ตลอดปีที่ผ่านมาบนโลกออนไลน์เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย หลายเหตุการณ์มี ‘บุคคล’ เป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เกิดกระแสจนส่งผลให้พวกเขากลายเป็นบุคคลแห่งปีอย่างเลี่ยงไม่ได้ มาทวนความจำกันว่า 8 คนที่ MangoZero ยกให้เป็นบุคคลแห่งปีนั้นมีใครบ้างจากสาขาไหน ถึงแม้บางคนเขาไม่เต็มใจแต่เราก็อยากจะมอบให้อ่ะนะ สาขาตกเก้าอี้ดีเด่น วรวีร์ มะกูดี (บังยี) อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย 4 สมัยซ้อน และดำรงตำแหน่งหนึ่งใน 24 คณะกรรมการบริหารฟีฟ่าซึ่งเคยยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลไทย มาปีนี้ตั้งแต่ต้นปีบังยี ก็โดนมรสุม ทั้งตกเก้าอี้นายกฯ และตกเก้าอี้คณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า แถมยังโดนฟีฟ่าแบนอีกต่างหาก เอาเป็นว่าชาตินี้เขาไม่สามารถกลับเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างออกหน้าได้อีกแล้วล่ะ เหตุผลที่ควรได้รางวัล – เป็นคนเดียวที่ทำให้แฟนบอลไทยรักสามัคคีพร้อมใจกันรุมด่าได้นี่ไม่ธรรมดานะ สาขาบุคคลบนท้องถนนยอดเยี่ยม อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล (น็อต กราบรถกู) น็อต อัครณัฐ เจ้าของวลีเด็ด ‘กราบรถกู’ คือบุคคลแห่งปีในสาขาบุคคลบนท้องถนนที่โชว์ลีลาบู๊บนถนนด้วยการต่อยคู่กรณีจนดั้งหักเนื่องจากไม่พอใจที่คู่กรณีชนแล้วหนี และยังตะโกนใส่คู่กรณีด้วยคำที่ทรงพลังว่า ‘กราบรถกู’ และต่อมาวลีนี้กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ต ผลจากการปล่อยหมัดตรงในวันนั้นทำให้น็อตตกงานทันที จนต้องขอลาไปบวชชัวร์คราว และสึกออกมาอย่างเงียบๆ เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหา เหตุผลที่ควรได้รางวัล – ประโยคของเขาเด็ดจริง ชอบมาก สาขาพ่อตาแห่งปี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ (ชูวิทย์) ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดนศาลสั่งจำคุก 2 ปีในคดีรื้อบาร์เบียร์ไปเมื่อต้นปี 2559 แต่ธันวาคมเขาได้รับการอภัยโทษให้ออกจากคุกเร็วกว่ากำหนดเกือบหนึ่งปี และการที่เขาออกจากคุกนั้นไม่พีคเท่าไหร่ แต่คลิปที่เขาถ่ายจากซานฟานซิสโก นั้นโคตรพีค ในคลิปชูวิทย์พูดถึงชีวิตที่ตกต่ำขอตัวเองเพราะติดคุกและหลังจากนี้เขากำลังจะขึ้นสูง ว่าแล้วก็เรียกลูกสาวน้องต๊ะ ตระการตา เข้ามาในฉาก แค่เพียวเสี้ยววินาทีที่เห็นน้องต๊ะ แล้วเธอก็ออกจากฉากไป หนุ่มๆ ทั่วประเทศก็พร้อมใจกันยกให้ชูวิทย์ เป็นพ่อตากันทันทีแย่งซีนทุกสิ่งทุกอย่างในโลกออนไลน์ทันที พ่อตาคร้าบบบบบ เหตุผลที่ควรได้รางวัล – ดูคลิปข้างล่างนี้สิ https://www.facebook.com/ChuvitIamBack/videos/1280334962013230/ สาขาลาก่อยเราจะคิดถึงคุณ สรยุทธ สุทัศนะจินดา (สรยุทธ) นักข่าวในตำนานที่อ่านข่าวอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ไทยมาตั้งแต่ปี 2546 โดยเขาอยู่ในระหว่างสู้คดีเกี่ยวกับการฉ้อโกง และถูกคนในวงการสื่อ และคนในวงการอื่นถล่มยับ พร้อมขอให้เขายุติการทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวเนื่องจากคุณสมบัติไม่เหมาะสมที่จะเป็นสื่อมวลชน สรยุทธเลยประกาศวางมือจากการเป็นผู้ประกาศข่าว นั่นทำให้รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และรายการข่าวอื่นๆ ต้องเปลี่ยนโฉม ที่แน่ๆ คือดูเหมือนเรทติ้งจะไม่ค่อยพุ่งเท่ากับสมัยที่เขาอยู่อีกแล้ว เหตุผลที่ควรได้รางวัล – นักข่าวที่ทรงอิทธิพลส่งผลต่อสังคม