บ้านคือสิ่งที่ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจซื้อ และเหตุผลที่ถูกหยิบมาพิจารณาว่าจะซื้อหรือไม่คือ ‘การออกแบบ’ ว่าบ้านนั้นตรงกับสไตล์บ้านในฝันที่ชอบหรือเปล่า ซึ่งหนึ่งในแนวคิดการออกแบบบ้านที่ถูกใจคือการออกแบบในแนวที่เรียกว่า ‘โมเดิร์น’
ด้วยแนวคิดการสร้างบ้านให้อยู่กับเราได้นานที่สุดและท้าทายกาลเวลา Nirvana จึงนำแนวคิด ‘โมเดิร์น ดีไซน์’ มาใช้เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ Nirvana Beyond บ้านเดี่ยวที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัยมองเมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ
วันนี้เราจะพาไปดู Nirvana Beyond Rama 2 เพื่อไปพิสูจน์เรื่องของความเป็นหมู่บ้านที่เน้นเรื่องการดีไซด์ว่าบียอนด์ไปไกลแค่ไหน ผ่านการไปสำรวจบ้าน 2 แบบคือ ‘Pride’ และ ‘Most’ บอกเลยว่าตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกได้เข้าไปดูบ้านราคา 25 ล้านบาทและ 35 ล้านบาท!
การออกแบบที่เน้นเรื่องความสวยงาม ทันสมัย และมีมิติ
Pride และ Most ออกแบบในลักษณะที่เรียกว่า ‘บ้านทรงกล่อง’ หรือบ้านที่คุณลักษณะเป็นสี่เหลียมตามแบบของบ้านสไตล์โมเดิร์น การออกแบบบ้านลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
แต่ Nirvana นั้นเลือกที่จะนำเอาเรื่องของความเป็นเหลี่ยมมุม มาออกแบบใหม่เพื่อทำให้มีความแตกต่างจากบ้านทรงโมเดิร์น ที่เราคุ้นเคย ผ่านการซ้อนทับกันของรูปทรงสี่เหลี่ยมจนเกิดมาเป็นเลเยอร์ที่ซับซ้อน เล่นกับระดับชั้น จนดูมีมิติสวยงาม
การออกแบบของบ้านในโครงการนี้ไม่เรียบแบนเหมือนบ้านทรงโมเดิร์นที่เราคุ้นเคยซึ่งจะขายความเรียบง่าย แต่เมื่อมองไปนานๆ จะพบว่ามันเรียบเกินไปจนน่าเบื่อ
Nirvana จึงสร้างเอกลักษณ์ของคำว่า Modern Design ขึ้นมาใหม่ซึ่งทำให้ความเป็นโมเดิร์นของ Nirvana Beyond นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและบียอนด์สมชื่อ
โปร่ง อิสระ และสวยงามด้วยการใช้กระจกสร้างเอกลักษณ์
บ้านที่ถูกออกแบบด้วยรูปทรงที่โมเดิร์นนั้นจะมีความน่าสนใจอยู่การใช้กระจกมาเสริมให้บ้านมีความสวยงาม และยังแฝงด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่ง Nirvana Beyond ทั้งในซีรีย์ Pride และ Most ก็เลือกที่จะใช้กระจกมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อทำให้บ้านใน Nirvana Beyond มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นคือการออกแบบให้หน้าต่างมีขนาดใหญ่กว่าปกติอยู่ระหว่าง 2 – 3 เมตร
นอกจากจะสวยงามและทำให้บ้านมีความโมเดิร์นขึ้นแล้ว กระจกบานใหญ่ยังช่วยทำให้บ้านดูมีมิติ และไม่ทำให้บ้านดูแข็งจนเกินไปนัก เมื่อมีกระจกมาเบรคในทุกส่วนที่เหมาะสมสมมาตร ทำให้เกิดความสวยงาม โปร่ง อิสระ และมีมิติ
เน้นฟังก์ชั่นและความสวยควบคู่ไปด้วยกันในการออกแบบ
การออกแบบที่ดีมาพร้อมกับความสวยงามที่ควบคู่กับประโยชน์ใช้สอย ซึ่ง Nirvana Beyond ทั้งในแบบ Pride และ Most จึงเน้นการออกแบบที่เอาประโยชน์ใช้สอยมารวมกับประโยชน์ใช้สวย
รอบบ้านมีการวางระเบียง และหน้าต่างไว้ในจุดที่เหมาะสมทั้งเรื่องของการรับลม การรับแสง และการใช้งานที่ลงตัว รวมถึงยังมีการออกแบบบ้านทุกส่วนภายนอกให้โปร่ง มีช่องลมที่สามารถให้ลมธรรมชาติพัดเข้ามาได้ และยังออกแบบบ้านให้รับแสงสว่างได้ทุกทิศทางแต่ไม่ทำให้บ้านร้อน
รวมถึงยังออกแบบโดยเว้นพื้นที่ว่างให้เจ้าของบ้านสามารถตกแต่ง หรือปรับปรุงบ้านเพิ่มเติมในอนาคตโดยใช้พื้นที่ของบ้านอย่างคุ้มค่าที่สุด ไม่หยุดธีมเมื่อเจ้าของบ้านจะตกแต่งเพิ่ม ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบที่เน้นความสวยงามด้วย และคำนึงถึงการใช้สอยในอนาคตด้วย
ภายในออกแบบทันสมัยเป็นมิตรกับผู้อาศัย
การดีไซด์ภายในบ้านนั้นก็สำคัญไม่แพ้สถาปัตยกรรมนอกบ้าน เพราะถ้านอกบ้านโมเดิร์น แต่ภายในตรงกันข้ามก็คงจะเป็นการออกแบบที่ไปคนล่ะทาง สำหรับการออกแบบภายในบ้านนั้นก็ยังคลุมธีมโมเดิร์น
