หนึ่งในสิ่งที่คนจดจำในทุกครั้งที่มีการแข่งฟุตบอลโลกก็คือประเทศไหนเป็นแชมป์ นักเตะคนไหนแจ้งเกิด นักเตะคนไหนดับ มีดราม่าอะไร และเพลงธีมประจำฟุตบอลโลกครั้งนั้นมีเพลงไหนบ้างที่ฮิตติดหู ซึ่งฟุตบอลโลกเพิ่งจะมีเพลงเมื่อปี 1962
แต่ในบรรดาเพลงฟุตบอลโลกเป็นสิบๆ เพลง มี 7 เพลงที่เราคิดว่าติดหูแฟนบอลมาจนถึงวันนี้ แน่นอนเพลงฟุตบอลโลกปี 2018 นี้ไม่อยู่ในลิสต์เลย ส่วนเพลงอื่นๆ ที่ติดโผมีอะไรบ้างต้องมาฟัง
ซึ่งแต่ละเพลงมาเรื่องราวที่น่าสนใจอยากให้อ่านกันดังนี้
To be Number One (FIFA World Cup 1990, Italy)
หากจำกันได้ปี 1990 คือปีแรกที่ไทยถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพครบทุกนัดเป็นครั้งแรก หลังที่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาไทยถ่ายทอดสดแค่คู่สำคัญ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ช่อง 7 เปิด MV เพลงธีมฟุตบอลโลกปี 1990 ‘To be number one’
หรือในภาษาอิตาเลี่ยนเพลงนี้เขียนว่า ‘Un’estate italiana’ กรอกหูเราจนจำท่อนฮุคที่ร้องว่า “ทูบี้ นามมมเบอร์ วานนนนนน” ได้แม่น เพลงออกแนวร็อคๆ เนิบๆ หน่อย แต่ฟังแล้วคนอายุ 30 ขึ้นไปไม่เคยลืมเพลงนี้แน่นอน
We are the Champion (FIFA World Cup 1994, USA)
เพลงนี้เป็นของวง Queen วงร็อคที่โคตรฮิตในยุคนั้น และเจ้าของเสียงเพลงที่ทรงพลังก็คือ ‘เฟรดดี้ เมอร์คิวรี’ นักร้องดังที่ล่วงลับไปแล้ว เดิมทีเพลงธีมประจำฟุตบอลโลกที่อเมริกาไม่ใช่เพลงนี้เพลงเดียว แต่มีเพลง Gloryland ด้วยซึ่งก็เพราะเหมือนกัน
เพียงแต่ We are the Champion ติดหูกว่า และจนถึงวันนี้ We are the Champion ก็ยังถูกเปิดอยู่เสมอในงานกีฬาต่างๆ เพราะฟังแล้วฮึกเฮิม รักเพื่อนพ้อง รักทีมทันที
คลิปจาก Queen Official
La Copa de la Vida (FIFA World Cup 1998, France)
ถ้าจัดอันดับความฮิตของเพลงฟุตบอลโลกทั้งหมดที่เคยฟังมา เราคิดว่า La Copa de la Vida หรือ The Cup of Lighr ที่ร้องโดย ‘ริกกี้ มาร์ติน’ น่าจะโคตรฮิตและติดหูมากไม่แพ้เพลงอื่นๆ เลย เพราะด้วยจังหวะ ทำนองเพลงแนวลาตินที่ติ๊ดๆ มันๆ ฟังกี่ครั้งก็ยังมันทุกที มีประโยคที่ร้องตามง่ายเป็นจุดขายด้วยนั่นคือ “ทู วี โกววว อะเล อะเล้ อะเลลลลลลลล โก โก โก อะเล อะเล้ อะเลลลลล” โอย! มัน ฟังวันนี้ หรือวันไหนก็ยังมันอยู่ดี
คลิปจาก Ricky Martin
Celebrate the Day (FIFA World Cup 2006, Germany)
ฟุตบอลโลกที่เยอรมนีเป็นฟุตบอลโลกที่คึกคักมากๆ ไม่แพ้ครั้งไหน รวมไปถึงเพลงของฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็คึกคักไม่แพ้กัน เพลง Celebrate the Day นั้นเป็นเพลงที่มีกลิ่นอายความเป็นแอฟริกาสูงมาก
เพราะเจ้าภาพเยอรมนีตั้งใจจะสื่อถึงเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้าซึ่งแอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพ เจ้าภาพอินทรีเหล็กเลยอยากได้เพลงธีมฟุตบอลโลกที่มีกลิ่นอายความเป็นแอฟริกันจ๋าๆ จึงออกมาเป็นเพลงนี้ แต่ร้องโดยศิลปินเยอรมนี ‘เฮอร์เบิร์ต โกรเนเมเยอร์’
คลิปจาก GroenemeyerVEVO
Wavin’ Flag (FIFA World Cup 2010, South Africa)
Wavin’ Flag ของ K’NAAN เป็นหนึ่งในเพลงของฟุตบอลโลก แต่…ไม่ใช่เพลงประจำฟุตบอลโลกจริงๆ แต่เป็นเพลงของสปอนเซอร์หลักอย่า.โค้กที่อยากจะมีเพลงของตัวเองด้วยในฟุตบอลโลกครั้งนี้
เลยได้ K’NAAN มาทำเพลง Wavin’ Flag ซึ่งเพลงนี้ในไทยโค้กก็ให้ Tattoo Colur ร้องเพลงนี้แต่ใช้ชื่อเพลงว่า ‘โอ๊ โอ่ โอ โอ๊ โอ่’ และให้ฟีเจอร์ริงกับ K’NAAN แม้ตัวจริงจะไม่ได้มาทำเพลงที่ไทย แต่เป็นการรีมิกซ์เพลง แต่ก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่และมีวงดนตรีไทยเป็นส่วนหนึ่งของบอลโลกครั้งนี้
คลิปจาก knaan
Waka Waka (FIFA World Cup 2010, South Africa)
ฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้มีเพลงฮิตอีกเพลง และเป็นเพลงหลักของฟุตบอลโลกครั้งนี้คือ Waka Waka ของชากีล่า (ที่ต่อมาเป็นเจ้าแม่เพลงธีมฟุตบอลโลก) โดย Waka Waka นั้นเป็นเพลงธีมฟุตบอลโลกที่ได้สตาร์ดังมาร่วมเล่น MV ด้วย
(ร่วมเล่นในที่นี้ไม่ใช่การตัดฟุตเทจมาแปะเหมือนเพลงเก่า แต่เอามาร่วมแจมใน MV ด้วยจริงๆ) เพลงนี้ถือว่าเปลี่ยนแปลงชีวิตชากีล่า เหมือนกันเพราะเธอเจอกับ ‘เคราร์ด ปีเก้’ สามีของเธอ เพราะชากีล่า มาถ่าย MV เพลงนี้ที่สเปน…นี่มันเพลงสื่อรักชัดๆ
คลิปจาก Shakira
La La La (FIFA World Cup 2014, Brazil)
ชากีล่า (ที่แต่งงานกับปีเก้ และมีลูกแล้ว) กลับมาร้องเพลงธีมประจำฟุตบอลโลกอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เป็นเพลงประกอบฟุตบอลโลกที่บราซิล ธีมของเพลงก็ยังเน้นความคึกคักคึกครื้นเหมาะกับมหกรรมฟุตบอลโลกทีเดียว
แม้เพลงนี้จะไม่ค่อยดังมากเมื่อเทียบกับเพลงธีมประจำฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเพลงติดหูคอบอลโลกเหมือนกัน
คลิปจาก Shakira