8 ประโยคเด็ดจากหนัง – ซีรีส์น้ำดี..ที่อยากให้ลุงแถว ๆ นี้ได้อ่าน สำหรับคอหนังคอซีรีส์หลาย ๆ คน เราเชื่อว่าเวลาที่เปิดจอดูเรื่องอะไรสักอย่าง นอกจากจะได้พบกับนักแสดงมากฝีมือ เส้นเรื่องที่ฉูดฉาด จากหนัง-ซีรีส์หลากอรรถรสแล้ว ก็อาจจะได้พบกับประโยคเด็ดสุดโหดเหมือนโกรธโลก จนต้องจดจำ ชนิดที่ว่ากระแทกใจคนดู จนแคปหน้าจอกันแทบไม่ทัน และคิดในใจว่า นะ..นี่มัน.. เหมือนประเทศแถวเน้เลย! โดยเฉพาะในเรื่องราวอย่างกฎหมายเข้มข้น คนการเมืองแข่งขัน การแย่งชิงอำนาจ ดิ้นรนฝ่าฟันไปจนถึงการสะท้อนภาวะผู้นำของตัวละครทั้งรองทั้งหลักในเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไดอะล็อกเสียดสีอย่างแสบสันจากหนัง – ซีรีส์เรื่องดังจากประเทศอื่น ๆ นั่นเอง ยิ่งพักหลัง ๆ มานี้ ทางฝั่งเกาหลียิ่งดันบาร์วงการบันเทิงผลิตซีรีส์น้ำดีที่มาพร้อมประโยคเด็ดจากซีรีส์ กระแทกหน้าทั้งคนดู ทั้งหน่วยงานในประเทศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว รวมถึงฝั่งตะวันตกเองก็ขึ้นชื่อเรื่องสะท้อนสังคมผ่าจอหนัง จอทีวีมีประโยคดีๆที่จำติดในใจ ดังนั้น Mango Zero ได้รวบรวม 8 ประโยคเด็ด(เท่าที่จำได้) จากหนัง-ซีรีส์น้ำดีมาให้ ด้วยอินเนอร์ของคนที่อยากให้ลุงแถวๆนี้ได้มาอ่านดู อิอิ Don’t Look Up (2021) ประโยคนี้ถ้าอยากได้อรรถรสแบบถึงใจ แนะนำให้กดพากย์ไทยใน Netflix แล้วฟังสัก 10 รอบ 5555555 เพราะคนพากย์ใส่อรรถรสมากมาย อินเนอร์แห่งความคับแค้นใจ ด้วยความที่ผ่านเหตุการณ์ในประเทศที่คล้ายๆกันแหละเน้าะ สำหรับ Don’t Look Up เป็นภาพยนตร์ตลกร้ายที่สะท้อนภาวะผู้นำที่จะทำให้เราตายกันหมดอย่างแท้จริง เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์โนเนมที่ค้นพบดาวหางขนาดยักษ์ที่จะพุ่งชนโลก และนำไปบอกประธานาธิบดีสหรัฐที่วุ่นอยู่กับการหาเสียงเลือกตั้งจนไม่สนความพังพินาศที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ผนงรจตกม เหมือนประเทศแถวนี้เลย มุแงงง Juvenile Justice (2022) นับเป็นประโยคเด็ดรับต้นปี ที่สุดของการเสียดสีและเป็นประโยคที่หลายคนอยากบอกลุงๆแถวนี้มากที่สุด (เห็นครั้งแรกคือต้องแคปไว้เลย มือไปอย่างอัตโนมัติ) จากซีรีส์เข้มข้นที่เพิ่งลง Netflix อย่าง Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน เรื่องราวสะท้อนสังคมของเยาวชนผู้กระทำความผิดและผู้พิพากษาผู้ยุติธรรมและซื่อตรงที่ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำคุ้มภาษีประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง ถึงแม้ในเรื่อง ประโยคนี้จะถูกใช้เพื่อเตือนใจเพื่อนร่วมงานที่แนะนำแนวทางด้วยความหวังดี แต่ดันมากระทบกับลุงข้างบ้านแถวนี้ เต็มสิบไม่หัก! My Fellow Citizens (2019) ใช่! แบบนั้นมันไม่ใช้การรับใช้ประชาชนแล้ว! (อินๆ) ประโยคจากซีรีส์น้ำดีจากเกาหลีอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับ My Fellow Citizens ที่นำแสดงโดยคนหล่อเท่ผู้เป็นเจ้าของทุกอย่างบนโลก ‘ชเวซีวอน’ เกี่ยวกับนักต้มตุ๋นที่มีภรรยาเป็นตำรวจ แถมดันเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นๆ ในสนามการเมือง ทำให้ได้พบกับเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองที่เหมือนหรือเหนือกว่าการต้มตุ๋น นอกจากประโยคนี้ ยังมีประโยคที่คนแชร์กันจากเรื่องนี้อย่าง “บทลงโทษที่รุนแรงที่สุดของการไม่สนใจการเมือง คือเราต้องอยู่แบบเดิมไปตลอดชีวิต” Kingdom (2019) เหมือนดังกบในกะลา เธอปิดตาฉันเอาวรั้ยยยย~ ถ้าไม่มีเรื่องนี้อาจจะไม่เข้าธีม ในสภาพของประเทศแถวนี้ที่กำลังถอยลงคลอง