คงยากที่จะปฏิเสธว่าโน๊ตบุ๊คนั้นคืออาวุธคู่ใจของคนทำงานทุกประเภท ซึ่งประเภทของโน๊ตบุ๊คนั้นก็ถูกจำแนกออกไปตามศักยภาพที่คนๆนั้นจะใช้เพื่อทำอะไร หากแค่พิมพ์งานหรือทำกราฟิกอย่างง่ายโน๊ตบุ๊คราคาหลักหมื่นต้นๆ ก็พอไหว แต่ถ้าเป็นคนทำงานสาย HardCore ที่ต้องใช้ขุมกำลังระดับสูงของโน๊ตบุ๊คเพื่อทำงาน ศักยภาพของเครื่องและราคาก็สูงตามไปด้วย แต่เพื่อการได้งานที่มีคุณภาพและทำให้ชีวิตคล่องตัว นั่นคือสิ่งที่ควรลงทุน ปัจจุบันนี้มีโน๊ตบุ๊คแรงๆ อยู่มากมาย แต่ถ้าโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการทำงานกราฟิกหนักๆ และมีเทคโนโลยีล้ำๆ นาทีนี้ก็คือ ASUS ZenBook Pro 15 ซึ่งมีเทคโนโลยี ScreenPad เครื่องแรกของโลก และมีความเร็วสูงมากนี้เหมาะกับการทำอะไรบ้าง หรือเหมาะกับใครนี่คือสถานการณ์ที่เหมาะกับการมี ASUS ZenBook Pro 15 อยู่ในครอบครองแล้วพาเราฝ่าจากสถานการณ์เหล่านี้ แอบอู้ดูหนังด้วย ScreenPad บางทีมันก็เครียดแหละเนอะ เลยต้องเปิดความบันเทิงจากยูทูบหรือ NetFlix ไว้รับชม แต่เมื่อก่อนมันต้องย่อจอแล้วซ่อนไว้ที่มุมๆ เผื่อใครเดินมาจะได้ไม่เห็น ก็ลำบากไปอี๊ก! แต่ ASUS ZenBook Pro15 มีนวัตกรรม ScreenPad ที่เปลี่ยนจากทัชแพดให้กลายเป็นจอทัชสกรีน 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD สามารถเปิดยูทูบ หรือเปิด NetFlix ไว้ที่ ScreenPad เสียบหูฟังแล้วตั้งใจทำงานไปได้เลยโดยไม่มีใครจับได้ว่าเราแอบเสพความบันเทิงระหว่างทำงาน บางคนอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย! จอ ScreenPad ทำได้แค่นี้เองเหรอ มันต้องทำได้มากกว่านั้นสิ อันที่จริงแล้ว ScreenPad ทำได้มากกว่านั้นได้แก่ ใช้เป็น TouchPad ฟังก์ชั่นพื้นฐานระดับเบสิคที่เป็นจอก็ได้ เป็น TouchPad ก็ดี กรณีที่เราไม่ได้ใช้จอเพื่อทำอะไร เปิดใช้โหมดเครื่องคิดเลขได้ เปิดเครื่องเล่นเพลงได้ เปิดเพลงผ่าน Spotify ก็ได้ รวมถึงโหลดแอพลิเคชั่นส์อื่นๆ มาเสริมการทำงานของ ScreenPad ได้ มีนัมคีย์เปลี่ยนการทำงานของสกรีนแพดเป็นคีย์แพดตัวเลข มีแถบเมนูลัดเพื่อควบคุมการเปิดและเปลี่ยนการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ทอปได้ สามารถเชื่อมต่อกับ ASUS Sync เพื่อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถแชร์หน้าจอโทรศัพท์ไปยังหน้าจอหลักและสกรีนแพดด้วย ช่วยแจ้งเตือนเมื่อได้รับข้อความใหม่ หรือรับสายเข้าหรือโทรออกได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อสกรีนแพดอยู่ในโหมด Screen Extender สกรีนแพดจะทำหน้าที่เป็นจอที่สองของหน้าจอหลัก ช่วยในการมัลติทาสกิงทำงานร่วมกันหลายโปรแกรมได้เช่นทำงานร่วมกับโปรแกรม Microsoft