คอบอลหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า ‘ลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้’ นั่นหมายถึงในโลกของฟุตบอลผลการแข่งขันไม่มีอะไรแน่นอน ทีมเล็กก็ล้มยักษ์ได้ หรือบางทีมเกือบจะชนะอยูแล้วก็อาจจะโดนพลิกแซงนำได้ทั้งนั้น ในวงการฟุตบอลมีเหตุการณ์สนุกๆ ที่เรียกว่าการ ‘โกงความตาย’ อยู่หลายครั้ง แต่เราได้คัดบางแมทช์ที่เชื่อว่า 5 แมทช์นี้คือที่สุดยอดของแมทช์แห่งความทรงจำที่แฟนบอลยังคงจดจำความรู้สึกขนลุก ตื่นเต้น และเฮลั่นบ้านได้ดี บาเซโลน่า v.s. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีค รอบ 16 ทีมสุดท้ายปี 2017 ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ ‘บาเซโลน่า’ ที่ได้สมญานามว่า ‘ทีมต่างดาว’ ลงสู้ศึกกับยอดทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งฝรั่งเศส ’ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ ในนัดที่สองของยูฟ่าแชมเปี้ยนลีครอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง นัดแรกบาซ่าฯ เป็นฝ่ายโดนยำใหญ่จัดไปเน้นๆ 4 เม็ด ในบ้านของเปแอสเช ซึ่งถ้าบาซ่าฯ จะเข้ารอบ ต้องยิงให้ได้มากกว่า 4 เม็ด ดูแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ยานต่างดาว จะทะลุไปถึงรอบ 8 ทีม แต่ปรากฎว่าทีมต่างดาว สามารถทำได้โดยยิงประตูรัวๆ จนสามารถเอาชนะเปแอสเช ได้ในบ้านตัวเอง 6 – 1 เมื่อเทียบผลต่างประดูได้เสียแล้ว บาซ่าฯ ก็กระชากตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายจากมือเปแอสเช ไปดื้อๆ https://www.youtube.com/watch?v=VJR5S6iAl2Q ลิเวอร์พูล v.s. เอซี มิลาน ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีค นัดชิงชนะเลิศปี 2005 สำหรับแฟนเดอะค็อปน่าจะจดจำคืนวันนั้นได้ดี ในนัดชิงของ UCL ระหว่างลิ้วพูล และมิลานกลางเดือนเมษายน ที่สนามกลางในอิสตันบลู ของตุรกี ครึ่งแรกคิดว่าแฟนหงษ์หลายคนน่าจะถอดใจปิดไฟนอนไปแล้วหลังจากพวกเขาโดนลูกยิงประหยัดไฟจาก ‘เอร์นัน เครสโป’ ที่ตอกฝาโลงลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 4 สมัยไป 3 เม็ดรวด แต่ครึ่งหลังลิเวอร์พูล ภายใต้การทำทีมของ ‘เอล ราฟา’ และมี ‘สตีฟเว่น เจอร์ราด’ เป็นกัปตันทีมกลับพาลูกทีมเปิดหน้าแรกไล่ยัดเยียดประตูคืนให้มิลานไป 3 เม็ด ทำเอามิลานที่เคยคิดว่าถ้วยจะต้องตกเป็นของพวกเขาอย่างง่ายดายต้องเหวอแดก การต่อสู้ดำเนินไปถึงจุดโทษ และในที่สุดลิเวอร์พูล ก็ชนะจุดโทษ โกงความตายคว้าแชมป์จนได้ และแมทช์นี้ก็กลายเป็นแมทช์ที่แฟนหงษ์ยังคงพูดถึงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ว่า แชมป์ยุโรป 5 สมัย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด v.s. บาร์เยิร์น มิวนิค แชมเปี้ยนส์ ลีค รอบชิงชนะเลิศ ปี 1999 ถ้าเด็กหงษ์แดง มีแมทช์ค่ำคืนแห่งความทรงจำที่อิสตันบลู ไว้โม้จนลูกบวช เด็กผีแดงก็มีแมทช์ที่เอาไว้พูดข่มได้เช่นกันโดยในการแช่งขันนัดชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนลีก (ในเวลาต่อมาเป็นชื่อเป็น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีค) แมนยูฯ โดนบาร์เยิร์น นำอยู่ 1 