ปัจจุบันเรามีทางเลือกในการชมภาพยนตร์แบบถูกลิขสิทธิ์กันมากขึ้น ทั้งจากธุรกิจบริการดูหนังออนไลน์ที่เข้ามา หรือจะเป็นการซื้อภาพยนตร์เพื่อดูผ่านอินเตอร์เน็ตก็ตาม ทำให้เกิดคำถามว่าบริการพวกนี้จะเข้ามาแทนที่โรงหนังได้ไหม? เราจึงได้ลองลิสต์ข้อดีของการดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่หาไม่ได้จากการดูแบบออนไลน์มาได้ดังนี้
1. ได้ดูหนังเข้าใหม่
ในประเทศไทยการจะได้ดูหนังใหม่ก่อนใครแบบไม่ต้องกลัวโดนสปอยล์ วิธีการก็คือต้องไปดูในโรงตั้งแต่วันแรกๆ เนี่ยแหละ เราอาจเห็นจากเพจหนังที่รีวิวออกมา 10/10 แล้วก็รู้สึกว่า ‘ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบไปดูซะบ้าง’ แล้วตกเย็นเราก็จองตั๋วไปดูได้สบายใจ
เพราะสำหรับหนังบางเรื่องกระแสก็ออกมาดีจนคิดว่าอย่าไปรอออกแผ่นเลย รีบไปดูในโรงซะดีกว่าจะได้คุยกับเพื่อนๆ รู้เรื่อง อย่างเช่นหนังเรื่อง ‘พี่มาก..พระโขนง’ ที่ทุกครอบครัวต้องพากันไปดู หรือจะวัยรุ่นขึ้นมาอีกก็กระแสการโกงข้อสอบของ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ที่ขนาดไปฉายที่จีนยังทำรายได้สุงสุดอันดับ 6 ของโลก
2. ประสบการณ์ที่ต้องดูในโรงเท่านั้น
หลายปีก่อนมีกระแสการดูหนังแบบ 3D เกิดขึ้นในบ้านเรา มาวันนี้ก็มีระบบที่นั่งแบบอื่นๆ ตามมาอีกไม่มากมายไม่ว่าจะเป็นการชมแบบ 4 มิติสุดสมจริงด้วย 15 เอฟเฟคต์ในโรง MX4D หรือการดูด้วยระบบอย่าง Dolby Atmos ก็ตาม รวมถึงที่นั่งเองก็ออกแบบมาให้คนดูได้ประสบการณ์ดูหนังแบบใหม่ๆ เดี๋ยวนี้จะเลือกนั่งที่นั่งแบบโซฟาอย่างเดียวอาจเก่าไปแล้ว เพราะยุคนี้เรามีถึงเก้าอี้ที่ปรับเอนนอนเป็น 180 องศาก็ยังได้ ผ้าห่มและหมอนก็จัดมาให้พร้อม รวมถึงใครอยากได้ประสบการณ์แบบเฟิร์สคลาสยิ่งกว่านั้น ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์บางแห่งก็ยังมีอาหารให้ทานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ป็อปคอร์น หรือน้ำอัดลมเท่านั้น
3. ดูหนังบนจอใหญ่ ระบบเสียงคุณภาพ
หนังบางเรื่อง เราไม่ได้อยากดูแค่พระเอกนางเอก การดำเนินเรื่อง หรือการกำกับ แต่เราอยากดูไปถึงรายละเอียดต่างๆ ในภาพที่ถ่ายออกมา อุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ที่เฟ้นหามาจนหนังสมบูรณ์แบบ หรือเพลงประกอบที่สร้างบรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของหนังที่ผู้สร้างต้องการให้เรารู้สึก
จะยกตัวอย่างหนังที่เราชอบเช่น ‘ดันเคิร์ก’ หนังเรื่องนี้มีภาพที่สวยงามจนเราคงเสียดายถ้าดูบนคอมพิวเตอร์เพียงเท่านั้น หรืออย่างหนังเรื่อง ‘Arrival’ ก็มีเพลงประกอบที่สร้างความรู้สึกไปกับหนังได้มากมายจริงๆ เรียกว่าเสียงหรือภาพก็เป็นอีกปัจจัยของหนังที่จะสร้างความรู้สึกร่วม และบางครั้งก็เป็นพระเอกในหนังบางเรื่องเลยด้วย
