ไบค์เกอร์ คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะชอบฤดูฝน ฝนตกแต่ละครั้งเรียกได้ว่าแผนชีวิตวันนั้นพัง ตกตอนเช้าก็ไปทำงานในสภาพลูกหมาตกน้ำ ตกตอนเย็นก็กลับบ้านในสภาพลูกหมาเช่นกัน แล้วถ้าฝนตกไบค์เกอร์ควรรับมือ หรือเอาตัวรอดอย่างไร
อย่างไรก็ตามฝนตก เป็นสิ่งที่ไบค์เกอร์ต้องเจอหนีไม่ได้ ในเมื่อหนีไม่ได้ เราก็จะมาแนะนำวิธีเอาตัวรอดของไบค์เกอร์ในหน้าฝนนี่แหละ เพราะแค่ใส่เสื้อกันฝนมันไม่พอ ต้องมีวิธีอื่นไว้ใช้ป้องกันตัวเองจากฤดูฝนด้วย
1) จุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าให้ฝนตก
ในเมื่อฝนจะต้องตกอยู่แล้วเราทำอะไรไม่ได้เพื่อห้ามฝนเรามันแค่ไบค์เกอร์ธรรมดา แต่สิ่งที่ทำได้คือขอจากผู้มีพลังมากกว่าธรรมชาติ ใช่แล้ว..นั่นก็คือขอร้องจากสิ่งเร้นลับที่เหนือธรรมชาติยิ่งกว่าฝนนั่นแหละ จุดธูปสามดอกไหว้ฟ้าไหว้ดิน บอกให้วันนี้ฝนอย่าเพิ่งตกตอนเช้า ตอนค่ำเลย อยากจะตกตกตอนเย็นไปเลยนะกราบล่ะจ้า
2) ปักตะไคร้ไล่ฝน
วิธีเบสิคระดับอนุบาลสาม แต่เป็นความเชื่อที่ตกทอดกันมาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน ที่สำคัญเรายังเห็นคนที่ทำงานกลางแจ้งเอาวิธีนี้มาใช้ ไบค์เกอร์ สามารถทำตามวิธีนี้ได้เช่นกัน วิธีปักตระไคร้ไล่ฝนไม่ยาก แค่ซื้อตะไคร้มากำนึง ปักลงดิน แล้วพนมมือขอให้ฝนอย่าตก
ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าตัวเองมีคุณสมิบัติพอจะปักตระไคร้ไล่ฝนไหมก็ให้ไปหาคนที่ตรงคุณสมบัติ ถ้าหายากนักก็เปลี่ยนเถอะ ปักไปเผลอๆ พายุอาจจะเข้า
3) อย่าล้างรถ
ถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าฝน แต่อย่างไรก็ตามฝนไม่ได้ตกมันทุกวัน มีช่วงเว้นวรรคให้หายใจบ้าง ซึ่งจังหวะนี้เหล่าไบค์เกอร์มักจะทำสิ่งที่ไม่ควรทำก็คือล้างรถ! ใช่…ถ้าประเพณีแห่นางแมวคือการเรียกฝนที่ดีที่สุด
เราคิดว่าการล้างรถก็ก็คือวิธีเรียกฝนที่ดีที่สุดเช่นกัน ล้างรถเมื่อไหร่วันนั้นฝนแม่งถล่มทันที ทางที่ดีอย่าล้างรถเลย แม้วันนั้นจะอากาศแจ่มใสแค่ไหน แต่อย่าได้วางใจล้างรถเด้ดขาด ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้คุณได้ล้างใหม่วนลูปนรกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนฝนหมด
4) อย่าใส่รองเท้าใหม่
อีกหนึ่งสิ่งที่เรียกฝนได้ดีพอๆ กับการแห่นางแมว และล้างรถก็คือใส่รองเท้าใหม่ อย่างที่บอกว่าหน้าฝน ฝนมันก็ตกอยู่ตลอดแหละ แต่บางวันก็ไม่ตก ซึ่งวันที่ไม่ตก เห็นแดดเปรี้ยงนี่แหละกับดักชั้นดี
เราชะล่าใจคิดว่าฝนไม่ตกเลยใส่รองเท้าสนีกเกอร์สุดเท่คู่ใหม่ไปทำงานปุ๊บ ตอนเย็นก็เรียบร้อย…ฝนถล่มรับรองเท้าใหม่ ไบค์เกอร์ก็ทำได้แค่ช้ำใจ ยกเว้นไบค์เกอร์ที่เตรียมพร้อมอย่างดี ฉีดสเปรย์กันน้ำใส่สนีกเกอร์มาแล้ว แบบนั้นก็ถือว่ารอดไปรองเท้าไม่เปียก แต่ตัวคนนี่เปียกยันเงา
5) เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน
เสื้อกันฝนคืออาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่ไบค์เกอร์เอาไปสู้ฝน แต่ก็ไม่ได้เป็นอาวุธวิเศษที่จะกันฝนได้ 100% เหมือนสรรพคุณของถุงยางอนามัยที่บอกว่าไม่มีคุณสมบัติในการการป้องกันการตั้งครรถ์ได้ 100% นั่นแหละ
ในเมื่อใส่เสื้อกันฝนก็เปียก ดังนั้นไบค์เกอร์ที่พร้อมรับศึกก็ควรเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเมื่อถึงที่หมาย ใส่ชุดนอนขี่รถมาเลยก็ได้แล้ว ค่อยมาเปลี่ยนชุดทำงานที่ออฟฟิศก็มีซึ่งโคตรเวิร์ค วิธีนี้ลองมาแล้วได้ผลมากๆ
6) เช็คพยากรณ์อากาศก่อน
ตำราพิชัยสงครามของซุนวู กล่าวไว้ว่า “รู้เขารู้เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ส่วนไบค์เกอร์ต้องรบกับธรรมชาติที่ไม่มีวันเอาชนะได้ แต่…ก็รับมือได้นะด้วยการตรวจเช็คสภาพอากาศจากแหล่งพยากรอากาศที่เชื่อถือได้แบบวันต่อวัน
ถ้ารู้ว่าตอนเย็นฝนจะตกก็เตรียมชีวิตให้พร้อมรับมือฝนที่จะตามมา ยิ่งถ้ารู้เวลาแน่นอน ขอทำเสียง ‘น้าค่อม ชวนชื่น’ ตอบฝนกลับไปว่า “เฮอะ! ไม่ได้แดกกูหรอก” (สักพักเสียง ซ่าาาาาา ฝนถล่ม….)
7) จอดรถทิ้งไว้แล้วไปด้วยวิธีอื่น
ถ้าทำจนครบทุกหนทางแล้วเราก็ยังไม่สามารถป้องกันตัวจากฝน หรือรับมือฝนที่ตกกระหน่ำใส่ทุกวันระดับที่ว่าไม่เหลือเสื้อผ้าให้ใส่ ไม่เหลือรองเท้าให้เปลี่ยน หมวกกันน็อคชื้น ทุกใบ ทุกอย่างตอนนี้อยู่ในสภาพชื้น เปียก และอับ
วิธีสุดท้ายที่จะทำให้ไบค์เกอร์ไม่เปียกฝนแน่ๆ หรือเปียกก็น้อยกว่าขี่รถลุยในก็คือ…จอดรถทิ้งไว้แล้วไปด้วยวิธีอื่นเถอะ รอฝนซาเดี๋ยวค่อยว่ากัน