Mango Zero

8 วิธีเตรียมตัวก่อนไปเจอด่านตม.ที่เกาหลี : พร้อมสาเหตุที่คนไทยโดนส่งกลับ

เชื่อว่าเกาหลีน่าจะเป็นประเทศในฝันของใครหลายคนที่อยากไปเที่ยวสักครั้ง แต่บางทีฝันนั้นอาจสลายไป เพราะเจอตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือตม.เกาหลีสุดโหด! จนทำให้คนไทยหลายคนต้องถูกส่งตัวกลับมา T___T

แต่ถ้าดูกันดีๆ ในแต่ละปีมีคนไทยแอบลักลอบไปทำงานที่เกาหลีอย่างผิดกฎหมายปีละเกือบ 60,000 คน เลยทำให้ตม.เกาหลีต้องเข้มงวดกวดขันคนไทยที่จะเข้ามาเกาหลีกันเป็นพิเศษค่ะ

ทีมงาน Mango Zero เลยขอแชร์ 8 วิธีเตรียมตัวก่อนไปเจอด่านตม.ที่เกาหลี เตรียมตัวให้พร้อมจะได้อุ่นใจเวลาเจอตม.นะ ยิ้มสู้!

คาดสาเหตุที่คนไทยถูกส่งกลับ

แต่ก่อนจะไปดูวิธีเตรียมตัว เรามาดูสาเหตุที่ทำไมคนไทยถึงถูกตม.ส่งตัวกลับ ตัวผู้เขียนเองได้ติดตามอ่านข่าวสารของคนไทยที่ถูกตม.เกาหลีกักตัวไว้และส่งกลับไทย  และมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีเองด้วย (แต่รอดนะ) คาดว่าสาเหตุหลักๆ น่าจะมาจาก…..

จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเคยไปเกาหลีมา ต้องบอกเลยว่า ระหว่างที่ตม.กำลังเช็คพาสปอร์ตของผู้เขียนนั้น ในช่องตม.จะมีจอแสดงผลเล็กๆ 1 จออยู่ข้างช่องตม.ติดไว้ให้นักท่องเที่ยวดูว่า ตอนนี้ตม.กำลังเช็คข้อมูลอะไรอยู่บ้าง ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนถูกเช็คข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศทั้งหมดที่เคยไปมา ในจอจะเห็นแม้กระทั้งไฟท์บินที่เคยไปมา ทำให้ผู้เขียนรู้สึกได้ว่า “ตม.เกาหลีนี่ เข้มงวดจริงๆ นะ”

วิธีเตรียมตัวก่อนไปเจอตม.ที่เกาหลี

1.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ต้องระบุวัน-เวลาชัดเจน

แน่นอนว่าจะไปเที่ยวเกาหลีก็ต้องมีตั๋วเครื่องบินที่ซื้อไว้ทั้งขาไปและกลับ โดยเฉพาะตั๋วขากลับ ต้องระบุวันและเวลากลับให้ชัดเจน เพื่อนำมาแสดงให้ตม.เกาหลีเห็นว่า “ฉันมาเที่ยวจริงๆ ไม่ได้อยู่ยาวนะ”

 

2.ทำตารางการเดินทางให้เห็นว่าจะเที่ยวไหนบ้าง

เมื่อจองตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพลนเที่ยวก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ และควรทำตารางเที่ยวแบบคร่าวๆ หรือถ้าละเอียดได้ยิ่งดี แล้วปริ้นต์พกติดตัวมาด้วย ในตารางนั้นให้ใส่ไปว่า เราจะเดินทางไปที่ใดบ้าง ช่วงเวลากี่โมง ไปกี่วันก็ทำให้ครบทุกวันเลยค่ะ เผื่อตม.ขอเขาจะให้เห็นว่า เรามีแผนการเที่ยวเกาหลีที่ชัดเจนนะ ไม่มีแอบไปแวะไหนที่ไม่ได้ควรไป

