มิชลินสตาร์ มีที่มาอย่างไร ใครรู้บ้าง? ใช่อันเดียวกับมิชลินที่เป็นยางรถยนตร์หรือเปล่า? เขาใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินให้ดาวกัน? แต่ละดาวหมายความอย่างไร และทำไมมันถึงเป็นที่ฮิตฮอตที่เราต้องตามล่าหาร้านมิชลินสตาร์เพื่อไปกินกันด้วย? มาดูคำตอบกันที่นี่เลยยยยย 1. ที่มาของ Michelin Star มิชลินสตาร์ Michelin Stars คือตราที่แสดงถึงมาตรฐานร้านอาหารคุณภาพยอดเยี่ยม ที่เกิดจากไอเดียของ บริษัท Michelin ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ที่อยากให้คนมีรถนั้นขับรถไปกินไปเที่ยวนอกบ้าน จึงได้จัดทำหนังสือ ‘The Michelin Guide’ ขึ้น เพื่อแนะนำร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และโรงแรมในฝรั่งเศส ตีพิมพ์เล่มแรกเมื่อปี 1900 ซึ่งเกณฑ์การคัดเลือกของ Michelin Stars ถือเป็นเกณฑ์วัดความเป็นเลิศที่ทั่วโลกใช้อ้างอิง 2. Michelin Stars มีที่ประเทศไหนบ้าง ปัจจุบันการแจกมิชลินสตาร์ของ The Michelin Guide มีเฉพาะเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น เช่น นิวยอร์ค ชิคาโก ซานฟรานซิสโก ปารีส ลอนดอน รวมถึงทวีปเอเชีย เช่น โตเกียว ฮ่องกง เป็นต้น 3. เกณฑ์ที่ใช้ประกอบการตัดสิน ร้านอาหารที่จะได้รับเครื่องหมาย Michelin Star นั้นประกอบด้วย 4 หัวข้อคือ คุณภาพ เทคนิค ลักษณะเฉพาะตัวของอาหาร ความเสมอต้นเสมอปลายของรสชาติอาหาร (ไม่นับรวมการตกแต่งอาหาร การจัดโต๊ะอาหาร และการบริการ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ) 4. ระดับของ Michelin Stars แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ Michelin 1 Stars : Very Good Cuisine คือร้านยอดเยี่ยมในหมวดร้านอาหารแต่ละประเภท Michelin 2 Stars : Excellent Cuisine Worth a Detour คือร้านอาหารยอดเยี่ยมคุ้มค่าสำหรับการออกนอกเส้นทางเพื่อจะไปกินอาหารที่ร้านนี้ Michelin 3 Stars : Exceptional Cuisine Worth a Special Journey คือร้านอาหารขั้นเทพที่แม้จะเดินทางไปยาก ก็ควรที่จะต้องไปกินสักครั้งในชีวิต 5. TOP 5 Michelin 1 Star (Michelin 1 Stars : Very Good Cuisine คือร้านยอดเยี่ยมในหมวดร้านอาหารแต่ละประเภท) อันดับ 1 : ฝรั่งเศส 485 ร้าน อันดับ 2 : อิตาลี 250 ร้าน อันดับ 3 : ญี่ปุ่น 224 ร้าน อันดับ 4 : เยอรมัน 209 ร้าน อันดับ 5 : อังกฤษ 125 ร้าน *ข้อมูลจากหนังสือ KTC 100 Stories of Signature Dish พิมพ์ปี 2556 6. TOP 5 Michelin 2 Star (Excellent Cuisine Worth a Detour คือร้านอาหารยอดเยี่ยมคุ้มค่าสำหรับการออกนอกเส้นทางเพื่อจะไปกินอาหารที่ร้านนี้) อันดับ 1 : ฝรั่งเศส 83 ร้าน อันดับ 2 : ญี่ปุ่น 61 ร้าน อันดับ 3 : อิตาลี 38 ร้าน อันดับ 4 : เยอรมัน 36 ร้าน อันดับ 5 : สวิตเซอร์แลนด์ 18 ร้าน *ข้อมูลจากหนังสือ KTC 100 Stories of Signature Dish พิมพ์ปี 2556 7. TOP 5 Michelin 3 Star (Exceptional Cuisine Worth a Special Journey คือร้านอาหารขั้นเทพที่แม้จะเดินทางไปยาก ก็ควรที่จะต้องไปกินสักครั้งในชีวิต) อันดับ 1 : ญี่ปุ่น 32 ร้าน อันดับ 2 : ฝรั่งเศส 26 ร้าน อันดับ 3 : อเมริกา 12 ร้าน อันดับ 4 : เยอรมัน 10 ร้าน อันดับ 5 : อิตาลี 7 ร้าน *ข้อมูลจากหนังสือ KTC 100 Stories of Signature Dish พิมพ์ปี 2556 8. เชฟมิชลินสตาร์ ร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำจากมิชลินสตาร์ ไกด์ เชฟของร้านนั้นๆ ก็จะได้รับการขนานนามไปด้วยว่า เป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์ไปโดยปริยาย อย่างเช่น กอร์ดอน แรมซี่ เป็นต้น 9. ใครเป็นคนตัดสิน? นายธนาคาร ทนาย หมอ หรือนักธุรกิจที่ยินดีตระเวนชิมด้วยความเต็มใจ โดยบุคคลเหล่านี้จะถูกเทรนด์จากมิชลินด้วยมาตรฐานเดียวกันตามคำมั่นสัญญา 5 ข้อที่ยึดถือกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 คือการใช้บริการแบบไม่เปิดเผยตัวความเป็นอิสระ การคัดเลือกสถานที่และการตัดสินใจ 10. แล้วเชลล์ชวนชิมคืออะไร? “เชลล์ชวนชิม” เกิดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและการโฆษณาของบริษัทเชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งได้ความคิดมาจาก Michelin Guide ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้รับความเชื่อถือและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เป็นผู้ชวนชิมและเขียนแนะนำ โดยมีบริษัทเชลล์ แห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายตลอดรายการ ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก หนังสือ KTC 100 Stories of Signature Dish www.thairath.co.th