เหยยยย ขึ้นชื่อว่าแอพหาคู่ หลายๆ คนคงจะมีได้ยินแล้วทำหน้าเบ้ หน้ายี้ หรือจริงๆ แล้วยอมรับมาซะดีๆ ว่าต้องเคยแอบไปส่อง ไปลองเล่นกันบ้างแหละ เพราะ dating app หรือแอพพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ เป้าประสงค์หลักก็คงจะตามชื่อเลยคือ “หาคู่” แต่กระนั้นแล้วด้วยเทคโนโลยีเชื่อมคนทั่วโลก อัลกอริทึ่มที่ไว้หมุนซ้าย หมุนขวา แมชๆ กัน หรือแอดว้านซ์กว่านั้นหน่อย ก็ใส่สเปคได้เนี่ย มันอาจทำอะไรได้มากกว่าที่เรื่องรักๆจั๊กจี้หัวใจที่เราคิดก็ได้!! ประโยชน์ของ “แอพหาคู่” ที่เราอาจนึกไม่ถึง! 1. ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เรากดไลค์ หรือได้พูดคุยด้วย จะเป็นคนที่เราสานต่อความสัมพันธ์แบบคนรักเสมอไป แอพหาคู่เหล่านี้ก็มีประโยชน์ตรงนี้เช่นกัน เพราะหลังจากที่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกันแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ไปต่อแบบคู่รัก แต่ก็อาจทำให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวคิด วัฒนธรรม เรื่องนู้นเรื่องนี้ จนกลายเป็นเพื่อนกันเกื้อกูลกันต่อมาในที่สุด รวมถึงมีข้อมูลจากงานวิจัยว่า กลุ่มคนที่ใช้ทินเดอร์นั้น มีมากถึง 53% ใช้เพื่อหาเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากกว่าการหาคู่ซะอีก 2.ได้เพื่อนร่วมแก๊งค์ท่องเที่ยว หรือไกด์คนท้องถิ่น จากฟีเจอร์หลักของแอพส่วนใหญ่ที่เน้นแมชกับคนที่อยู่ “ใกล้กัน” หรือตาม location-based ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งขาจร หรือแบ็คแพคเกอร์ขาลุย ใช้แอพหาคู่เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการหาเพื่อนเที่ยว (เพื่อนที่ไปเที่ยวออกทริปด้วยกันจริงๆ) หรือแม้กระทั่งไกด์ที่เป็นคนท้องถิ่น และก็จับคู่ จับคี่ออกเที่ยวกันไปเลย หากลองไปเล่นดูจะเห็นหลายคนเขียนแนะนำตัวเองประมาณว่า “ฉันเป็นคนประเทศนี้ กำลังจะไปเที่ยวที่ประเทศนี้ … วัน หาแบ็คแพ็คเกอร์ หรือคนท้องถิ่นไปเที่ยวแฮงค์เอ้าท์กัน” หรือบางคนก็ใส่สไตล์การเที่ยวของตัวเองลงไปด้วยเช่น ดำน้ำ ปีนเขา เดินป่า หาแก๊งค์พิชิตภู ก็ทำให้มีโอกาสได้เจอเพื่อนเที่ยวแบบถูกจริตกันไปอีก 3.หาพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจ / โปรโมทธุรกิจของตัวเอง หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึงว่าแอพหาคู่นี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาพาร์ทเนอร์จากเพื่อนที่มีความสนใจร่วมกัน มีไอเดียธุรกิจต่างๆ หรือถึงขั้นโปรโมทร้าน โปรโมทธุรกิจ หรือโปรโมทตัวเองเลย เพราะจริงๆ แล้วแอพหาคู่เหล่านี้มีตัวเลขผู้ใช้ที่แอคทีฟต่อสูงมาก ยกตัวอย่างแอพที่โตเร็วที่สุดอย่าง Tinder มีผู้ใช้กว่า 10 ล้านคนต่อวัน ซึ่งทำให้มีโอกาสที่คนจะเห็นข้อมูลหน้าโปรไฟล์ที่เราใส่ไว้สูงขึ้นเช่นกัน ใครที่เคยได้ลองใช้อาจจะเคยเห็นหน้าโปรไฟล์ของบางคนเขียนว่า “ผู้ชายอายุ 33 ตอนนี้ทำธุรกิจ… ตามหา …. ร่วมทำธุรกิจ” ตัวอย่างจากบล็อกเกอร์รายนี้ หลังเธอใส่ชื่อแอคเค้าทวิตเตอร์ของเธอเข้าไปในโปรไฟล์ทินเดอร์ กลายเป็นว่ามียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นทันตา workinmypajamas 4.