4. ได้โฟกัสกับการดูหนังมากกว่า
อวัยวะที่เพิ่มขึ้นมาของคนยุคนี้ก็คือ โทรศัพท์มือถือ เราติดหนึบกันยิ่งกว่ากาวตราช้าง และเราเสียสมาธิให้กับมันได้ง่ายมากๆ รวมถึงบางครั้งการดูหนังออนไลน์ก็มักจะมีแจ้งเตือนจากแอปฯ อื่นๆ ขึ้นมารบกวนการชม ซึ่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเราเอง
แต่จากประสบการณ์ของตัวเราเอง เวลาดูหนังในโรงภาพยนตร์ เราคิดว่ามันได้ตั้งใจดูจริงๆ และเคารพกับการดูมากกว่าปกติ เพราะเราไม่สามารถกดหยุดให้คนทั้งโรงรอได้เวลามีสายเข้า หรือเวลาจะไปฉี่เราก็ต้องเสียโอกาสการชมฉากนั้นๆ ไป ทำให้การจะดูหนังในโรงเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่าปกติ เราต้องเข้าห้องน้ำก่อน ต้องเตรียมของทานเล่นให้เรียบร้อย และที่สำคัญคือเราต้องปิดโทรศัพท์มือถือด้วย
5. ได้สัมผัสเสน่ห์ของโรงหนังแต่ละแห่ง
ถึงแม้ว่าโรงภาพยนตร์ทางเลือกในยุคนี้จะมีน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี อย่างเช่น เฮ้าส์ อาร์ซีเอ, สกาลา, ลิโด้ มัลติเพล็กซ์, แจมคาเฟ่ และบางกอก สกรีนนิงรูม เป็นต้น ในโรงภาพยนตร์เหล่านี้ก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป หลายคนอาจคุ้นกับคุณลุงฉีกตั๋วของลิโด้ที่มาพร้อมชุดยูนิฟอร์มสีเหลือง หรืออย่างเฮ้าส์ อาร์ซีเอ ที่จะคัดหนังนอกกระแสมาให้เราได้รับชมกัน อย่างบางกอก สกรีนนิงรูม ก็จะมีพื้นที่ที่ให้คนดูรู้สึกเป็นส่วนตัวกว่าโรงปกติ เพราะมีที่นั่งจำกัด แต่ก็จัดสรรมาได้บรรยากาศที่ดี
หรือถ้าชอบดูหนังในห้าง แต่อยากสัมผัสการบริการแบบเฟิร์สคลาส เราก็สามารถสร้างประสบการณ์นั้นได้จากโรง SF Cinema First Class ก็จะทำให้ได้บริการที่ต่างกันไป เช่น สามารถใช้บริการเลาจน์และทานบุฟเฟ่ต์อาหารว่างต่างๆ เท่านี้การดูหนังก็กลายเป็นการสร้างประสบการณ์อีกรูปแบบ ซึ่งก็นับเป็นทางเลือกที่ดีเลย
6. หนังบางเรื่องฉายเฉพาะในโรงเท่านั้น
จะมีภาพยนตร์บางเรื่องที่หาดูได้ยากมากๆ หากไม่ดูในโรงภาพยนตร์ อาจเป็นเพราะเรื่องลิขสิทธิ์หรือสัญญาอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งถ้าเราพลาดโอกาสนั้นไป เราอาจหาดูไม่ได้อีกเลย การจะนำกลับมาฉายก็อาจต้องรอเวลาสักระยะใหญ่
7. ไม่ต้องแอบดูหนังเถื่อน หรือหาโหลดแบบผิดลิขสิทธิ์
หนึ่งในสิ่งที่คนรักหนังรณรงค์กันมาโดยตลอด ก็คือการต่อต้านการดูหนังแบบผิดลิขสิทธิ์นี่แหละ ถึงแม้มันจะฟรีและ(มัก)ง่ายในการโหลดแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็สะท้อนถึงความไม่เคารพในตัวผู้สร้างหนังเช่นกัน ดังนั้นการสนับสนุนให้วงการภาพยนตร์เติบโตและมีคอนเทนต์ดีๆ ออกมาให้เราได้ชมกันไปตลอด ก็คือการดูจากแหล่งถูกกฏหมาย เพื่อให้รายได้นั้นย้อนกลับไปเป็นต้นทุนทั้งทางใจและต้นทุนที่จับต้องได้แก่เหล่าผู้ทำหนังนั่นเอง