Word, Excel และ PowerPoint รวมแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อีก งานด่วนงานไวไม่หวั่นเพราะสเปคสูงมากกก “น้องตัดวิดีโอนี้ให้หน่อยสิ ตัดเสร็จแล้วปล่อยเลยนะงานรีบ…” ทุกครั้งที่เราเจองานรีบๆ เร่งๆ โดยเฉพาะงานวิดีโอหรืองานกราฟิกนั้นลำพังเราทำงานไวอาจไม่พอ แต่ต้องพึ่งอุปกรณ์ที่สเปคสูงปรี๊ดๆ เพื่อจะได้ทำงานไม่ติดขัดแม้จะลากไฟล์ขนาดใหญ่แค่ไหนมาตัดงานจะกี่ไฟล์เครื่องก็ไม่ค้าง เรนเดอร์งานได้ไว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน งานด่วนแค่ไหนไม่หวั่น เปิดเครื่องก็ไวมากใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาทีพร้อมทำงานได้เลย เปิดโปรแกรมต่างๆ ก็ไว (ไวกว่า MacBook Pro อีกทดสอบมาแล้ว) นั่นเป็นเพราะว่า ASUS ZenBook Pro15 นั้นอัดขุมกำลังมาให้เครื่องทำงานเร็วมากๆ ได้แก่ CPU 8th Gen Intel® Core™ i9 processor up to 16GB of high-performance 2400Hz DDR4 RAM up to a 512 GB PCIe 3.0 x4 SSD การ์ดจอ NVIDIA® GeForce® GTX 1050 Ti แค่เห็น CPU ระดับ Core i9 นี่คือความแรงที่สุดแล้ว ณ นาทีนี้ ดังนั้นแถมยังสามารถต่อจอแยกได้เพิ่ม 3 จอไม่แรงจริงทำไม่ได้ ลูกค้าอยากได้งานคมๆ ชัดๆ จัดให้ได้ บางครั้งสายอิดิทเตอร์เจอลูกค้าที่ร้องขอว่างานนี้จะเอาไปขึ้นจอใหญ่ประมาณหน้าลาน Central World ถ้าไม่ชัดระดับ 4K พี่ไม่สบายใจนะน้อง ปกติถ้าตัดงานด้วยหน้าจอความระดับบระดับ full HD เราก็อาจจะได้งานที่ชัดแต่ไม่ชัดถึงใจ แต่ ASUS ZenBook Pro15 จอชัดระดับ 4K เลยนะ ดังนั้นความละเอียดที่แสดงผลระหว่างตัดงาน หรือทำกราฟิกก็จะชัดเหมือนตอนขึ้นงานจริง อยากได้งานที่ความชัดระดับ 4K ก็จัดให้ได้ ที่น่าสนใจคือนอกจากจอจะชัดมาก และ CPU ยังแรงแบบล้นเหลือแล้ว จอของ ASUS ZenBook Pro15 นั้นเป็นหน้าจอที่ทัชสกรีนได้ ถ้าลูกค้ามาบอกว่าน้อง ซูมตรงชายเสื้อให้หน่อยสิว่ามันคมหรือยัง เราก็วาดนิ้วไปมาบนจอ ซูมเข้าขยายออกให้พี่เขาดูได้เต็มตา ชัดหรือยังครับพี่ ถ้าไม่ชัดเดี๋ยวซูมให้ดูอีก! แก้ตรงไหนบอกว่า เดี๋ยวจัดให้งามๆ แถมบางฟังก์ชั่นก็รองรับการกดสั่งงานจากหน้าจอด้วย โอโห้! คุ้ม ต้องการงานสีตรงๆ ส่งงานแล้วสีไม่เพี้ยน คนทำงานกราฟิกมักจะประสบปัญหาสีไม่ตรง ออกแบบงานมาเทียบสีจาก pantone เรียบร้อยมั่นใจว่าตรง พอส่งเข้าโรงพิมพ์ปริ้นท์ออกมาปุ๊บอ้าว….