ฝึกภาษา ฝึกสกิลการสื่อสาร เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่น่าสนใจสำหรับการใช้แอพหาคู่เลย เพราะเรามีโอกาสได้พูดคุยกับผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั่วโลก หลากเพศ หลากวัย ไม่จำกัดแค่ผู้คนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน มีหลายคนก็ใช้การพูดคุยเรื่องทั่วไปในแอพนี่แหละ เป็นเวทีฝึกภาษา หรือบางคนก็ใช้พูดคุยเรื่องลึกซึ้ง แลกเปลี่ยนไอเดีย ทัศนคติก็ช่วยให้เราได้ฝึกฝนการสื่อสารของเราให้ดียิ่งขึ้นผ่านการพูดคุยกับผู้คนจริงๆ เช่นกัน taipeitimes 5.เพิ่มความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ เนื่องจากแอพเหล่านี้มีผู้ใช้เยอะมาก อยู่ทั่วโลก อย่างเช่น Tinder ปัจจุบันมีบัญชีผู้ใช้แล้วถึง 50 กว่าล้านคน ทำให้ถือเป็นอีกหนึ่งสังคมที่มีผู้คนที่เข้าถึงเทคโนโลยีอยู่ใหญ่พอสมควร มีความความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ ภาษา อายุ รวมถึงอาชีพด้วยเช่นกัน ในการเล่นแอพเหล่านี้ เราอาจมีโอกาสได้เจอผู้คนที่มีความเชี่ยวชาญ หรือความรอบรู้ต่างไปจากความชำนาญของเรา ถือเป็นการเปิดโลกกว้าง เหมือนกับการอ่านหนังสือ ต่างเพียงแค่นี่คือการอ่านจากคนจริงๆ ผ่านเทคโนโลยี รวมถึงมีการโต้ตอบแบบอินเตอร์แอคทีฟอีกด้วย huffingtonpost 6.เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่มีลักษณะ Introvert หรือกลุ่มคนที่เก็บตัว ตรงนี้ถือเป็นเกราะกำบังความกังวลที่ดีชั้นเยี่ยม โดยปกติแล้วเราไม่ค่อยกล้าจะสนทนากับผู้คน ไม่กล้าสบตา แต่พอมาอยู่หลังคอม หลังมือถือแล้วละก็ พูดได้ปร๋อเลย ไม่ใช่แค่กับคนที่มักจะขี้อายเท่านั้น คนทั่วๆ ไปอย่างเราๆ หากได้พูดได้คุย การพูดคุยแบบสบายๆ ไร้ความกดดันเหมือนกับที่เราเล่นแอพเดทติ้งเหล่านี้เวลาว่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้เรารู้สึกชินกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า คนใหม่ๆ หรือการวางตัวในที่ (กึ่ง) สาธารณะได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย นักเลงคีย์บอร์ด ต่อหน้าไม่กล้าบอก…. 7.