 

3.หลักฐานการเงินบัญชีธนาคารต้องมี

หลักฐานการเงินบัญชีธนาคารก็เป็นอีกเอกสารที่สำคัญ อย่างสเตทเม้นย้อนหลังสัก 3 เดือนหรือมากกว่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีรายได้แต่ละเดือนเข้ามาเท่าไหร่ หรือบัตรเครดิตถ้ามีก็อาจจะพกติดตัวไปด้วย รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่ง เขาจะได้ไม่คิดว่าเราจะแอบมาหารายได้เพิ่มที่นี่

 

4.หลักฐานการทำงานที่บ่งบอกอาชีพชัดเจน

ใครที่ทำงาน มีอาชีพอะไรให้พวกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพตัวเองติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรข้าราชการ บัตรพนักงานบริษัท แต่ถ้าไม่มีก็อาจจะใช้นามบัตร หรือหนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษก็ได้นะ

 

5.หลักฐานทางราชการแสดงสถานะและความสัมพันธ์ครอบครัว

ในกรณีที่มากันเป็นครอบครัว แล้วพ่อแม่พี่น้องผ่านตม.ไปหมดแล้ว ดันเหลือแต่เราที่ไม่ผ่าน ให้แสดงพวกสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาสูติบัตร เพื่อยืนยันว่าเรามากับครอบครัวที่ผ่านเข้าไปแล้วนะ เผื่อทางตม.จะได้เรียกครอบครัวเข้ามายืนยันด้วยอีกทาง แต่ถ้าสาวๆ คนไหนที่แต่งงานแล้ว ควรพกสำเนาทะเบียนสมรสไปด้วยนะ เพื่อว่าเขาจะได้ไม่แอบคิดว่าเราจะเข้าไปขายอะไรที่ไม่เหมาะสม

 

6.มีแหล่งที่พักในเกาหลีชัดเจน

ก่อนจะไปเราต้องปริ้นต์ใบจองที่พักพกติดตัวไปด้วยค่ะ และในระหว่างอยู่บนเครื่องบินเราจะได้รับใบ Arrival Card สำหรับใช้เข้าด่านตม.เกาหลี ซึ่งจะให้กรอกรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะที่พักในขณะที่เราอยู่เกาหลี จะต้องกรอกให้ละเอียดเลยค่ะ ว่าไปพักที่ไหน ประเภทที่พักเป็นแบบไหน ชื่ออะไร เบอร์โทรของที่พัก เพื่อที่ตม.จะได้เช็คได้ว่าจองมาเข้าพักจริงนะ

 

7.มีบุคคลที่สามารถอ้างอิงติดต่อได้ชัดเจน

ในกรณีที่มากับทัวร์ ทางไกด์จะเป็นบุคคลที่ติดต่อได้ แต่ถ้ามาเที่ยวเองต้องมีข้อมูลของผู้ที่เขาจะสามารถติดต่อได้ในไทย หรือถ้ามีในเกาหลีด้วยยิ่งดีค่ะ

 

8.แนบพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วย

แต่ถ้าใครเพิ่งไปทำพาสปอร์ตมาใหม่ หน้าขาวจั๊วยังไม่ได้ตราประทับเลย ควรแนบพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วยนะ จะได้ช่วยยืนยันอีกทางว่าเคยไปไหนมาบ้าง

นี่ก็เป็นวิธีการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนไปเจอตม.เกาหลี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝั่งตม.เกาหลีอีกทีค่ะ อย่างน้อยๆ การที่เราเตรียมตัวไว้ก่อน ก็ช่วยทำให้เราอุ่นใจขึ้น เพราะถ้าผ่านตม.ได้แล้ว ประเทศเกาหลีจริงๆ ก็น่าเที่ยวมากนะ แถมคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็ไม่ได้โหดอย่างที่คิดด้วย ^_^