และสร้างมาตรฐานการทำรายการข่าวแบบใหม่ๆ นี่มีไม่บ่อยนะ ส่วนเรื่องอื่นก็แล้วแต่เลย สาขาผู้โดนลอยแพ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร (คุณชายหมู) อดีตผู้ว่า กทม. เจ้าของวลีเด็ด ‘น้ำรอการระบาย’ โดนสั่งปลดฟ้าผ่าโดยกฎมาตรา 44 เนื่องจากโดนโจมตีเรื่องการบริหารกรุงเทพฯ มานานแล้ว และยังแก้ปัญหาหลายเรื่องไม่หายโดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วมที่ฝนตกเมื่อไหร่ถนนในกรุงเทพฯ จะเปลี่ยนเป็นคลองโดยอัตโนมัติราวกับเป็นฟังก์ชั่นพิเศษ แต่ใครมันจะอยากได้ฟังก์ชั่นถนนที่เปลี่ยนร่างเป็นคลองได้วะ และยังมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องใช้งบไม่เหมาะสมอีกทั้งทำไฟงานวัด 39 ล้านบาท และเบิกงบไปตกแต่งห้องทำงานอีก16.5 ล้านบาท (นี่สร้างออฟฟิศใหม่ทั้งออฟฟิศได้เลยนะ) ว่าแล้วก็โดนปลดเลย ส่วนคดีความนั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่ายังไง แค่ปลดแล้วก็จบหรือเปล่า เหตุผลที่ควรได้รางวัล – เขาทำงานมาหนักแล้วอยากให้ได้พักนานๆ เลยยยย สาขาสามีแห่งชาติของเก้ง กวาง บ่าง ชะนี ณภัทร เสียงสมบุญ (นาย) ปีก่อนสามีแห่งชาติก็คือนักฟุตบอล ‘ชาริลล์ ชัปปุยส์’ แต่ปีนี้ตำแหน่งสามีแห่งชาติตกเป็นของหนุ่มสูงหน้าหล่อ ที่ดังมานานแล้วแหละจากการถ่ายแบบและเล่นโฆษณา แต่พอปลายปีหนังเรื่อง ‘พรจากฟ้า’ เข้าปุ๊บ หูยยย กระแสกรี๊ดน้องนาย นี่มาเลย อเห็นยากจะสมัครเป็นลูกสะใภ้ของ หมู พิมพ์ผกา กันเป็นแถว คุณแม่ขาาาาาา เหตุผลที่ควรได้รางวัล – นายหล่ออ่ะ สาขาดวงซวยแห่งปี กฤษณะ อมิตรสูญ (บอลแฟนอุ้ม) เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ดวงซวยที่สุดประจำปีนี้ก็คงได้เพราะมีข่าวว่าเขาสั่งลูกน้องไปทำร้ายร่างกายลูกค้าคนหนึ่งในร้านที่เขาอ้างว่าเป็นเจ้าของ เหตุผลที่ส่งคนไปกระทืบลูกค้ารายนั้นคืออะไรไม่ทราบ แต่ที่ทราบคือคนที่โดนกระทืบนั้นคือลูกนายพล ที่สามารถสั่งกองทัพในพื้นที่ภาคเหนือเคลื่อนพลได้ (อูวว) ซวยดอกสองคือร้านที่เขาเป็นเจ้าของ (ตอนแรกบอกเป็นหุ้นส่วน) โดนสั่งรื้อทันที ซวยสามคือโรงแรมที่เขามีชื่อเอี่ยวอยู่ในนั้นก็โดนสั่งปิด ซวยสี่คือโดนดำเนินคดีต่ออีกดอกหนึ่ง ซวยห้าบังเอิญพ่อเขารู้จักกับนายกฯ อืม…เรียกได้ว่าซวย หรือกรรมตามสนองก็คงได้ เหตุผลที่ควรได้รางวัล – ซวยกว่านี้ไม่น่าจะมีใครเกิน สาขาเทพบุตรแห่งปี อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม) พี่ตูน คือเทพบุตรแห่งปีที่ทำเพื่อคนอื่นด้วยการวิ่ง 400 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ไปบางสะพานระดมทุนบริจาคสำหรับนำเงินไปซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลบางสะพาน ที่ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์อย่างหนัก จากเดิมเขาตั้งใจไว้ว่าน่าจะได้แค่ 4 ล้านก็กลายเป็น 70 ล้านบาทซึ่งถือว่าช่วยชีวิตคนในย่านนั้นที่จำเป็นต้องใช้โรงพยาบาล จุดเริ่มต้นของการวิ่งคือพี่ตูนเห็นปัญหานี้โดยบังเอิญเพราะเขาไปอยู่ที่บางสะพานมาพักใหญ่ๆ เลยคิดอยากจะเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่บอกเล่าเรื่องปัญหาของโรงพยาบาลรัฐที่เผชิญอยู่ พี่ตูนเลยเริ่มต้นที่โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนอนาคตภาครัฐจะหันมาสนใจพยาบาลขนาดเล็กๆ แห่งอื่นอีกหรือไม่ก็ต้องมาดูกัน เพราะจะให้พี่ตูนแยกร่างแล้ววิ่งไปทั่ว 77 จังหวัดคงไม่ไหว เหตุผลที่ควรได้รางวัล – สิ่งที่พี่ทำโคตรยิ่งใหญ่