เพิ่มโอกาสขายออกให้ตัวเอง จะได้ไม่นก!!! เราอาจจะมีความเชื่อกันอยู่ว่าคนที่เป็นคู่กันผ่านออนไลน์ อย่างไรแล้วความสัมพันธ์ก็ไม่ยั่งยืนเป็นแน่ แม้หลังๆ จะมีตัวอย่างให้เราเห็นกันหลายคู่สำหรับคนที่รักกันออนไลน์แล้วเป็นคู่แท้ในชีวิตจริง หรือตัวเลขของทินเดอร์เองเปิดเผยออกมาว่าตั้งแต่แอพออกมา มีคนที่ถึงขั้นขอแต่งงานกันไปแล้วจริงๆ กว่า 50 คู่ แต่ประโยชน์ทางอ้อมที่เราอาจมองข้ามไปก็คือ ไม่ใช่แค่เป็นการเพิ่มโอกาสในการหาคู่ผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้พัฒนาบุคลิกภาพตัวเอง สกิลการสื่อสาร ได้รู้จักการสนทนากับผู้อื่น การเข้าสังคม ก็เหมือนกระจกสะท้อนเราเอง รวมถึงได้รู้จักตัวเอง สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ จุดอ่อน จุดแข็ง หาวิธีปรับจูนให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น ได้พัฒนาตัวเองจากทุกข้อที่กล่าวไปข้างต้น สุดท้ายแล้วตรงนี้จะย้อนกลับมาหาเราให้เรามีโอกาสเป็นคนที่ โดนกดไลค์ ในชีวิตจริงโลกออฟไลน์เพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสขายออกตั้งสองทั้งเด้ง ขอให้สมหวัง เลิกนก เลิกนก กันด้วยนาจาาา Behance เมื่อปี 2016 ทาง Business Insider ได้จัดอันดับแอพหาคู่ยอดนิยม เรียงตามลำดับรีวิวของผู้ใช้งานเอาไว้ โดยอันดับ 1 ตกเป็นของ OkCupid เว็บและแอพหาคู่ชื่อดังที่มีฟีเจอร์เด็ดอย่าง %match ไว้บอกว่าเรามีโอกาสที่จะแมชกับคนๆ นั้นเท่าไหร่ คำนวณจากการตอบคำถามวัดบุคลิก และทัศนคติต่อเรื่องต่างๆ ของแต่ละคน Ok cupid อันดับ 2 คือ Happn ที่มีคอนเซ็ปว่าจะโชว์ลิสของคนที่เราผ่านพบในชีวิตจริงๆ แต่ละวันมารวมเป็นคอลเลคชั่นให้เราเลือกในแอพ! ถัดมาที่อันดับ 3 ที่กำลังดังมากในหมู่ผู้ใช้ผู้หญิงคือแอพ Coffee Meets Bagel ที่ให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือกคนแมช โดยลิสที่ฝ่ายหญิงเห็น จะเป็นคนที่ถูกคัดมาแล้วว่ากดไลค์เธอ Happn & coffee meets bagel ส่วนแอพสุดท้ายที่จะยกมากล่าวถึงเพราะถือเป็นแอพที่ป๊อปปูลาร์ไปทั่วโลกมาสักพักใหญ่ๆ อย่าง Tinder โดยวิธีใช้ก็แสนง่าย ถ้าชอบก็เลื่อนขวา ถ้าไม่ใช่ก็เลื่อนซ้าย แล้วถ้าทั้ง 2 คนกดไลค์ทั้งคู่ ถือว่าแมชกัน เมื่อไหร่ก็จะสามารถส่งข้อความคุยกันได้ Tinder นี่ก็ถือเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ของแอพหาคู่ที่ผู้คนใช้กันอยู่ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน แต่อย่างที่เกริ่นไปตอนต้น นอกจากหาคู่แล้ว กลไกและเทคโนโลยีของแอพยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้ ให้ได้ประโยช์ด้านอื่นๆ อีกด้วย สุดท้ายนี้ฝากไว้สั้นๆ ที่รวมมาข้างต้นคือ 7 ประโยชน์ที่เราอาจจะนึกไม่ถึงจากแอพหาคู่ แต่อย่างไรแล้วไม่ว่าเราจะใช้อะไร ก็มีทั้งประโยชน์และโทษด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงผู้คนก็มีทั้งหวังดีหวังร้ายปะปนกันไป ระหว่างใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ ก็โปรดมีสติ รับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ถ้าสติมาแล้ว พร้อมเปิดโลกกว้างแล้ว ก็ไปโหลดแอพกันเลยดีกว่าาาา~~