ไม่ได้เลือกสีแดงเฉดนี้นี่หว่า แสดงว่าเจอจอหลอกตา ทำงานไม่ตรงสีนี้ความวิบัติระดับเดียวกับก็อตซิลล่าบุกเลยนะ แต่โน๊ตบุ๊ค ASUS ZenBook Pro15 จะช่วยแก้ปัญหาชาวกราฟิกให้สามารถทำงานออกมาแล้วสีตรง แสดงผลได้เป๊ะ เพราะได้รับการรับรองด้วย Pantone validated ที่มั่นใจว่าจะเฉดสีไหนก็ตรง ต่อไปนี้ลูกค้าของานกราฟิกขอสีตรงๆ อย่าเพี้ยนนะ เพราะต้องเอาไปขึ้นบิลบอร์ดทั่วกรุงเทพฯ หรืออยากทำสแตนด์ดี้ BNK48 ก็สบายมาก สีตรงถูกใจลูกค้าหมดปัญหาดราม่ากวนใจ ทำงานที่ไหนก็ได้เพราะพกพาไปได้ทุกที่ คนทำงานสายครีเอทีฟมักชอบเจอคำว่า “อาจมีแก้งานนะ สแตนด์บายรอด้วยล่ะ…” ในวันหยุด นาทีนี้นอกจากจะต้องใช้ความไวดุจปีศาจในการทำงานให้เสร็จตามที่พี่เขาขอ (แกมบังคับ) แล้ว ก็ต้องภาวนาให้เราพกโน๊ตบุ๊ตที่เป็นอาวุธคู่ใจออกมาด้วย ปกติแล้วโน๊ตบุ๊คที่มีสเปคสามารถทำงานกราฟิกสูงๆ ได้ หรือทำกราฟิกได้นั้นจะมีความหนักระดับน้องๆ ดัมเบลที่ฟิตเนส แบกโน๊ตบุ๊คทุกวันก็อาจจะได้กล้ามแถมมา เลยไม่ได้พกไป แต่ ASUS ZenBook Pro15 แม้ดูจากขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่เนื่องจากมีหน้าจอ 15 นิ้ว และเหมือนจะอัดแน่นไปด้วยขุมกำลังที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไวอย่างเทพ แต่เชื่อหรือไม่ ASUS ZenBook Pro15 พกพาติดตัวไปได้อย่างง่ายเนื่องจากน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 1.88 กิโลกรัมเท่านั้น เผลอๆ เบากว่าเพาเวอร์แบงก์ที่เราพกเป็นประจำทุกวันเสียอีก ดังนั้นในวันที่เราต้องเตรียมตัวพร้อมรับสายเพื่อแก้งานการพก ASUS ZenBook Pro 15 ออกไปนอกบ้านด้วยจึงไม่ใช่ปัญหา เราพร้อมที่จะแก้งานได้ทุกเมื่อที่ไหนก็ได้ มาเลย เอางานมาอีก! เอามาอีก!!! เล่นเกมยามว่างตอนไม่มีงานทำได้ไม่สะดุด ถ้าซื้อแค่โน๊ตบุ๊คมาทำงานแบบเดียว ดูเหมือนว่าจะยังไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ แต่ ASUS ZenBook Pro15 มีศักยภาพในการเล่นเกมระดับเหลือเฟือ (ก็ดูสิครับ CPU Core i9 เล่นเกมอะไรในโลกนี้ได้ทั้งนั้น) ยามว่างที่เราไม่ได้ทำงานอะไร ไม่มีใครมาเร่งงาน เราก็สามารถเอาเวลาอันมีค่านี่แหละมาเล่นเกม! อยากเล่นเกมอะไรในโลกนี้โหลดมาไว้ในเครื่องได้ทั้งนั้น สรุปความน่าสนใจของ ASUS ZenBook Pro15 มี Screenpad หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ใช้ CPU 8th Gen Intel® Core™ i9 processor พร้อมด้วยขุมกำลังการประมวลผลจาก NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti graphics และ fastest PCIe® 3.0 x4 SSDs หน้าจอความละเอียดระดับ 4K ขนาด 15นิ้ว PANTONE® Validated โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา บางเบา น้ำหนักเพียง 1.88 กิโลกรัม เชื่อมต่อผ่าน up to gigabit-class 802.11ac Wi-Fi, USB-C with Thunderbolt™ 3, USB 3.1 Gen 1 Type-A และ standard HDMI output ราคาแบ่งเป็น 2 รุ่นคือ 89,990 บาท สำหรับ 8th Gen Intel® Core™ i9 และราคา 69,990 บาท สำหรับ 8th Gen Intel® Core™ i7
