ช่วงนี้รอบข้างมีแต่เรื่องน่าปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นการเมืองหรือเรื่องรอบตัว จริงอยู่ที่ว่าการสนใจกับสถานการณ์และสิ่งรอบข้างนั้นสำคัญ แต่การดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเองให้อยู่ในสมดุลที่ดีก็จำเป็นไม่แพ้กัน วันนี้ Mango Zero จะพาไปรู้จัก 5 เมือง Hipster ได้รับการยอมรับว่าสโลว์ไลฟ์จริงๆ เพราะมีเกณฑ์การให้คะแนนด้วย! พักงานเอาไว้ก่อน หยิบเป้คู่ใจแล้วออกเดินทางแบบไม่ได้วางแผนแต่ละวันไว้บ้าง ก็ดูเป็นการเที่ยวน่าสนุกดีไปอีกแบบ โดยเมืองที่ได้ทำการคัดเลือกมานั้นก็มีคะแนน Hipster Index Score จาก MOVEHUB ซึ่งใช้เกณฑ์การให้คะแนนคือ จำนวนผู้เป็นวีแกน (Vegan) จำนวนร้านกาแฟ จำนวนร้านสัก และจำนวนร้านเช่าแผ่นเสียง จากทั้งหมด 446 เมือง ใน 20 ประเทศทั่วโลก และเราก็ได้ทำการคัดเลือกเมืองที่ทุกคนน่าจะรู้จักดีมา 5 เมือง เผื่อจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เพื่อนๆ เจอประสบการณ์ฟีลกู้ดกัน : ) เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นอกจากจะได้คะแนนความเป็นเมือง Hipster แล้ว ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความน่าอยู่ที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปี เพราะเต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นมิตร ความจริงจังในเรื่องของกาแฟ เทศกาลน่ารักๆ มิวเซียมดีๆ และสถานที่สุดชิคหลายย่าน โดยเฉพาะที่ Fitzroy ย่านเด็กแนว ใครที่สนใจประเทศไม่ไกลจากไทยมาก พลาดที่นี่ไม่ได้เลยล่ะ ได้คะแนน Hipster Index 3.6 สกุลเงิน : ดอลลาร์ออสเตรเลีย ภาษาทางการ : อังกฤษ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินเเลนด์ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ดินแดนซานตาคลอส อยู่ท่ามกลางหมู่เกาะทะเลบอลติก เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิคที่สวยงาม เช่น มหาวิหารเฮลซิงกิ หรือจัตุรัสเซเนท ยิ่งถ้าไปในช่วงคริสต์มาส ก็จะเห็นการประดับแสงไฟและการเฉลิมฉลองที่ชาวเมืองร่วมกันรังสรรค์อย่างสวยงาม จนแทบไม่อยากยกกล้องขึ้นมาถ่าย เพราะรู้ว่ายังไงก็เทียบการเห็นด้วยตาตัวเองไม่ติดแน่นอน ได้คะแนน Hipster Index 6.7 สกุลเงิน : ยูโร ภาษาทางการ : ฟินแลนด์ และสวีเดน เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทางทวีปตอนใต้ของยุโรปและติดกับมหาสมุทร ทำให้เป็นประเทศที่อบอุ่นที่สุดในยุโรป และความใจดีของผู้คนที่นี่ก็อบอุ่นไม่แพ้กัน และเพราะอากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งในการเดินชมเมืองไปรอบๆ เพื่อดูสถาปัตยกรรมคลาสสิคที่สวยงาม แวะทานทาร์ตไข่ขึ้นชื่อคู่กับกาแฟร้อนๆ หรือจะขึ้นรถรางไฟฟ้าชมรอบเมืองก็ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ไปอีกแบบ แต่ถ้ามาที่นี่แล้วก็อย่าแปลกใจหากเจอฝอยทอง หรือรถตุ๊กตุ๊ก เพราะเราได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกสสมัยล่าอาณานิคมแล้วนั่นเอง ได้คะแนน Hipster Index 6.9 สกุลเงิน : เอสคูโดโปรตุเกส ภาษาทางการ : ภาษาโปรตุเกส เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ไม่พูดถึงเมืองนี้ลยก็คงผิดเพี้ยนไปจากหัวข้ออย่างแน่นอน พอร์ตแลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความสโลว์ไลฟ์และเมืองสีเขียวอันดับหนึ่งของอเมริกา ด้วยอุปนิสัยของผู้คนที่ใจดีและเฟรนด์ลี่มากกว่าที่อื่น(ชนิดที่ว่าหลายคนคิดว่าแปลกเลยแหละ) ไม่มีคำว่าเบื่อเกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้ เพราะมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ออกไปทำมากมาย ทั้งการปิคนิคในสวน พายเรือ ตกปลา หรือขี่จักยาน ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นเมือง Bike – Friendly ที่สุดในอเมริกาด้วย หรือจะเป็นการเข้าร้านเหล้าที่ดื่มเบียร์ตามแต่เราจะคิดเงินให้(ก็คือเราเป็นผู้บริจาคนั่นเอง) ที่สำคัญคือมีค่าครองชีพที่ถูกกว่าเมืองอื่นๆ ทำให้ช้อปปิ้งได้อย่างจุใจก่อนกลับอีกต่างหาก ได้คะแนน Hipster Index 8.1 สกุลเงิน : ดอลลาร์สหรัฐ ภาษาทางการ : อังกฤษ เมืองไบร์ทตัน ประเทศอังกฤษ ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งแห่งเมืองฮิปสเตอร์ เพราะได้ชื่อว่าร่มรื่น มีชายหาดที่สวยงามเหมาะสำหรับการนอนอาบแดดเอื่อยๆ ก่อนจะเล่นเซิร์ฟ หรือจะเดินทอดน่องทั่วเมือง เสพศิลป์ในแกลลอรี่และมิวเซียมให้เต็มอิ่ม ทั้งยังเต็มไปด้วยร้านค้าสินค้างานคราฟต์ หลายชิ้นเป็นแฮนด์เมดมีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลกเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นที่นิยมในการเรียนต่อต่างประเทศของเด็กไทยหลายๆ คนอีกด้วย ได้คะแนน Hipster Index 8.1 สกุลเงิน : ปอนด์สเตอร์ลิง ภาษาทางการ : อังกฤษ (+1) เชียงใหม่ ประเทศไทย ออกตัวไว้ก่อนว่าที่นี่ไม่ได้อยู่การจัดอันดับ แต่ถ้าใครมีเวลาหรืองบประมาณที่จำกัด อยากเที่ยวในประเทศ ก็ขอแนะนำเชียงใหม่ เพราะได้รับการยอมรับและขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง Hipster เหมือนกัน โดยเฉพาะที่ย่าน “นิมมานเหมินทร์” ที่แบ่งเป็นซอยสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ แต่ละซอยเต็มไปด้วยคาเฟ่ให้นั่งชิลและมีหลายชนิด รวมไปถึงร้าน Ristr8to ระดับ Latte Art ติดอันดับโลก แวะส่งโปสการ์ดที่ร้านหนังสือก่อนจะเข้าอาร์ตแกลลอรี่เล็กๆ หรือจะเที่ยวตลาดถนนคนเดินท่าแพและวัวลาย ก็มีของพื้นบ้านน่ารักๆ บางอย่างที่หาซื้อที่จังหวัดอื่นไม่ได้ อิ่มใจพอๆ กับการไปเที่ยวต่างประเทศเลยล่ะ ที่มา : MOVEHUB, CNBC