แน่ใจว่าทุกคนคงจะรู้จักเดี่ยวไมโครโฟนของ ‘พี่โน้ต – อุดม แต้พานิช’ กันดีอยู่แล้ว แต่นี่คือ 7 สิ่งที่เป็นความลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน มีแค่เพียงทีมงานเท่านั้นที่จะทราบ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้พี่โน้ต อุดม ขอบอกว่าไม่ควรพลาด บทความโดย @TaeyHD ผู้อยู่เบื้องหลังการเขียนบทเดี่ยวไมโครโฟน 8, 9 , 9.5, 10, 10.5 และ 11 1.การเดี่ยวในแต่ละครั้ง จะมีบทสำรองเหลือทำเดี่ยวได้ถึงอีกสองครั้ง เคยมีคนกล่าวไว้ว่าการแสดงสดหน้าเวทีของศิลปินระดับโลกทีดี มักต้องเตรียมความพร้อมระดับ 150% ถึงจะแสดงออกมาได้จริง 100% แต่สำหรับพี่โน้ต แกเตรียมตัวถึง 300% เพื่อที่จะเล่นออกมา 100% ก่อนแสดงจริงทุกครั้ง พี่โน้ต จะมีการออกซ้อมที่ต่างจังหวัดหลายรอบ และปรับบทเยอะมาก แม้กระทั่งวันจริงที่เริ่มแสดงแล้ว หากมีมุกไหน หรือจังหวะใดที่ดีขึ้น พี่โน้ต ก็จะทำการปรับมุกไปเรื่อยๆ สำหรับรอบต่อไปจนกว่าจะลงตัว การที่แกปรับบทตลอดเวลาบานตะไทแบบนี้ เพลงบางเพลงแต่งสดก่อนการเล่นจริงไม่ถึงสองชั่วโมงก็มี เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การเดี่ยวในแต่ละครั้งจะมีบทสำรองเหลือเยอะนั่นเอง สนุกคนดู แต่เหนื่อยทีมเขียนบทเป็นที่ซู๊ด 2.ไม่มีโชว์ไหนในประเทศที่กล้าลงทุนทำที่นั่งผู้ชมแบบนี้ พี่โน้ต ใส่ใจมุมมองของเก้าอี้คนดูเป็นอย่างมาก ไม่มีที่นั่งไหนบนแกรนแสตนด์ที่ผู้ชมนั่งแล้วโดนหัวคนข้างหน้าบัง การเดี่ยวครั้งหลังๆ ที่พารากอนฮอล ความสูงจากพื้นดินของเก้าอี้แถวที่นั่งสุดท้ายมึความสูงถึงเกือบสิบเมตรเลยทีเดียว ไม่เคยมีการแสดงของศิลปินคนไหนที่เคยมาจัดที่พารากอนทำแสตนด์สูงเท่านี้ ค่าเช่าแสตนด์ตั้งแต่รอบแรกจนแสดงจบรอบสุดท้ายแว่วๆ มาว่าราคาระดับแปดหลักเลยทีเดียว และในส่วนพื้นบนแสตนด์ พี่โน้ต จะใช้พรมปูพื้นไม่ต่ำกว่า 2,250 ตร.ม. เพื่อลดการเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดของแสตนด์เหล็กขณะที่ผู้ชมท่านอื่นลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ทำให้ผู้ชมที่นั่งดูโชว์อยู่ไม่เสียสมาธิแม้แต่เสียงเดินเล็กๆ น้อยๆ 3.บนเวทีพี่โน้ต จะได้ยินเสียงคนดูขำครบทุกคนทุกที่นั่ง และทุกเก้าอี้ที่นั่งต้องได้ยินเสียงพี่โน้ตชัดเจนเท่ากัน บนแสตนด์ผู้ชมจะมีไมค์โครโฟนเก็บเสียงอย่างดีซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ไม่ต่ำกว่าร้อยตัวแม้กระทั่งเก้าอี้คนดูแถวหลังสุด เพื่อให้บนเวทีในขณะที่พี่โน้ต เล่าเรื่องได้ยินเสียงคนดูเวลาขำอยู่ตลอดเวลา หากบริเวณฝั่งไหนมีปริมาณความขำที่ลดลง พี่โน้ต จะเดินไปเล่นตรงฝั่งนั้นบ่อยขึ้น เพื่อเลี้ยงมวลความสุขของโชว์และคนดูทั้งหมดตลอดเวลา เป็นสาเหตุที่เราเห็นแกเดินไปเดินมาบนเวทีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง (ไม่ได้ปวดฉี่หรอกนะ) 4.