ถึงแม้จะเป็นดารานักร้องผู้โด่งดัง เป็นนักเอนเตอร์เทน ผู้ถ่ายทอดความสุข รอยยิ้ม หรือเสียงหัวเราะให้กับผู้คนทั่วโลก ผ่านทางศาสตร์และศิลป์ในโลกภาพยนตร์หรือดนตรี แต่เบื้องหลังแผ่นฟิล์มหรือบทเพลงเหล่านั้น อาจต้องแลกมาด้วยน้ำตา และการต่อสู้กับโรคร้ายที่อาจมองไม่เห็นได้จากภายนอกอย่าง “โรคซึมเศร้า”
เราอาจได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า กันมากขึ้น เมื่อหลายๆ ปีที่ผ่านมา และตัวเลขที่น่าตกใจจากองค์การอนามัยโลกคือ (WHO) คือมีผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั่วโลกกว่า 350 ล้านคน โดยอาชีพ นักแสดง หรือ นักร้อง ติดอันดับที่ 5 จากท็อป 10 อาชีพที่มักมีอาการซึมเศร้า จากผลงานที่เราเห็นและคุ้นเคยกันจากชีวิตเบื้องหน้า จะขอชวนไปเรียนรู้เกร็ดเล็กๆในชีวิตอีกด้านที่เราอาจไม่เคยรู้ของบุคคลเหล่านี้
Heath Ledger
ฮีธ เลดเจอร์ ผู้โด่งดังในบทวายร้ายสุดโรคจิต โจ๊คเกอร์ ใน Batman: The Dark Knight น่าเสียดายที่มาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 28 ปีจากเหตุการกินยานอนหลับและยาแก้ปวดเกินขนาด หลังจากต้องเผชิญกับโรคนอนไม่หลับและโรคซึมเศร้ามาตลอด โดยมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ฮีธเริ่มมีอาการหลังแยกทางกับแฟนสาว Michelle Williams ซึ่งทั้งคู่มีลูกสาวตัวน้อยเป็นพยานรักก่อนเลิกรากันไปด้วย ผลงานอื่นๆที่ฝากไว้ให้เราได้ชื่นชมนอกจากโจ๊คเกอร์ เช่น ย้อนกลับไปก็กับหนังฮอลลีวู้ดชายรักชายเรื่องเยี่ยม Brokeback Mountain และถ้าจำกันได้ เขาคือหนุ่มน้อยหน้าใสจากหนังรักวัยรุ่นขวัญใจยุค 90 เรื่อง 10 Things I Hate About You นั่นเอง
Angelina Jolie
อาจเคยได้ยินเรื่องราวมาบ้างว่าก่อนที่สาวแองเจลินา โจลีจะเป็นคุณแม่สหประชาชาติ มีลูกๆ มีครอบครัวที่น่ารัก เป็นดาราสาวสวยฝีมือการแสดงเพียบพร้อมและมีชีวิตที่ลายคนอิจฉา เธอเองมีชีวิตวัยเด็ก และวัยรุ่นที่สุดเอ็กซ์ตรีม ทั้งชีวิตรัก การแต่งงานและหย่าร้าง ยาเสพติด และโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะหลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตลงถือเป็นอีกช่วงจมดิ่งสุดๆ เธอเคยถึงขั้นใช้ของมีคมทำร้ายตัวเอง รู้สึกว่างเปล่า ไม่อยากจะทำอะไร ไม่เข้าใจชีวิต แต่ต่อมาโจลีก็เริ่มค้นพบทางใหม่ที่ทำให้เธอเรียนรู้โลกมากขึ้น เธอให้สัมภาษณ์ถึงงานด้านพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนที่เธอทำและเป็นตัวแทนของ UNHCR เดินทางเยี่ยมผู้อพยพทั่วโลก ช่วยให้เธอได้เข้าใจความหมายของชีวิต มีศรัทธา และเดินหน้าขับเคลื่อนช่วยเหลือผู้คนอย่างเต็มที่ จนกลายมาเป็นแองเจลินา โจลี หญิงสาวต้นแบบคนหนึ่งของโลกในวันนี้
Ellen DeGeneres
พิธีกรแถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ด มีพรสวรรค์ด้านการพูด บุคลิกเฮฮา ใจดี และมีชีวิตชีวา แต่เธอเองเคยต้องทรมานกับโรคซึมเศร้าอย่างสาหัส หลังจากที่มีข่าวออกสู่สาธารณะว่าเธอเป็นเลสเบี้ยนในปี 1997 และกลายเป็นส่งผลให้เรทติ้งรายการของเธอตกลงอย่างหนัก และถูกถอดออกจาก ช่อง ABC ในปีถัดมา แถมยังโดนตัดสินจากผู้คนเกี่ยวกับสถานะเพศของเธออีกด้วย เอลเลนมีช่วงเวลาแย่ๆ อยู่ 3 ปี แต่นั่นก็เป็นบทเรียนสำคัญให้เธอเรียนรู้โลก และผู้คน สุดท้ายก็กลับมาเข้มแข็งและกลับมาสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้ง
Robin Williams
นักแสดงตลกรุ่นใหญ่ขวัญใจมหาชนจากผลงานอย่าง Popeye, Good Will Hunting, Aladdin, Night at the Museum กลายเป็นข่าวช็อคโลกหลังจากเขาเลือกจบชีวิตตัวเองลงในปี 2014 ด้วยวัย 63 ปี โดยสาเหตุนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากโรคซึมเศร้าที่เขาต้องต่อสู้มาอย่างยาวนาน แม้จะเข้ารับการบำบัดในโปรแกรมต่างๆ แต่ก็ยังคงดีขึ้นแค่บางช่วงเท่านั้น อีกสาเหตุหนึ่งคือโรคสมองเสื่อม (Dementia with Lewy bodies (DLB) ที่ทำให้มีอาการร่วมเช่น ภาวะการรู้คิด พฤติกรรม ระบบประสาทอัตโนมัติไวต่อผลข้างเคียง จากยารักษาโรคจิตและอาการทางประสาทจิตเวชต่างๆ น่าเสียดายที่นักแสดงตลกผู้ยิ่งใหญ่ต้องมาจากไปด้วยเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจเช่นนี้
Jim Carrey
ถ้าพูดถึงนักแสดงแนวตลกยุคใหม่แถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ด คงต้องมีชื่อจิม แคร์รีย์เป็นชื่อแรกๆ ที่คนนึกถึง ผลงานที่ดังจนติดตาที่สุดก็คงเป็นไอหน้ากากเขียว The Mask นั่นเอง แต่ในอีกด้านของผู้สร้างเสียงหัวเราะคนนี้กลับต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า หลังจากชีวิตแต่งงานล้มเหลวลงไปถึง 2 ครั้ง แคร์รีย์เป็นตกอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างหนัก และเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ว่าเขาต้องพึ่งยาโพรแซค (ยาสำหรับรักษาภาวะซึมเศร้าและอาการอื่นๆ เช่น ย้ำคิดย้ำทำ ตื่นตระหนก) สุดท้ายแคร์รีย์ใช้วิธีการคิดบวก บอกกับตัวเองทุกวันว่าชีวิตยังมีด้านดี รวมถึงดูแลเรื่องอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ
Amy Winehouse
นักร้องสาวชาวอังกฤษ ผู้เป็นอัจฉริยะทางแจ๊สยุคใหม่ กลับต้องเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น หลังจากมีชีวิตสุดโต่งและขมขื่นทางจิตใจ ทั้งแรงกดดันจากการมีชื่อเสียง และสื่อมวลชน ปมปัญหาครอบครัวโดยเฉพาะกับพ่อที่มีแนวโน้มจะมองลูกสาวเป็นเพียงเครื่องมือหาเงิน หรือชีวิตรักที่ไม่สมหวัง ทำให้เธอต้องจมกับภาวะซึ่มเศร้า และอาการ Bipolar disorder หรือโรคอารมณ์สองขั้ว รวมถึงโรคบูลิเมียที่ทำให้มีความผิดปกติเวลาทานอาหาร ติดเหล้า และสารเสพติด สุดท้ายก็จากโลกนี้ไปเพราะเสพยาเกินขนาด ด้านผลงานที่ฝากไว้จากพรสวรรค์ของเธอ ดนตรีถือเป็นเครื่องบำบัดหลักก็ว่าได้ ดังที่เราจะเห็นไวน์เฮาส์ถ่ายทอดชีวิตของเธอ ผ่านทางบทเพลง และเป็นที่คุ้นหูเรามากมาย เช่น Rehab, Black to Black, Love Is a Losing Game
