ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ จึงทำให้รถหลายคันจมอยู่ใต้บาดาลในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง วันนี้ MangoZero จึงได้สรุปขั้นตอนที่ควรปฏิบัติหลังจากที่กู้รถยนต์สุดรัก (U.U) ขึ้นมาจากน้ำมาฝากค่ะ
1. อย่าสตาร์ทรถทันทีหลังจากกู้รถขึ้นมาจากน้ำ
อย่าพยายามรีบร้อนติดเครื่องยนต์รถที่โดนน้ำท่วมจนมิดและเพิ่งเอาขึ้นจากน้ำเด็ดขาด เพราะน้ำที่แทรกซึมอยู่ในเครื่องยนต์อาจจะทำให้กลไกภายในตัวเครื่อง เช่น ก้านสูบกับก้านกระทุ้งวาล์วได้รับความเสียหาย
2. ห้ามพ่วงต่อกระแสไฟ
เช่น พ่วงแบตเตอรี่ เพราะจะทำให้ไดชาร์จ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กล่องสมองกลไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) กล่องควบคุมเกียร์หรือระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยเสริมแรงเบรก หรือระบบป้องกันล้อล็อก
รวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบให้ความบันเทิงเสียหายจนใช้งานไม่ได้
3. ถอดสายไฟที่เชื่อมกับแบตเตอรี่ออก
ถ้าเกิดว่าเราไม่สามารถเคลื่อนที่รถก่อนที่น้ำจะท่วมได้ ก็ควรที่จะถอดสายไฟที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ออกทันที และยกแบตเตอรี่ออกจากช่องเก็บ แต่ถ้าเราหนีไม่ทัน ทันทีที่น้ำลดและกู้รถขึ้นมาได้แล้วก็ควรรีบถอดสายแบตเตอรี่ออกอย่างเร็วที่สุด
4. ตรวจเช็กส่วนต่างๆ ของรถยนต์
- ที่เขี่ยบุหรี่ : หากว่ามีน้ำอยู่ในที่เขี่ยบุหรี่ แสดงว่าน้ำคงเข้าไปถึงระบบไฟฟ้าบนหน้าปัดหรือคอนโซล ที่ควบคุมวงจรต่างๆที่แผงหน้ารถแล้ว เราสามารถนำออกมาให้ผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดและเป่าให้แห้งได้ แต่แน่นอนว่าจะเกิดปัญหาของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการใช้งาน
- ระบบส่งกำลัง : ให้ตรวจสอบจากลูกปืนล้อ นำออกมาทำความสะอาดถ้าเจอสนิมให้เปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าไม่เจอให้ทาจาระบีใหม่ทั้งหมด
- ยางหุ้มเพลา : ถ้ายางหุ้มเพลาขาด อาจะมีน้ำเข้าไปแทนที่จาระบีด้านใน ต้องถอดมาทำความสะอาดและเปลี่ยนยางหุ้มเพลาใหม่ พร้อมอัดจาระบีเข้าไป
- ระบบระบายความร้อน เช่น หม้อน้ำ : ต้องถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งและเติมน้ำพร้อมน้ำยาลดอุณหภูมิน้ำตามระดับที่กำหนดในคู่มือรถ
- ระบบเบรก : ดูผ้าเบรก จานเบรก จานคลัตช์ ลูกปืนคลัตช์ให้ดีว่ามีสนิมหรือเปล่า เพราะอาจทำให้เข้าเกียร์ยากหรือเบรกมีเสียงได้
- ระบบของเหลวทั้งหมด : ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำหล่อเย็น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวเหล่านี้ทั้งหมดเลย เพราะว่า ในระบบของเหลวรถยนต์ทั้งหมด จะมีรูที่เรียกว่ารูระบายอากาศ ซึ่งพอน้ำท่วมรถ ก็มีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปผสมในชิ้นส่วนเหล่านี้ได้
- ไฟหน้ารถ : ห้ามมองข้ามเด็ดขาด ต้องเอาน้ำที่ค้างออกให้หมด
5. ทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพรถภายนอก
ให้เปิดประตู ฝากระโปรงรถทั้งหน้าและหลัง ตรวจสอบว่ายางขอบประตูและกระจกชำรุดหรือเปล่า จากนั้นนำผ้ารองพื้นที่ฝากระโปรงท้าย ผ้ายางรองเท้า เบาะ และพรมรองพื้นไปตากเพื่อไล่ความชื้น สำหรับปัญหาที่สําคัญมากของรถที่โดนน้ำท่วมคือ กลิ่นอับที่เกิดขึ้นทั้งในรถและจากช่องฟิลเตอร์ปรับอากาศซึ่งกําจัดได้ยากมากๆ ดังนั้นจึงควรเปิดรถทิ้งไว้จนภายในแห้งสนิทและอาจจะหาสเปรย์ปรับอากาศมาเป็นตัวช่วยในการกำจัดกลิ่น
แต่ถึงแม้ว่าเราจะลองตรวจสอบสภาพรถยนต์ของเราคร่าวๆ และแก้ปัญหาทั้งหมดแล้ว แน่นอนว่ารถที่จมน้ำย่อมไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ดีเท่าปกติ หากว่าใช้งานไปแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติ ก็ควรหยุดใช้รถคันนั้นและส่งเข้าศูนย์ซ่อมโดยด่วนจะดีกว่านะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก