“ขอให้มีความสุข” สิ่งที่เรียบง่าย แต่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต จนถูกใช้เป็นคำอวยพรให้กับคนอื่นมาเป็นเวลานาน การรักษาความสุข บางครั้งก็ต้องใช้เงินและเวลาจำนวนมหาศาลเพื่อแลกมา แต่สิ่งที่ได้ตอบแทน บางทีก็สั้นและไม่ได้ทำให้สุขได้เท่าที่คิด แน่นอนว่าเรารู้วิธีสร้างความสุขให้กับตัวเอง แล้วเรารู้หรือเปล่า ว่าอะไรที่ทำแล้วทำให้ตัวเองไม่มีความสุข
ความสุขสามารถเกิดขึ้นได้จากเรื่องเล็กๆ การบังเอิญได้เห็นคลิปน้องหมาน่ารัก วันนี้อากาศดี การเดินทางราบรื่นตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงที่ทำงาน สิ่งเหล่านี้ีเกิดขึ้นได้ในทุกวัน แต่หากเรายังไม่มีความสุขอยู่ นั่นอาจเป็นเพราะเราทำสิ่งเหล่านี้อยู่ ก็เป็นได้
สนใจกับเป้าหมาย(ของคนอื่น)
ทุกคนมีความสำเร็จเป็นของตัวเอง แต่มันจะไม่มีทางเพียงพอเลยถ้าเรายังสนใจและให้ความสำคัญกับความสำเร็จของคนอื่น ความสุขจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าอะไรคือสิ่งสำคัญและต้องการเดินไปทางไหน วางความต้องการที่คนอื่นมาฝากไว้หรือไปหยิบของเขามาลง และหลังจากนั้นจะพบว่าเรามีความสุขมากกว่าคนรอบข้างซะอีก
ก่อนจะทำอะไร ต้องรอให้ถึงเวลาที่ใช่
วางแผนมาแล้ว เหลือก็แต่รอเวลาที่เหมาะสมจึงจะเริ่มลงมือทำ แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นเวลาที่จะพร้อมสักที เอกสารพร้อม กายพร้อม แต่ใจไม่พร้อม ระหว่างที่รอก็รู้สึกกระวนกระวาย เป็นกังวลจนไม่มีความสุขเอาซะเลย
บางครั้งเวลาที่ใช่อาจเกิดขึ้นในวินาทีที่ลงมือทำเดี๋ยวนั้น ไม่ถึงขั้นต้องเป็นการลงมือทำครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้ ขอแค่เป็นสิ่งเล็กๆ ที่เป็นการกระตุ้นความรู้สึกในใจ แล้วคุณจะรู้สึกว่า อ้าว จริงๆ ฉันพร้อมตั้งนานแล้วนี่นา
กักขังตัวเองอยู่ในคอมฟอร์ทโซน
การพักนั้นก็ดี แต่ควรอยู่ในระดับพอหายเหนื่อย เพราะถ้าสบายมากเกินไปแบบนานๆ จะทำให้เราไม่มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองและติดกับอยู่ในวังวนนั้น เกิดเป็นความจำเจ และไม่มีความสุขในสิ่งที่เราเคยสนุกไปกับมันในที่สุด ลองเปลี่ยนไปทำอะไรใหม่ๆ บ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ทำในสิ่งที่เราเคยปฎิเสธเพราะไม่คุ้นชิน ไม่แน่ว่าอาจเกิดความสุขจากสิ่งใหม่ๆ ก็ได้นะ
ยังคงจมอยู่กับอดีต
ไม่แปลกหรอกถ้าจะคิดถึงอดีต แต่ถ้าคิดถึงมากเกินไปจนมันมีผลกระทบต่อชีวิตในปัจจุบัน แล้วจะให้ความสุขในตอนนี้หาคุณเจอได้อย่างไร ทางที่ดีเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้เป็นบทเรียน และนำมาพัฒนาให้ปัจจุบันดีขึ้น ดึงตัวเองออกมา โฟกัสอยู่กับปัจจัน แล้วความสุขก็จะค่อยๆ เข้ามาทักทายมากขึ้นเอง อดีตน่ะมีไว้ให้คิดถึง แต่ไม่ได้มีให้กลับไปนะ
เริ่มต้นทุกอย่างด้วยความกลัว
ความกลัวเป็นกลไกพื้นฐานของมนุษย์ ช่วยป้องกันไม่ให้เราทำอะไรแผลงๆ หรืออันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ความกลัวมีส่วนสำคัญในชีวิต อาจรู้สึกเสียดายกับหลายๆสิ่งในภายหลัง นอกจากนี้ ความกลัวที่มีมากเกินไป ยังพัฒนาให้เรากลายเป็นคนตื่นตระหนก และเครียดง่ายอีกด้วย
ลองปล่อยให้แต่ละอย่างเป็นไปซะบ้าง ไม่คิดถึงสิ่งต่างๆ ในแง่ร้ายจนเกินไป ลงมือทำแต่ละอย่างด้วยความรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณตัวเองที่ทำอย่างเต็มที่ ขอบคุณผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิด และจะเป็นไปในทางที่ดี เมื่อคิดแบบนี้วันละเล็กๆ น้อยๆ ก็จะสามารถปลดปล่อยความกลัวออกไปได้ และมีความสุขกับในแต่ละวันมากขึ้น
ตามหาสิ่งที่เป็นความสุขชั่วคราว
ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะอยากได้สิ่งของต่างๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้โลกมีการพัฒนาและก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ต้องระวังไว้ว่าธรรมชาติของมนุษย์ คือเมื่อมีอะไรมาแล้ว มักจะต้องการในสิ่งที่มากขึ้นเสมอ
ความสุขของคุณอาจจะหมดลงทันทีเมื่อมีคอลเลคชันใหม่เข้ามา และคุณยังไม่ได้เป็นเจ้าของมัน ดังนั้นจงให้คุณค่ากับสิ่งของแต่ละอย่างแต่พอดี อย่าให้ความเป็นวัตถุมีอิทธิพลกับตัวเรามากเกินไป จนบังคับโหมดความสุขของคุณได้
แคร์คนรอบข้างมากเกินไป
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีอาการแคร์สายตาของคนรอบข้างมากเกินไป คิดว่ามีคนมากมายกำลังจับจ้องอยู่ หากทำอะไรแปลกหรือผิดขึ้นมา ต้องไม่พ้นตกเป็นที่เม้าท์เป็นแน่ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครสนใจคุณมากขนาดนั้น ลองทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองแบบตามสบายดู (แต่ก็ต้องไม่เป็นการรบกวนคนอื่นนะ) และมั่นใจกับคุณค่าและข้อดีของตัวเอง ไม่นานความวิตกกังวลต่อสายตาที่มีต่อผู้อื่นก็จะลดลง และเราจะมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ให้ความสำคัญกับสิ่งภายนอก
แน่นอน การแต่งตัวอาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูว่าเขาคนนั้นเป็นคนแบบไหน ไลฟสไตล์เป็นยังไง และไม่ใช่เรื่องผิดที่จะชื่นชมกับสิ่งสวยๆ งามๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดการให้น้ำหนักระหว่างสิ่งที่เห็นและสิ่งที่เป็น และยอมให้ความดูดีภายนอกเอาชนะนิสัยใจคอได้ล่ะก็ การมีความสุขก็อาจจะเกิดขึ้นได้ยากกว่าเดิม เพราะการสร้างสิ่งสวยงามนั้นต้องใช้ความพยายามและเหนื่อยกว่าการเป็นตัวเอง ลองเปลี่ยนเป็นดูที่วัตถุประสงค์ของสิ่งนั้นๆ ให้ความสำคัญกับความงามข้างในมากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก และไม่เผลอไปคาดหวังหรือตัดสินคนจากสิ่งที่เห็น เท่านี้ก็จะมีความสุขมากขึ้นอีกเยอะ
ที่มา: Positiveblog, Medium