Cara Delevingne
นางแบบและนักแสดงสาวซ่ามากความสามารถขวัญใจวัยรุ่นคนนี้ หลายคนอาจไม่รู้ว่าเบื้องหน้าสุดเฟี้ยวที่เราเห็นนั้น จริงๆเธอก็ต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้าเช่นกัน คาร่าเริ่มมีอาการซึมเศร้าหลังได้รู้ว่าแม่ของเธอติดสารเสพติด แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและเพียบพร้อม แต่เธอต้องพยายามเข้มแข็งอยู่เสมอในฐานะเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง พอมีความคาดหวัง แรงกดดันมากมายจากผู้คน ก็ทำให้เธอไม่ชอบตัวเอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ จนต้องเข้ารับการรักษาในช่วงอายุ 16 ปี หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่วงการนางแบบ ก็ยังต้องเผชิญกับการเกลียดตัวเอง ความกังวลเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ออกจะแปลกแหวกไปจากนางแบบพิมพ์นิยม การต้องพยายามรักษาหุ่น คุมอาหาร เพื่อให้ใช้ในการทำงานได้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความกดดันที่เชื้อเชิญภาวะซึมเศร้าเข้ามาอีกครั้ง
Lady Gaga
ที่มาภาพ – MIKE MARSLAND VIA GETTY IMAGES
ล่าสุดที่พึ่งออกมาเปิดเผยก็คือสาวซ่าเลดี้ กาก้า จากคาแร็คเตอร์หลุดสุดโต่งในช่วงเปิดตัวในฐานะนักร้องป๊อป จริงๆแล้วเธอเป็นนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง รวมถึงนักเต้นที่มีความสามารถหลากหลาย ร้องได้ทั้งป๊อป แจ๊ส หรือ คลาสสิคเลยทีเดียว กาก้าเองให้สัมภาษณ์ใน Today Show เมื่อไม่กี่วันมานี้ว่าเคยประสบภาวะ PTSD หรือ โรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง (Post Traumatic Stress Disorder) หลังจากที่เธอเคยถูกข่มขืนตอนอายุ 19 ปี แต่สิ่งที่ช่วยให้เธอผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆมาได้ ก็คือความเมตตา ความเข้าใจ การดูแลจากครอบครัว และหมอที่รักษาเธอ
จะเห็นว่าดารานักร้องแต่ละคน ผ่านเรื่องราวชีวิต และสาเหตุที่ทำไปสู่โรคซึมเศร้ากันไปคนละแบบ รวมถึงหลายคนก็มีวิธีการช่วยดึงตัวเองขึ้นมา ให้หลุดพ้นจากภาวะจมดิ่งกับความทุกข์นั้นหลากหลายวิธีด้วยกัน สุดท้ายก็ผลิตผลงาน เผยแพร่วัฒนธรรมดนตรี หรือภาพยนตร์ให้เราได้ชมได้มีความสุขกัน ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเราเองต้องเข้มแข็ง และช่วยให้สังคมหรือคนรอบข้างตระหนักถึงความลำบากทางจิตใจที่ผู้ป่วยหลายคนอาจต้องเผชิญอยู่ เปิดใจและเข้าใจมากขึ้น เรียนรู้วิธีอยู่ร่วมกันกับเพื่อนมนุษย์ หรือคนที่เรารักให้อย่างมีความสุขต่อไป แล้ววันนึงเราจะต้องเลิกเศร้าแล้วกลับมายิ้มทั้งเบื้องหน้าและในใจได้อีกครั้ง 🙂