หลายครั้งที่ชีวิตเดินมาถึงทางแยก ไม่ว่าจะเลือกเส้นไหนก็ดูจะเปลี่ยนชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง บางเรื่องทำให้นึกขอบคุณตัวเอง แต่ก็คงมีไม่น้อยที่ได้แต่ปลอบใจเบาๆ ว่าได้บทเรียนชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง แต่พอถึงช่วงเวลาที่ต้องเลือกใหม่ ก็ไม่รู้อีกอยู่ดีว่าที่เลือกไปจะเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นควรจะใช้หลักการเลือกไหนดี? Mango Zero ขอเสนอ 5 กฎที่จะทำให้ตัดสินใจเรื่องชีวิตได้ดีขึ้น มีค่าจริงๆหรือทุกสิ่งเพราะลำเอียง ทุกการตัดสินใจที่ยากลำบาก เกิดขึ้นเพราะเราต้องชั่งน้ำหนักและให้คุณค่ากับสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินที่ต้องเสียไป ความคุ้มค่าทางอารมณ์ที่จะได้รับ และอาจลามไปถึงเรื่องหน้าตาทางสังคม หลายครั้งที่การการให้น้ำหนักกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยาก เพราะเรา “ลำเอียง” และไม่ได้มองในสิ่งที่มันเป็นจริงๆ โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะให้น้ำหนักไปกับสิ่งที่เป็นผลตอบแทนระยะสั้น และมีแรงจูงใจทางอารมณ์สูง ส่วนมากจะอิงกับความเชื่อเก่า หรือเป็นการปกป้องชื่อเสียง (ก็คือไม่ทำอะไรที่จะทำให้ชื่อเสียงเราแย่ลง ต้องมากขึ้นเท่าน้ันนั่นเอง) ดังนั้นก่อนอื่น ต้องยอมรับคุณค่าของมัน จากสิ่งที่เป็น ไม่ใช่สิ่งที่เห็น (และคิด) เมื่อตัดสินใจได้แล้วสิ่งนี้จะทำให้เรามองเห็นภาพความสำเร็จในอนาคตได้ชัดขึ้น แพ้บ้าง (ในบางครั้ง) เคยได้ยินเรื่องราวการเดินทางของธุรกิจรายย่อยบ้างไหม กว่าจะประสบความสำเร็จได้ส่วนใหญ่ล้วนผ่านการล้มเหลวก่อนทั้งนั้น แต่สุดท้ายแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเขานี่โชคดีจริงๆใช่ไหมล่ะ สิ่งที่เราไม่เคยคิดเลยก็คือ ในความล้มเหลวเหล่านั้นเกิดจากการเดิมพันที่ผลลัพธ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าผิดพลาดก็แพ้เลย แต่ถ้าชนะนั่นหมายถึงอนาคตที่สดใสทันที ทุกสิ่งมีความเสี่ยงเสมอ แต่เราจะรับมือหรือลดความเสี่ยงอย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องจัดการเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายมากขึ้น ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดู คิดแบบ “Moonshot Thinking” คือการคิดในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แน่นอนว่าอาจมีจุดอ่อน หรือความเป็นไปไม่ได้มากมาย แต่หากได้รับเลือกสักหนึ่งไอเดีย รับรองว่าจะช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานได้อีกนาน เริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แม้ว่าอาจจะยากลำบาก แต่ก็ถึงเวลาแล้ว เริมต้นจากการอ่านหนังสือยากๆ และพยายามอ่านมันให้จบ หากไม่ชอบการอ่านหนังสือ ก็ลองพยายามเข้าสังคมมากขึ้น แลกเปลี่ยนความรู้ จากผู้มีประสบการณ์ เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนไปอีกแบบ เมื่อถึงช่วงเวลาของการตั้งคำถามกับตัวเอง คำตอบแรกที่ผุดขึ้นมามักจะเป็นการตัดสินใจกับสิ่งที่เห็นผลได้ในระยะสั้น ดังนั้นอย่าลืมเตือนตัวเองให้ใช้เวลาไตร่ตรองให้นานขึ้นอีกนิด ไม่แน่ว่าอาจจะเจอข้อเสียซ่อนอยู่เต็มไปหมดก็ได้นะ ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เหมือนกับตอนเลี้ยงสัตว์ เคยสังเกตบ้างไหมว่าสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง มักมีเจ้าของที่ค่อนข้างมีระเบียบ และถ้าสุนัขที่ดื้อและซนมากๆ ก็เพราะมีเจ้าของตามใจ สิ่งนี้ก็เหมือนกับนิสัยของเรา หากเราไม่มีวินัย หรือบอกตัวเองให้พอในเวลาจำเป็น สุดท้ายแล้วชีวิตก็จะสะเปะสะปะ และไปไม่ถึงเป้าหมายสักที การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ แม้จะรู้ตัวดีว่าต้องทำอย่างไร แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำตามได้ง่าย เพียงเพราะไม่อยากทำ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดซะทีเดียวที่เราจะรู้สึก แต่ผิดแน่นอนหากสุดท้ายแล้วเราเลือกทางนั้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีสมองส่วนของการตัดสินใจเกิดขึ้น และควรฝึกส่วนนี้ให้แข็งแรง รู้ว่าควรและไม่ควรทำอะไร ถ้าไม่กลัวเสียใจ ก็(อาจจะ)ไม่ล้มเหลว ในการตัดสินใจ เรามักพิจารณาทางเลือกที่มีอยู่ วาดภาพว่าถ้าเลือกแต่ละเส้นทางแล้วชีวิตจะเป็นอย่างไร เสียใจหรือผิดหวังกว่าการเลือกอีกทางหนึ่งหรือไม่ คนส่วนใหญ่กลัวความล้มเหลวและความผิดพลาด แต่น้อยคนนักที่จะถามตัวเองว่าจะผิดหวังกับทางเลือกนั้นหรือไม่ เพราะหากเราลองถาม และคำตอบคือไม่ผิดหวัง ก็เป็นการดีที่จะลองเสี่ยงดู จดทุกสิ่งลงไป สิ่งที่ดีที่สุดในการแยกส่วนที่เป็นอารมณ์กับกระบวนการตัดสินใจออกจากกัน คือการจดบันทึก อาจฟังดูง่าย แต่การเขียนจริงๆ แล้วทรงพลังกว่าที่คิด หลังจากเขียนแล้ว ก็ทิ้งไว้สักพัก ก่อนจะกลับมาอ่านอีกรอบ จะทำให้คุณสามารถสรุปหลากความคิด คำสบถ จบเป็นหนึ่งคำคุณศัพท์ และทำให้เริ่มตระหนักได้ว่าความรู้สึกที่ท่วมท้นและดูยิ่งใหญ่นั้น ความจริงแล้วเล็กและลำเอียงเหลือเกิน หรืออาจถึงขั้นเกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ ลองเขียนสิ่งเหล่านี้ลงไปดู อะไรคือประโยชน์ และต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง : เหมือนๆ กับการทำธุรกิจทั่วไป ก็คือต้องแจกแจงออกมาเป็นข้อๆ ว่าต้องลงทุนด้วยอะไรบ้าง ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร แต่ 2020 ทั้งที ก็ต้องทำให้ละเอียดขึ้น ลองเขียนเพิ่มถึง “ประโยชน์” ทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว รวมไปถึงความรู้สึกเสียใจที่อาจจะเกิดขึ้น (เช่น อาจจะเสียใจถ้าไม่ได้ทำ) อะไรคือแรงจูงใจในการตัดสินใจ สิ่งนั้นมีคุณค่าพอที่คุณจะใช้ยึดเหนี่ยวหรือไม่ : ทุกการตัดสินใจของเรา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีที่มาทั้งนั้น บางครั้งก็เป็นเรื่องง่ายมาก เช่น ครอบครัว ความฝัน สภาพเศรษฐกิจ แต่บางครั้งก็ซับซ้อนกว่านั้น เหมือนเริ่มต้นไปแล้วแบบงงๆ และไม่สามารถจบลงได้ เช่น การจะซื้อรถหนึ่งคัน นั่นเป็นเพราะคุณอยากได้มันจริงๆ หรือเพราะเห็นเพื่อนมี เลยอยากจะมีบ้าง ถ้าอย่างนั้นเกิดซื้อมาแล้ว เพื่อนดันขายเพื่อไปซื้อคันใหม่พอดี คุณจะทำอย่างไรต่อ เพื่อป้องกันการเกิดแรงจูงใจที่ไม่ถูกต้อง ก็อย่าลืมจดลงไปเพื่อแจกแจงรายละเอียด เพราะการตัดสินใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่าลืมใส่ความพยายาม และความใส่ใจเพราะทุกเส้นทางที่เลือกไป หมายถึงอีกหนึ่งทางใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิม ที่มา : GETPOCKET