สิ้นสุดการรอคอยไปสดๆ ร้อนๆ กับเกมเทพ FINAL FANTASY VII REMAKE บนเครื่อง PS4 ที่วางจำหน่ายแล้วใน Zone 3 Asia หรือพูดง่ายๆ ว่าในประเทศไทยเราเมื่อ 5 ทุ่มของเมื่อวานที่ผ่านมา สำหรับวันนี้ทั้งสายแผ่นสายโหลดที่ได้ทำการจับจองเกมกันไว้ก็คงนั่งเล่นกันรัวๆ อยู่ที่บ้านไม่สนใจใครเป็นแน่แท้ และพวกเราเองก็เช่นกัน
หลังจากทีมงาน Mango Zero ได้ทดลองเล่น FINAL FANTASY VII REMAKE ‘ตัวเต็ม’ กันไปแล้วก็พบว่าเกมนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่รอคอยกันจริงๆ เราเลยไม่รอช้าที่จะมาเล่าถึง 7 สิ่งสุดเทพที่เราอดที่จะเล่าไม่ได้จริงๆ ให้ได้สัมผัสกัน เผื่อคนที่อยากเล่นจะได้เกิดอาการโดนป้ายยาแล้วหามาเล่นในที่สุด
ขอบคุณทาง Sony Interactive Entertainment ที่สนับสนุนเกม FINAL FANTASY VII REMAKE มาให้ทีมงานได้ทำคอนเทนต์ด้วยครับ
FINAL FANTASY VII REMAKE นั้นใช้เอนจิ้นยุคใหม่ล่าสุดอย่าง Unreal Engine 4 ที่โดดเด่นในเรื่องแสง เงา การสะท้อนที่สมจริง และโมเดลตัวละครที่คมกริบสวยงามสุดๆ จนฉากวีดีโอคัตซีนในตัวเกมหลายๆ ฉากนั้นก็กลายเป็นตัวเดียวกันกับเนื้อเกมจริงๆ ตัดฉากเล่าเรื่องได้เนียนกว่าเดิม
แม้ว่า FINAL FANTASY VII REMAKE จะใช้พื้นหลังเป็นเมืองมิดการ์ (Midgar) เหมือนกับเกมเวอร์ชั่นเดิมที่ออกมาเมื่อปี 1997 แต่ในภาคนี้นั้นเมืองมิดการ์ได้ถูกออกแบบใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีรายละเอียดและผังเมืองที่ซับซ้อนขึ้น และผู้เล่นสามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิม
เนื้อเรื่อง FINAL FANTASY VII REMAKE จะอิงเรื่องราวจากเกมฉบับดั้งเดิม สำหรับใครที่เล่นเกมในตอนเริ่มๆ ก็คงจะคุ้นเคยกันอยู่บ้าง แต่จะ ‘ไม่เกี่ยวกับเกมเวอร์ชั่นแรกเริ่ม’ โดยจะมีการปรับปรุงเนื้อเรื่อง บทสนทนา เหตุการณ์ต่างๆ ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือความยาวกับรายละเอียดก็จะมากขึ้นตามตัวไปด้วย
ปกติแล้วเกมในตระกูล Final Fantasy ในสมัยก่อนจะเป็นเกมแนว JRPG ที่มีฉากต่อสู้เป็นแบบแบบ turn-based เป็นหลัก แต่สำหรับ FINAL FANTASY VII REMAKE ที่เรียกได้ว่าเป็นเกมแห่งยุค 2020 ก็ได้กลายเป็นเกม RPG ที่มีระบบต่อสู้เป็นแบบ action ฟันเป็นฟัน ยิงเป็นยิ่ง สร้างความเร้าใจให้การต่อสู้ได้มากกว่าเดิม (แต่ก็ยังมีสเน่ห์การต่อสู้ในแบบดั้งเดิมผสมอยู่นะ)
ผลพวงมาจากการเป็นเกมแนว action ทำให้บอสไฟต์หรือการสู้บอสใน FINAL FANTASY VII REMAKE นั้นดุเดือดมากๆ เพราะเราจะต้องควบคุมตัวละครหลายตัว สลับกันต่อสู้กันไป บางตัวถนัดโจมตีระยะประชิด (เช่น Cloud) และบางตัวถนัดยิงจากระยะไกล (เช่น Barret) เราก็สามารถสลับตัวละครและวางกลยุทธ์ในการสู้บอสในแบบของเราได้
ไม่ใช่แค่ฉากสำคัญๆ ของเกม แต่ฉากทั่วๆ ไปที่เราสามารถเดินไปเดินมาได้ใน FINAL FANTASY VII REMAKE นั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาแบบ ‘เต็มไปด้วยชีวิต’ มากๆ ทุกอย่างมีการเคลื่อนไหว มีเสียง มีการแสดงสีหน้า โดยเฉพาะเหล่า NPC ตัวประกอบที่กระจัดกระจายอยู่ข้างทาง ทุกตัวก็มีบทสนทนาและเรื่องราวของตัวเองให้เราได้สัมผัส แม้เพียงเดินผ่านก็ตาม
เรารู้กันดีว่าเกม FINAL FANTASY VII REMAKE นั้นแม้จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยพื้นฐานของโลกเดิม ตัวละครเดิม แต่ก็ได้มีการปรับปรุงเนื้อเรื่องส่วนต่างๆ ของเกมไปพอสมควร ทำให้เรานั้นอาจจะ “ไม่รู้” ว่า บทสรุปที่แท้จริงของเกมนั้นเป็นอย่างไรแม้จะเล่นจบ เนื่องจากเกมนี้ยังเป็นเพียงพาร์ทแรกเท่านั้น
ซึ่งขนาดแค่พาร์ทแรก ความจุเกมยังปาเข้าไปเหยียบ 100GB ใช้แผ่น Bluray ถึง 2 แผ่น ก็เรียกได้ว่าคอ RPG จะได้เล่นกันยาวๆ คุ้มๆ (และต่อเนื่องในอนาคต) อย่างแน่นอน
FINAL FANTASY VII REMAKE วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น โดยสามารถซื้อผ่านระบบ Digital Download ได้ 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน ดังนี้
- FINAL FANTASY VII REMAKE ราคา 1,740 บาท
- FINAL FANTASY VII REMAKE Digital Deluxe Edition ราคา 2,390 บาท
ส่วนเกมเวอร์ชั่นแผ่น Bluray สามารถตรวจสอบตามร้านเกมตัวแทนจำหน่ายทั่วไปได้เลย