การประสบความสำเร็จในการทำงานคือสิ่งที่คนทำงานทุกคนคาดหวังทั้งนั้น และแต่ละคนก็มีเคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จที่ต่างกัน รวมไปถึง CEO หรือผู้บริหารระดับโลกหลายคนต่างก็เคยเล่าประสบการณ์การทำงานของตัวเองผ่านสื่อมาแล้วทั้งนั้น
จากที่เห็นมานั้นเคล็ดลับในความสำเร็จของ CEO ระดับโลกอย่าง อีลอน มัสก์, สตีฟ จ็อบส์, แจ็ค หม่า, บิล เกตต์, มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ค และอีกหลายคนนั้น เมื่อมาพิจารณาดูแล้ว มันไม่ยากเลยที่เราจะนำมาปรับใช้เพื่อให้การทำงานของเรา.shราบรื่น ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ต้องการ ขอแค่ทำตาม
จัดลำดับและทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน – มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
CEO ทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งต่างๆ และทุกเช้าพวกเขาจะตื่นมาเพื่อดูตารางว่าวันนี้ต้องทำอะไร หนึ่งในนั้นก็คือมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เขาเป็นคนที่จัดลำดับสิ่งที่ควรจะทำก่อนและหลังได้อย่างดีมากๆ ซึ่งหลายคนประสบปัญหาในการจัดลำดับความสำคัญของงาน หรือสิ่งที่ทำในแต่ละวัน ไม่รู้ว่าสิ่งไหนควรทำก่อน หรือทำหลัง พอจัดการไม่เป็นระบบ ก็กลายเป็นว่างานไม่เสร็จสักอย่าง หรือเสร็จแต่ไม่ตรงเป้า
มาร์ค ให้เคล็ดลับว่าถ้าอยากรู้ว่าสิ่งไหนสำคัญที่สุดที่ควรทำก่อนในแต่ละวันก็คือถามตัวเองดูทุกวันว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ที่ต้องทำ แจกแจงดูว่ามีสิ่งใดบ้างที่ควรจะทำในวันนี้ แล้วมาชั่งน้ำหนักดูว่าเรื่องใดสำคัญที่สุด หรือรู้สึกดีที่สุดถ้าทำสิ่งนั้นก่อน เมื่อวางแผนไว้แล้วก็ทำตามแผนนั้น ทำเป็นประจำทุกวันจะจัดการงานที่ค้างได้อย่างดี หรือทำงานให้ออกมาได้อย่างดี
อีกคนที่พูดเรื่องการลำดับความสำคัญก็คือสตีฟ จ็อปส์ เขาเคยบอกว่าการมีไอเดียมากมายมหาศาลเป็นเรื่องที่ดี แต่มันจะเยี่ยมมากๆ เลยถ้าสามารถจัดลำดับสำคัญในการจัดการไอเดียเหล่านั้น การสนใจทุกเรื่องไม่อาจทำให้ประสบความสำเร็จได้
รู้จักจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง – วอร์เรน บัฟเฟตต์
วอเรน บัฟเฟตต์ อาจเป็นที่รู้จักในฐานะนักลงทุน แต่จริงๆ เขาก็เป็น CEO ของ ‘เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์’ ซึ่งก็เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการลงทุนของเขาเองที่ติดอันดับ 1 ใน 5 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เขาก็มีการดำเนินชีวิตและทำธุรกิจด้านการลงทุนไปโดยมีปรัญญาและวิธีคิดในการทำงานที่น่าสนใจ
หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการรู้จักตัวเอง เขาเคยพูดไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญหมดทุกสิ่ง แต่ขอแค่เข้าใจตัวเองด้วยการมองหาพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อนและจุดแข็งของคุณให้เจอ แล้วเลือกที่ดูว่าเราจะพัฒนาจุดไหนที่สำคัญที่สุด เลือกอยู่ในวงกลมทั้งสองวงนั้นเพื่อดูว่าเราจะพัฒนาตัวเองไปอย่างไรให้วงกลมทั้งคู่พัฒนาขึ้น
คิดต่าง – สตีฟ จอบส์
หนึ่งในวลีเด็ดของสตีฟ จอบส์ ที่เรายังคงนึกถึงคำพูดนี้อยู่เสมอก็คือคำว่า ‘Think Different’ อาจจะดูเป็นพูดที่ง่ายมาก แต่ในเชิงปฏิบัติการคิดต่างจากทุกคนทำให้เรามีโอกาสแตกต่างและโดดเด่นในสิ่งที่ทำ ซึ่งจอบส์ ก็ยึดถือเรื่องการ ‘คิดต่าง’ มาโดยตลอดในการทำงาน
ตัวอย่างที่เห็นถึงความ คิดต่าง ที่ชัดเจนที่สุดของเขาคือ ปี 2001 แอปเปิ้ลเปิดตัว iPod ในยุคที่ตอนนั้นวอร์คแมน กำลังมา แต่ iPod ของแอปเปิ้ลก็เข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเพลงในเวลาต่อมาทั้งรูปแบบของ iPod ที่เล็กมากขนาดที่ว่าล้วงจากกระเป๋ากางเกง การเข้าถึงเพลงที่ทำได้ไม่ยาก (ขอแค่ต่ออินเทอร์เน็ต) หรือสามารถโหลดเพลงจาก CD ทั้งแผ่นลงเครื่องใน 5 วินาที
สามารถจุเพลงได้ 1,000 เพลงในเครื่องเดียว กลายเป็นว่าจากเดิมที่ Sony Walkman กำลังกินรวบ กลายเป็นโดน iPod ของแอปเปิ้ล ที่มองขาดว่าคนฟังเพลงอยากได้เครื่องฟังเพลงแบบไหนตีตลาดเรียบ นี่แหละคือความคิดต่างของเขา