แต่เน้นคอนเซปต์บ้านที่ปรับตัวไปกับผู้อยู่อาศัย ไฮไลท์คือเพดานชั้นสองที่เป็นห้องลิฟวิ่งรูมนั้นเป็นแบบ Double Volume เพิ่มความโปร่ง สบาย ภายในบ้านเน้นการเล่นกับเหลี่ยมมุมได้อย่างดี ไม่มีความอึดอัด
แปลนของห้องต่างๆ ถูกจัดวางมาอย่างดี และไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนกระจกจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ห้องดูโปร่ง ห้องต่างๆ ถูกจัดวางไว้ตามประโยชน์ใช้สอย
และพื้นที่ว่างภายในห้องถูกออกแบบมาอย่างลงตัวแล้วทำให้การออกแบบตกแต่งภายในทำได้ง่าย เมื่อจัดวางทุกอย่างเข้ามุมก็จะได้ห้องที่สวยงาม เนื่องจากมีการวางแปลนพื้นที่ส่วนกลางภายในบ้านอยู่ 3 จุดหลักๆ จุดที่กว้างเกินไปอาจจะกั้นห้องเพิ่มขึ้นมาเองก็ได้
ยึดการออกแบบโดยให้ธรรมชาติกลมกลืนกับบ้าน
นอกจากตัวบ้านที่ออกแบบได้อย่างทันสมัยท้าทายกาลเวลาแล้ว โครงสร้างหรือพื้นที่นอกบ้านยังออกแบบให้สอดคล้องกับตัวบ้านโดยมีการจัดวางออกแบบพื้นที่วางที่สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มได้
หรือตกแต่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโซนต่าง อย่างบ้านในแบบ Pride นั้นมีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นสอง และรอบๆ สระว่ายน้ำนั้นเราสามารถปลูกต้นไม้ขนาดเล็กเพื่อตกแต่งให้สระว่ายน้ำเข้าเรามีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นไปอีก
ส่วน Most นั้นแม้จะไม่มีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นสอง แต่พื้นที่นอกบ้านด้านหลังนั้นถูกเว้นไว้สำหรับการตกแต่ง หรือเสริมสระว่ายน้ำเข้าไปได้ด้วย เนื่องจากมีการคำนวณไว้ถึงการตกแต่งเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ในอนาคตรวมไปถึงสระว่ายน้ำที่แวดล้อมไปด้วยสวน
ในส่วนของโซนรอบบ้านของทั้ง Pride และ Most นั้นก็มีการคำนึงถึงภูมิสถาปัตย์ด้วย เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านได้โดยสอดคล้องไปกับการออกแบบของตัวบ้าน
ซึ่งสามารถปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ได้โดยสีเขียวของบ้านจะกลมกลืนไปกับโครงสร้างของตัวบ้านอย่างไม่ขัดอารมณ์ (ทั้งนี้ความกว้างของพื้นที่สีเขียวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของบ้านอีกที)
ความน่าสนใจของบ้าน Nirvana Beyond : Pride
Pride คือแบบบ้านหลังใหญ่เหมาะกับสำหรับการอยู่อาศัยครอบครัวขนาด 7 – 10 คนขึ้นไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ โดยมีลิฟต์ติดตั้งมาให้เลย รวมไปถึงมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กมาให้ด้วย สำหรับรายละเอียดของ Pride ได้แก่
- 5 ห้องนอน โดยมี Master Bedroom 1 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
- ห้องนอนใหญ่มีความเป็นส่วนตัวโดยมีสะพานเชื่อมจากห้องนั่งเล่นไปห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2
- มีห้องน้ำทั้งหมด 6 ห้อง
- ห้องครัว 2 ห้อง
- จอดรถได้ 3 คัน
- มีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ชั้น 2 ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
- มีลิฟต์ 1 ตัวซึ่งสามารถใช้รถเข็นได้
- มีห้องแม่บ้านอยู่ด้านนอก
- มีบันไดที่สามารถเดินไปเชื่อมกันห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 ได้เลยอยู่ที่หน้าบ้าน
ความน่าสนใจของบ้าน Nirvana Beyond : Most
Most คือบ้านที่ใกล้เคียงกับ Pride แต่มีการปรับในส่วนของสระว่ายน้ำส่วนตัว ลิฟต์ และห้องนอนออกไป เหมาะสำหรับครอบครัวที่เล็กกว่า และไม่ได้ต้องการพื้นที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกมากขนาดนั้นในราคาที่สมเหตุสมผล สำหรับรายละเอียดของ Most ได้แก่
- 4 ห้องนอน โดยมี Master Bedroom 1 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
- ห้องนอนใหญ่มีความเป็นส่วนตัวโดยมีสะพานเชื่อมจากห้องนั่งเล่นไปห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2
- มีห้องน้ำทั้งหมด 5 ห้อง
- ห้องนั่งเล่นเพดานสูงถึง 3 เมตร
- ห้องครัว 1 ห้อง
- จอดรถได้ 3 คัน
- มีห้องแม่บ้านอยู่ด้านนอก
- พื้นที่ด้านหลังบ้านสามารถต่อเติมสระว่ายน้ำเองได้