เชื่อว่าแฟนซีรีส์อยากจะเชิญเจ้าพ่อจากจักรวาลซอมบี้อย่าง Kingdom มาฉอดเช้าฉอดค่ำก่อนนอนสักหนึ่ง เพราะในซีรีส์บ้านเมืองกำลังโกลาหลเพราะเหล่าซอมบี้ ในขณะที่พวกขุนนางหาทางเอาตัวรอดแบบไม่เหลียวมองคนข้างหลัง แถมยังหน้าเลือดเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งในสถานการณ์คับขันจากประชาชนอีก ไม่แตกต่างกับโลกทุกวันนี้ ที่ทั้งปัญหาแวดล้อม ความฝืดเคืองของเศรษฐกิจที่ส่งผลถึงชีวิตประชาชน ถ้าเรามีผู้นำสักคนที่สามารถมองเห็นภาพปัญหาทั้งหมด รับฟังเสียงคน คงจะพอมีหวังและไม่รู้สึกอับจน มองเห็นภาพในอนาคตขึ้นมาบ้าง Law School (2021) นอกจากภาวะผู้นำอันแข็งแกร่งที่ประชาชนต้องการ ยังมีความยุติธรรมผ่านกฎหมายเคร่งครัดที่จะทำให้ทุกอย่างโปร่งใสออกมาได้ ในโลกที่คนตายพูดไม่ได้ เกิดอาชญากรรมมากมาย แต่ทว่ากฎหมายไม่ได้แสดงถึงความยุติธรรมให้ศรัทธา เทพีปิดตาถือตราชั่งจะมีความหมายอะไร กฏหมายเชื่อได้แค่ไหน อาจารย์จาก Law School ซีรีส์กฎหมายที่ขึ้นชื่อเรื่องอ่านซับไม่ทันได้บอกกับผู้พิพากษาในศาลไว้ว่า กฎหมายไม่ใช่ความยุติธรรม แต่การตัดสินใจที่เที่ยงตรงต่อความผิดเหล่านั้น คือการแสดงตัวอย่างแห่งความยุติธรรมได้เป็นประจักษ์มากที่สุด ว่าแต่..อาจารย์สนใจมาสอนในศาลแถวนี้สัก 10 ชั่วโมงไหมคะ? (มันจะต้องมีคนหลับคอพับตั้งแต่ 5 นาทีแรก สภาพพพ) All of Us Are Dead (2022) ถึงแม้จะเป็นคำพูดจากสส.ที่เห็นโอกาส(ฉกฉวย)สร้างความดีงามให้ภาพลักษณ์ของตัวเองท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้และการติดเชื้อที่รุนแรงจนต้องทิ้งระเบิดล้างเมือง แต่หลายส่วนของตัวละครนี้ จากเรื่อง All of Us Are Dead ก็แสดงให้เราเห็นถึงความรับผิดชอบ การปกป้องคนในปกครองของตัวเอง รวมถึงภาวะผู้นำของเธอที่สุขุม ลึกๆ แล้วมีความเห็นอกเห็นใจประชาชนที่รอความช่วยเหลืออยู่ด้านนอก (ในฉากที่พลเมืองของตัวเองถูกตัดหาง) อย่างชัดเจน ลองคิดภาพ ถ้าซอมบี้บุกไทยอย่างที่เห็นในซีรีส์ ลุงแถวนี้จะจัดการได้ดีไหมน้าาา The Post (2017) สื่อคืออิสระ ไม่มีวันมาบังคับกันไม่ได้ อย่างที่ทุกคนรู้ สื่อจะสามารถทำงานได้ดี ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ไม่ถูกปิดปาก ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินและอำนาจทางการเมือง เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เข้มข้น ของคนทำสื่อ ที่ให้นิยามได้ว่า เสรีภาพของสื่อ คือเสรีภาพของประชาชน จากฝีมือของพ่อมดแห่งฮอลลีวูดอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่บอกเล่าเรื่องราวของกิจการหนังสือพิมพ์ในยุค 70s เมื่อรัฐบาลพยายามปกปิดข้อมูล และการทำหน้าที่ที่ถูกโดยการตีพิมพ์ข่าวสารข้อมูลให้ประชาชนรับรู้อาจทำให้นักข่าวหลายคนเข้าคุกเข้าตาราง เอ๊ะะะ มันคุ้นๆไหม เหมือนเกิดบ่อยๆในดินแดนเมืองยิ้มเลย House of Cards (2013) ขอปิดท้ายด้วยประโยคนี้ สำหรับคนที่อยู่มาแล้ว 7-8 ปี ไม่ลุก ไม่ลา ไม่หนี ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ประโยคจากซีรีส์การเมืองเรื่องนี้ย้ำเตือนใจให้เรารู้ว่าการอยู่ใกล้ชิดกับอำนาจ ไม่ได้แปลว่าคุณมีสิทธิ์จะครอบครองและใช้อำนาจตามใจต้องการได้ (ถ้าไม่อยากให้ผู้คนชี้นิ้วใส่แล้วคิดในใจหรือตะโกนขับไล่ ‘พวกบ้าอำนาจ’) แต่ในเมืองหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับศีลธรรมอันดีงาม กลับมีคนนึงที่อยู่มาน๊านนาน ใกล้ชิดจนแทบจะกลืนไปอยู่ในอำนาจจนถอนตัวออกมาไม่ได้แล้วววว “ผู้นำที่ดีจะไม่ถอยหนีจากคนที่เห็นต่าง แต่จะโอบกอดพวกเขาไว้ต่างหาก” คุณอันเดอร์วู้ดได้กล่าวไว้ อีกไม่นานนี้อีกนานแค่ไหนนะลุง..