เรียนรู้จากความผิดและไม่หาคนผิด – บิล เกตส์
คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย แต่เมื่อทำผิดพลาดแล้วเราจัดการความผิดนั้นอย่างไร สำหรับบิล เกตส์ สิ่งที่เขาทำคือไม่ได้มองหาว่าใครกันที่ทำผิด หรือพยายามจะโยนความผิดให้กับใครสักคน
แต่เขามองว่าเมื่อเกิดความผิดพลาดแล้ว เก็บความผิดพลาดนั้นไปเป็นบทเรียนมากกว่าที่จะโทษใครเพื่อทำลายความรู้สึกผิดในใจคุณ แล้วเอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนเพื่อที่จะได้ไม่พลาดซ้ำอีก การหาคนผิดไม่ใช่สิ่งที่ทำให้งานออกมาดีขึ้น หรือทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย
ไม่เสียเวลาคิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ – บารัค โอบาม่า
ลองสังเกตดูสิว่า CEO ดังๆ ทั่วโลกนั้นแต่งตัวกันเรียบง่ายและธรรมดามากๆ แม้ยามออกสื่อก็ตาม แต่หนึ่งในคนที่อาจไม่ใช่ CEO แต่เขาก็ทำงานในด้าน ‘บริหาร’ อย่างเช่นบารัค โอบาม่า ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่แต่งตัวเรียบง่าย เขามักจะใส่สูทสีเทาหรือสีน้ำเงินเรียบๆ เท่านั้น
หรือ สตีฟ จอบส์ ก็จะใส่เสียคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้านิวบาลานซ์ไปทำงานทุกวัน ส่วน มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก จะใส่กางเกงยีนส์ และเสื้อยืดสีเทาแทบจะตลอดเวลา (ครั้งหนึ่งตอนที่มาร์ค พูดถึง Smart Home มีฉากตู้เสื้อผ้าของพี่มาร์ค ที่เต็มไปด้วยเสื้อยืดสีเทาเต็มตู้ )
สาเหตุที่เหล่านักบริหารระดับโลกทั้งหลายไม่ได้แต่งตัวแบบจัดเต็มในทุกครั้งที่ออกสื่อหรือใช้ชีวิตนั้น หนึ่งในคนที่ให้เหตุผลนี้ได้น่าสนใจคือบารัค โอบาม่า เขาบอกว่า หน้าที่การงานของเขามีอะไรที่ต้องตัดสินใจเยอะแยะไปหมด เขาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญมากมาย และทุกการตัดสินใจที่แย่ จะทำให้การตัดสินใจครั้งต่อๆ ไปแย่ลงไปด้วย ก็เลยตัดเรื่องที่สำคัญน้อยที่สุดที่ต้องตัดสินใจออกไปนั่นคือเสื้อผ้า “ผมใส่อะไรก็บริหารประเทศได้” โอบาม่าเคยกล่าวไว้ประมาณนี้
ตอบสนองและสื่อสารอย่างรวดเร็ว – อีลอน มัสก์
อีลอน มัสก์ เป็นหนึ่งใน CEO ที่ตอบอีเมลได้อย่างรวดเร็วและว่องไวมาก ชนิดที่ว่าถ้าคุณอีเมลหาเขาเพื่อถามคำถามเกี่ยวกับงาน หรือมีการเสนอบางสิ่งบางอย่างที่เขาจำเป็นต้องตัดสินใจ แค่เวลาเพียบไม่ถึง 5 นาที เขาจะตอบเมลกลับมาทันทีอย่างละเอียด ทำให้การทำงานไม่ขาดช่วง คนทำงานก็ไปต่อได้ ส่วนตัว CEO ก็ไปโฟกัสเรื่องอื่นต่อ
ตัวเขาเองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมชอบสื่อสารด้วยส่งอีเมลมากๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมพยายามจะสื่อสารกับใครให้เข้าใจ อีเมลช่วยได้เสมอ” ที่น่าสนใจคืออีรอน ไม่ค่อยพูดถึงแอปพลิเคชั่นแชทในการสื่อสารเรื่องงานเลย นั่นแปลว่าสำหรับเขาถ้าจะคุยเรื่องานต้องผ่านอีเมลเท่านั้น
อย่าสร้างศัตรูไม่ว่ากรณีใดๆ – แจ็ค หม่า
การสร้างศัตรูไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะทำเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างศัตรูหรือคู่ขัดแย้งขึ้นมาด้วยตัวเราเอง ‘แจ็ค หม่า’ ผู้นำของ Alibaba บอกไว้ว่าปรัชญาในการทำงานของเขาคือ ‘ไม่สร้างศัตรู’ และเขามองว่าคู่แข่งจริงๆ แล้วเป็นเพื่อนร่วมวงการ ที่มาช่วยเติมพลังและทำให้เรามีความพยายามที่จะทำงานยากๆ ให้สำเร็จได้
เมื่อเขาไม่ได้มองใครเป็นศัตรูก็ไม่จำเป็นต้องทำลายใคร ขณะเดียวกันคนอื่นๆ ที่เห้นแจ็ค ปฏิบัติตัวเช่นนั้นกับเขา พวกเขาก็เลยไม่ได้มองแจ็คเป็นศัตรูที่ต้องห่ำหั่นใส่กันด้วยกำลัง แต่ใช้มันสมองเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมาแข่งขันมากกว่า ส่วนชีวิตจริง คนทำงานคนอื่นๆ ก็ไม่ควรสร้างศัตรู เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังเสียสุขภาพในการจัดการความรู้สึกของตัวเองด้วย
ที่มา – Mark Zuckerberg Jack Ma Elon Musk Bill Gates Warren Buffett