ประตู และเกมมีทีท่าว่าจะจบลงโดยเสื้อใต้คว้าแชมป์ แต่ก่อนจะหมดเวลาลงไม่นานในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทัพผีแดง ที่มีเฟอร์กี้ ‘เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน’ ตำนานผีแดงก็กระตุ้นให้ลูกทีมโกงความตายโดย ‘เท็ดดี้ เชอริงแฮม’ และ ‘โอเล่ กุนนาร์ โซลชา’ สลับกันยิงประตูทะลวงด่านของโอลิเวอร์ คาน ได้สำเร็จพลิกแซง 2 ประตูต่อ 1 จนทำให้ถ้วยแชมป์ยุโรป ตกเป็นของทีมจากแดนผู้ดีได้สำเร็จ ส่วนบาร์เยิร์น ที่เล่นดีมาตลอดทั้งเกมถึงกับต้องเช็ดน้ำตากันหลังเป่านกหวีดหมดเวลา https://www.youtube.com/watch?v=1_vAoeBjniI แมนเชสเตอร์ ซิตี้ V.S. ควีนปาร์ค เรนเจอร์ พรีเมียร์ ลีค นัดตัดสินแชมป์ ฤดูกาล 2011/2012 พรีเมียร์ลีคฤดูกาลที่ 2011 / 2012 ฤดูกาลนั้นดูเหมือนว่าแมนยูฯ อริร่วมเมืองของเรือใบสีฟ้าน่าจะคว้าแชมป์ฤดูกาลนั้นได้สำเร็จแล้ว แต่เกิดความผิดพลาดทำให้แมนซิตี้ ไล่จี้แมนยูฯ มาจนกระทั่งต้องดวลกันถึงนัดสุดท้าย ซึ่งทั้งสองทีมต้องแข่งกันในวันและเวลาเดียวกัน โดยแมนยูฯ เจอกับซันเดอร์แลนด์ และแมนซิตี้เจอกับควีนปาร์ค เรนเจอร์ นัดนี้ถ้าแมนยูฯ ชนะแล้วแมนซิตี้แพ้ หรือเสมอ แมนยูฯ จะแชมป์ทันที แต่การแข่งขันคืนนั้นทั้งสองสนามก็ทำให้ต้องลุ้นตัวโก่ง แมนยูฯ ที่ออกสตาร์ทได้ดีขึ้น นำคู่แข่งไปอย่างง่ายดายขณะที่ฝั่งคู่อริร่วมเมืองกับโดนทหารเสือราชินี ยิงนำ 2 – 1 นั่นเท่ากับว่าแค่เสมอ แมนซิฯ จะเป็นผู้มอบแชมป์ให้แมนยูฯ ไปในทันที แต่…ช่วงท้ายเกมแมนซิตี้ โชว์พลังฮึดไล่ยิง QPR คืนอีก 2 ลูกจนพลิกแซงนำเป็น 3 – 2 จาก ‘กุน อเกวโร่’ ฮีโร่ของชาวเรือใบที่ยิงใส่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้พวกเขาคว้าแชมป์ทันที ส่วนแมนยูฯ แม้จะชนะ แต่ก็ไม่ทำให้ได้แชมป์เพราะคะแนนห่างกันแต้มเดียวเท่านั้น https://www.youtube.com/watch?v=AgoEWtB3fA0 ทีมชาติไทย v.s. ทีมชาติเกาหลีใต้ รอบก่อนรองชนะเลิศ Asian Game ปี 1998 ทีมชาติไทยก็มีแมทช์ที่น่าจดจำมากมายเช่นกัน หนึ่งในแมทช์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือรายการเอเซี่ยนคัพเมื่อปี 1998 ในวันนั้นทีมชาติไทยมีซิโก้ ‘เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง’ เป็นกองหน้า และ ‘ปีเตอร์ วิธ’ โค้ชจากอังกฤษคุมทีม โดยรูปเกมแล้วเกาหลีใต้เหนือกว่ามาก ที่ได้เปรียบก็คงจะเป็นแค่ทีมชาติไทยเตะในบ้าน นอกจากนะเสียเปรียบเรื่องทักษะแล้ว ยังเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นด้วยเพราะหลังจากโดนนำไป 1 ลูก ทีมไทยก็ดันมาเสียใบแดงเพราะ ‘วรวุฒิ ศรีมะฆะ’ ทำฟลาวด์ โชคดีที่ ‘ซิโก้ – เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง’ ยิงประตูตีเสมอให้ทีมชาติไทยได้ และในช่วงต่อเวลาพิเศษสมัยก่อนยังเป็นกฎโกลเด้นโกล ‘สุรชัย จิรสิริโชติ’ ก็โดนใบแดงอีกคน ทำให้รูปเกมของไทยเสียเปรียบในแง่ผู้เล่นชัดเจนแต่ฮีโร่ของไทย ‘ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล’ ก็ซัดฟรีคิกส์ใส่เกาหลีใต้ไปแบบงามๆ ทำให้ทีมชาติชนะแบบพลิกความคาดหมาย 2 – 1 ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