตัวจริง Mentors ปีนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มมาก จะมีโอกาสสักกี่ครั้งที่เราจะได้เจอเทพๆ ในวงการพร้อมกันในงานเดียวขนาดนี้ ที่จะมาเชือด เอ้ย มาช่วยดึงศักยภาพของทีมเราให้ฉายแสงออกมากที่สุด ในโครงการนี้เราจะได้พบกับ คุณทิวา จาก Kaidee คุณสมหวัง จาก PayPal ประเทศไทย คุณณัฐวุฒิ จาก Ookbee คุณไผท จาก Builk คุณกิตินันท์ จาก Claim Di คุณอริยะ จาก LINE ประเทศไทย คุณชาริณี จาก ORAMI คุณจุทาศรี ผู้ร่วมก่อตั้ง Grab คุณมณีรัตน์ จาก Garena แถมด้วยวิทยากรและนักลงทุนจากบริษัทชื่อดังที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้เข้าสมัครในโครงการอย่างใกล้ชิด 4. รางวัลสุดพิเศษที่มากกว่าเงินลงทุน เงินลงทุนก็อยากได้แน่นอนแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจคือการได้รับความรู้จากกูรูในวงการ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต ทีมที่ได้รับการคัดเลิอกจะได่รับเงินทุนสนับสนุนทีมละ 500,000 – 1,500,000 บาท, ได้ไปอบรมเข้มข้น 4 เดือน ด้วยหลักสูตรที่ใช้ใน Silicon Valley, ได้รับการสนับสนุนทางธุรกิจและทางกฎหมายจาก dtac และอีกมากมาย รวมไปถึงรางวัลพิเศษที่เค้าบอกว่าต้องคอยลุ้นด้วยว่าจะเป็นอะไร 5. ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ และเติบโตในวงการอย่างยั่งยืน Logo ด้านบนคือทีม Startup ที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ dtac Accelerate เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นตากันดี หรือหลายคนน่าจะเคยใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้วด้วย เราจะพบว่าทีมเหล่านี้ก็เติบโตต่อยอดได้ไปประกวดในโครงการต่างๆ มากมาย อีกโอกาสหนึ่งที่สำคัญที่อยากเล่าให้ฟัง คือ พี่ในโครงการบอกว่า dtac เค้าจะดันเราไปโผล่ในสื่อต่างๆ มากมาย (เช่นเว็บที่คุณอ่านอยู่นี่แหละ) ตรงนี้ทำให้ธุรกิจได้รับการโปรโมทไปเยอะมากๆ และได้ฐานผู้ใช้งานมากขึ้นพอสมควรเลย และทุกวันนี้ทีม Startup เค้าก็ยังพบปะพูดคุยปรึกษากัน อัพเดทเรื่องราวที่น่าสนใจในวงการ แลกเปลี่ยนโอกาสในธุรกิจ และก็เฮอาตามร้านบุฟเฟ่ต์แบบเพื่อนสนิทในวงการกันอย่างต่อเนื่อง อวยกันมาขนาดนี้ ใครฟอร์มทีม Startup เอาไว้ไม่สมัครก็แย่แล้ว สามารถสมัครหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://accelerate.dtac.co.th/th/Home รับสมัครถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 นี้ เหลืออีก 5 วันเท่านั้น รีบสมัครเลย! ติดตามข้อมูลข่าวสาร และความเคลื่อนไหวได้ทางแฟนเพจ www.facebook.com/dtacAccelerate