เมื่อเราอยู่ในยุคที่ร้านชาไข่มุกโตไวพอๆ กับเมล็ดถั่วเขียว และในที่สุดลัทธิเบคอนก็เป็นที่ยอมรับ จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเรากำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟูของอาหารอย่างแท้จริง แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การลดน้ำหนักเพื่อรักษาสุขภาพตามลำดับ แต่หลายคนก็ไม่ได้ตั้งใจดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง รู้แค่ว่าสิ่งไหนดีก็กินทันที ทั้งๆที่จริงแล้วสิ่งนั้นอาจทำให้เราอ้วนกว่าเดิม! อโวคาโด ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้สีเขียวและเป็นแหล่งของไขมันดี แต่รู้หรือไม่ว่าจำนวนแคลอรี่ของทั้งลูกนั้นอยู่ที่ 350 แคล นั่นแปลว่าเมื่อเราฝานเป็น 5 ชิ้นบางๆ หนึ่งชิ้นจะมีค่าถึง 70 แคลอรี่! ทางที่ดีควรกินวันละครึ่งลูก หรือกินเป็นหนึ่งมื้อไปเลย น่าจะดีกว่าการเป็นอาหารประดับจานนะ ถั่วต่างๆ ศูนย์รวมโปรตีน สารแอนตี้ออกซิเดน (antioxidants) แร่ธาตุ และแน่นอน เจ้าพวกนี้เป็นศูนย์รวมแคลอรี่และไขมันเช่นเดียวกัน ถั่วแต่ละชนิดมีจำนวนแคลอรี่ที่แตกต่างกันไป ในปริมาณ 100 กรัม เม็ดเกาลัด ได้ 213 แคลฯ ถั่วพิตาชิโอ 557 แคลฯ อัลมอนด์ 575 แคลฯ เฮเซลนัท 628 แคลฯ วอลนัท 654 แคลฯ และเเมคคาเดเมียหวานมัน อยู่ที่ 718 แคลฯเลยทีเดียว คราวหน้าเลือกหยิบทีละเม็ด น่าจะเวิคกว่าหยิบทีละหนึ่งกำมือเนอะ ผลไม้อบแห้ง เพราะเป็นผลไม้อบแห้ง แปลว่าต้องบีบเอาน้ำออกแล้ว ดังนั้นปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่จะมากกว่าผลไม้ปกติ 5-8 เท่า เมื่อกินในปริมาณเท่ากัน ถ้านึกภาพไม่ออก ลองคิดตามว่า องุ่นสดหนึ่งถ้วยได้ 60 แคลลอรี่ ในขณะที่ลูกเกดหนึ่งถ้วยนั้นได้ถึง 460 แคลอรี่! เห็นอย่างนี้ก็ต้องเพลาๆ ผลไม้อบแห้งลงบ้างแล้วล่ะ อาหารที่ไม่มีโปรตีนกลูเตน (Gluten-Free foods) หลายคนเชื่อว่าอาหาร Gluten Free มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น บรรเทาอาการจากโรคซึมเศร้า หรือช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แต่ความจริงแล้ว อาหารที่ไม่มีโปรตีนกลูเตนนั้น ก็ไม่มีสารอาหารตัวอื่นๆที่จำเป็นอย่าง ธาตุเหล็ก แคลเซียม โฟเลต วิตามินบี2 เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เราเกิดอาการท้องผูกได้หากไม่ได้กินอาหารที่มีไฟเบอร์ชดเชยอย่างเพียงพอ ดังนั้นถ้าไม่ได้แพ้โปรตีนกลูเตนอะไร ก็อาจกินได้บ้าง แต่ไม่ควรกินทุกมื้อหรือแทนมื้ออาหารปกติ โยเกิร์ต ไม่ใช่โยเกิร์ตทุกชนิดที่จะทำให้สุขภาพดี จริงอยู่ที่โยเกิร์ตหนึ่งถ้วยให้พลังงานแค่ 100 แคลอรี่ และมีส่วนช่วยในการสร้างกระดูกเป็นอย่างมาก แต่หากเป็นโยเกิร์ตที่มีรสชาติหวาน มีผลไม้ชิ้นเล็กๆ และโรยกลาโนล่าทดแทนการใส่ไซรัปเล็กน้อย ก็ไม่อาจเรียกคืนพลังงานที่พุ่งสูงไปกว่า 250 ให้ลดน้อยลงได้ กลับมากินโยเกิร์ตรสชาติมินิมอล น้ำตาล 0% หรือ กรีกโยเกิร์ตที่ให้โปรตีนสูงดีกว่า เครื่องดื่มสมูทตี้ หลายคนไม่สนใจชาไข่มุก และเลือกที่จะกินสมูทตี้แทน เพราะเห็นว่าเป็นน้ำผลไม้ปั่น แต่มันไม่ได้มีแค่ผลไม้น่ะสิ ยังมีโยเกิร์ต(ที่ไม่มีใครรับประกันว่าเป็นแบบ 0% หรือเปล่า) เนยถั่ว ชอคโกแลต และสารพันไซรัป ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มน้ำหนักของเราได้ ถ้าอยากให้คุ้มกับการต้องพลาดชาไข่มุก ก็ให้เป็นการใส่แค่ผลไม้สดๆ ไม่ต้องมีท็อปปิ้งพิเศษเพิ่มเติมดีกว่า เต้าหู้ (Tofu) อาหารเด็ดสำหรับนักไดเอตทั้งหลาย เพราะแปรรูปมาจากถั่วเหลืองที่ให้โปรตีนสูง ย่อยง่าย สามารถกินทดแทนเนื้อสัตว์ แต่ปัญหาก็คือเจ้าเต้าหู้นี่กักเก็บน้ำมันได้ดีมาก ดังนั้นต้องระวังวิธีการปรุงไม่ให้มื้ออาหารสุขภาพต้องกลายเป็นมื้ออาหารแห่งไขมันด้วยนะจ้ะ กาแฟ เครื่องดื่มสุดฮิตชีวิตคนทำงาน สามารถดื่มได้ถ้าต้องการลดน้ำหนัก เช่น ในกรณีต้องการทำ IF (Intermittent Fasting) แต่ต้องเป็นกาแฟดำถึงจะได้ ส่วนใหญ่เรามักจะติดเครื่องดื่มหวาน เผลอตัวเพิ่มวิปครีม แอดไซรัปกันหลายปั๊ม รู้ตัวอีกทีแคลอรี่ของกาแฟแก้วนี้ก็ขึ้นเป็น 600 กว่าแคลฯ ซะแล้ว ที่มา thoughcatalog
