ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับเทศกาลลอยกระทง 2561 ในปีนี้วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับวันที่ 22 พ.ย. ในหลายพื้นที่ก็เตรียมจัดงานกันอย่างคึกคัก และสำหรับใครที่เตรียมตัวออกไปเที่ยวในเทศกาลนี้ เพื่อความปลอดภัย เราก็มีกฏระเบียบและข้อควรรู้เกี่ยวกับการละเล่นในวันลอยกระทงปีนี้มาฝากกันด้วย
ข้อควรปฏิบัติในวันลอยกระทง
- ใช้
กระทงที่ประดิษฐ์ด้วยวัสดุที่ย่ อยสลายง่าย ไม่ใช้โฟม ไม่ใช้ พลาสติก เน้นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม และโดยเฉพาะกระทงขนมปังที่หลายๆ คนเข้าใจว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จริงๆ แล้วกลับส่งผลเสียมากที่สุด เนื่องจากจุลินทรีย์ในขนมปังทำให้น้ำเน่าเสียได้มากกว่าวัสดุอื่นๆ เสียอีก! - ลอยกระทง ครอบครัวละ 1 กระทง เพื่อลดปริมาณขยะ เจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้ามาเก็บกวาดหลังจากจบงานจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
- ในช่วงเทศกาลมักจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้มากกว่าช่วงปกติ ดังนั้นควรระมัดระวังตัวเองด้วยการขับขี่อย่างไม่ประมาท และที่สำคัญ เมาไม่ขับกันด้วยนะ
- ระวังการขึ้น-ลงท่าเรือ เรือ หรือโป๊ะ เนื่องจากมีผู้เข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากกว่าปกติ จึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงจุดที่รับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก เพราะน้ำหนักที่เกินมาตรฐานอาจทำให้เกิดอันตรายได้
- ไม่เล่นพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย โคมไฟ ตะไล ในที่ชุมชนหรือสถานที่ที่เสี่
ยงต่อการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุเพลิงไหม้ ยังคงเหมือนเช่นทุกๆ ปี เนื่องจากการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ หรือโคมลอยมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้สูงมาก ข้อนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทด้วย - ไม่แต่งกายล่อแหลม แม้ว่าเราจะมีอิสระในการแต่งกาย แต่ในช่วงเทศกาลกลางคืนที่มีคนจำนวนมาก การแต่งกายล่อแหลมก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุอันตรายขึ้นได้ สำหรับสาวๆ กันไว้ดีกว่าแก้ดีกว่านะ
การจุดพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย
สำหรับพื้นที่บริเวณทั่วไป
- ห้ามจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ในปีนี้ยังคงห้ามจุดพลุหรือดอกไม้ไฟอย่างทุกๆ ปี หากฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะการปล่อยโคมลอยก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้และสร้างความเสียหายในช่วงวันลอยกระทงเลย
- ห้ามจำหน่ายและห้ามเล่นประทัดจีนทุกชนิด ประทัดรูปทรงกลม ประทัดรูปไข่ ประทัดรูปสามเหลี่ยม และไดนาไมท์ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ผลิตสะสมและจำหน่ายดอกไม้เพลิงจะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามที่กฎหมายกำหนด และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการประกาศกรมอนามัยเรื่องข้อปฏิบัติการควบคุมป้องกันอันตรายฯ
- ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากจะทำการจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับพื้นที่บริเวณใกล้สนามบิน
เนื่องจากการปล่อยโคมลอยเป็นอันตรายต่อการโดยสารทางเครื่องบิน ทางท่าอากาศยานไทยจึงออกระเบียบการปล่อยโคมลอยในเทศกาลลอยกระทงออกมา ดังนี้
- ท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ งดปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน ลูกโป่ง การจุดพลุและดอกไม้ไฟ การฉายลำแสงขึ้นบนท้องฟ้า และวัตถุที่เป็นอันตรายต่อการบิน ในรัศมี 8 กิโลเมตร ถ้าฝ่าฝืนและก่อให้เกิดเหตุอันตรายต่อการบินจะมีโทษถึงประหารชีวิตเลย
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทางท่าอากาศยานไม่ได้มีข้อห้าม ชาวเชียงใหม่สามารถปล่อยได้ตามประเพณียี่เป็ง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 และ 23 พ.ย. แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 – 1.00 น.
- ท่าอากาศยานเชียงราย ขอความร่วมมือในการปล่อยโคมลอย โคมไฟ วันที่ 22 และ 23 พ.ย. ระหว่างเวลา 21.00 – 1.00 น.
- ท่าอากาศยานภูเก็ต หากต้องการปล่อยวัตถุต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อการบิน จะต้องจัดทำเอกสารขออนุญาตจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการแจ้งมายังท่าอากาศยานภูเก็ตอีกครั้ง
ที่มา : ทอท., kapook, โพสต์ทูเดย์