แก้วน้ำที่เราเห็นบนเวทีไม่ใช่ยางลบละลายน้ำเหมือนที่แกเคยเล่าในเดี่ยว แต่มันคือแก้วใส่ยาชวนป๋วยปีแปกอ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอ และแก้เจ็บคอที่ถูกจริตแกที่สุด บางเดี่ยวนี่แกกินทีเป็นโหล ตลอดการแสดงเดี่ยว พี่โน้ตจะถูกทีมงานงดบริโภคน้ำเย็น น้ำอัดลม และของทอดของมัน เพื่อรักษาและประคองสุขภาพที่ดีของเส้นเสียงจนกว่าจะจบการแสดงรอบสุดท้าย อาหารที่เมื่อพี่โน้ต ลงจากเวทีที่พี่โน้ต ชอบแอบกินก็คือ “ตั๊กแตนทอด” และ “หมูแผ่นเจ๊เกียว” ไม่มันเลยเนอะ 5.พาหนะคู่ใจของพี่โน้ตในงานเดี่ยวคือจักรยาน ในพารากอนฮอลล์เป็นสถานที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก การที่พี่โน้ต ออกตรวจงานแต่ละจุดก็ห่างกันไกลหลายร้อยเมตร ซึ่งเดิมทีพี่โน้ต มีอาการป่วยของเข่าตุนไว้เป็นทุนอยู่แล้ว ทำให้แกเดินมากๆ ไม่ได้ จักรยานจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการเคลื่อนที่ในพารากอนฮอลล์ ทีมงานเคยเสนอให้พี่โน้ต ใช้เซกเวย์ ซึ่งแกก็โอเคนะอนุมัติให้สั่งซื้อมาเลย แต่ในขณะที่รอของมาส่ง ดันมีข่าวว่าเจ้าของบริษัทเซกเวย์ ขับเซกเวย์คว่ำตกหน้าผาเสียชีวิตพอดี แกเลยบอกว่ากูปั่นจักรยานเหมือนเดิมดีกว่า 6.ทุกครั้งก่อนขึ้นเวทีพี่โน้ต จะตื่นเต้น เครียด และวิตกจริตเสมอ แม้พี่โน้ต จะขึ้นเวทีมาแล้วเกือบพันครั้ง (ทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ) พี่โน้ต จะเครียด และวิตกเสมอก่อนขึ้นเวที ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่าศิลปินระดับท็อปทั้งในเมืองไทย และระดับโลก ต่างมีอาการตื่นเวทีกันทั้งสิ้น วิธีแก้ปัญหาของพี่โน้ต ก็คือ การนั่งสมาธิและการวาดรูป ซึ่งแกก็วาดของแกดื้อๆ หลังเวทีพารากอนฮอลล์เลยโดยไม่มีการขออนุญาตใครนอกจากตัวเอง ตอนแรกก็เริ่มจากรูปเล็กๆ วาดไปวาดมาจนมาถึงรอบสุดท้ายพี่โน้ต จัดให้แบบเต็มหน้าวอล ตอนแรกทีมงานพยายามเจรจาเจ้าหน้าที่พารากอนเพื่อจะทาสีทับให้หลังแสดงจบรอบสุดท้าย แต่เจ้าหน้าที่ใจดี บอกไม่ต้องลบทิ้ง ปล่อยไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับศิลปินผู้ที่มาใช้งานพารากอนฮอลล์รุ่นหลังสืบต่อไป 7.หลายคนเข้าใจว่ารอบสุดท้ายคือรอบที่สนุกที่สุด ขอยืนยันตรงนี้เลยว่าในการแสดงในแต่ละรอบ ความสนุกของพี่โน้ต เท่าเดิม แต่ความสนุกของคนดูจะไม่เท่ากัน บางวันคนดูขำง่ายมาก บางวันกว่าจะได้ขำ เล่นซะพี่โน้ต เกือบหมดพลัง จากการที่ดูแสดงสดมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยรอบ ขอฟันธงตรงนี้เลยว่า รอบที่มีความสนุกสีสีกันกับรอบสุดท้ายก็คือ…รอบคืนวันศุกร์และคืนวันเสาร์นี่เองงงงง !! สาเหตุเนื่องจากเป็นรอบที่มวลคนดูไม่เร่งรีบ และพร้อมออกจากบ้านมาเพื่อผ่อนคลายมากที่สุด อารมณ์แบบพรุ่งนี้กูหยุด ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องกลัวรถติด ทำให้ไม่มีรังสีความกดดันในการดูโชว์แผ่ออกมาแม้แต่น้อย พี่โน้ตอยากเล่นจนห้าทุ่มหรือเที่ยงคืนก็ได้ตามสบาย ส่งผลให้สองรอบนี้เป็นรอบที่มวลคนดูมีความสุขไม่แพ้รอบสุดท้ายนั่นเอง เดี่ยวฯ ครั้งหน้าใครจองตั๋วรอบสุดท้ายไม่ทัน ขอให้เล็งสองรอบนี้ไว้ คือดีย์แน่นอน ♥ เรียบเรียงโดย : ทีมงาน Mango Zero