บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ได้จัดแถลงวิสัยทัศน์ 5 ปี (2018-2022) ตอบรับโลกยุคใหม่ ชูแนวคิด “Co-Create Center of Life” และเผยสุดยอด The New Landscape 5 เมกะโปรเจคที่เค้าทุ่มงบกว่า 1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ทางทีมงาน Mango Zero เองก็ได้มีโอกาสไปร่วมฟังในงานนี้และกินฟรีแบบอิ่มแปร้ พร้อมกับนำข้อมูลที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ เรียกว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่จะปล่อยผ่านไปไม่ได้กับการประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี ของเซ็นทรัลที่ผู้บริโภคอย่างเราจะได้เห็นศูนย์การค้ายุคใหม่ ที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเรามากยิ่งขึ้น โดยนายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา ได้กล่าวในงานว่า ในยุค Digital Disruption ที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ ทุกธุรกิจต้องมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลง ซึ่งซีพีเอ็นเรามองการปรับตัวครั้งนี้ว่าเป็น ความท้าทายและโอกาสที่จะทำให้เราได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง วันนี้เราจะสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการค้าปลีกอีกครั้ง ทำให้การมาเดินศูนย์การค้าไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ 5 ปีต่อจากนี้คือ “Co-Create Center of Life” เพื่อทำให้ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นเป็นศูนย์กลางที่ทุกคนมาใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เราจะเห็นอะไรบ้าง เมื่อเป็น Co-Create Center of Life Co-Creating Center of Life เป็นคอนเซปต์ที่แปลตรงตัวตามชื่อเลยครับ คือการทำให้ศูนย์การค้ากลายเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิต คำว่า Co-Create คือการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า และพาร์ทเนอร์ รวมไปถึงผู้เช่าทั้งหมด เพื่อที่จะสร้างสิ่งใหม่และเติบโตไปพร้อมกัน 1. Co-Creating Destination Concepts : ในส่วนนี้จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราจะเห็นได้ชัดเจนที่สุด นั่นคือการทำให้ศูนย์การค้าเป็น Destination โดยการปรับพื้นที่เพื่อให้กลุ่มคนที่มีความชอบคล้ายกัน และจัดกลุ่มสินค้าและบริการที่ segment ตามไลฟ์สไตล์ เรียกง่ายๆ ว่าจากเดิมที่แบ่งโดยใช้ประเภทร้านค้าเป็นเกณฑ์ หลังจากนี้เค้าจะจัดใหม่โดยนำไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ของผู้บริโภคเป็นเกณฑ์ในการแบ่งโซนกลุ่มสินค้าแทน เช่น Sport Destination โซนสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพก็จะมีทั้งเครื่องออกกำลังกาย เสื้อผ้ากีฬา รวมไปถึงอาหารสุขภาพในโซนเดียวกันเลย 2. Co-Creating Digital Platform ที่แข็งแกร่ง : นำ Platform ดิจิทัลมาใช้อย่างเต็มตัว อันนี้สายไอทีอย่างผมชอบมาก เรียกว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ที่แท้ทรู Real-Time Personalized Offer : ใช้ข้อมูล Big Data เข้าถึงลูกค้ากว่า 12 ล้านคนจาก The 1 Card เชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าและบริการของคู่ค้าไปสู่ลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับข้อมูลและโปรโมชั่นต่างๆ ตามความชอบ ความสนใจ Online Experience : สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ ในห้างได้ อย่างเช่น การจองที่จอดรถล่วงหน้า จองคิวร้านอาหาร จองคิวร้านสปา หรือใช้บริการ Food Park แถมไม่ต้องพกเงินสดด้วย Integrated Market Platform: จับมือกับ Central JD เพิ่มช่องทางการขายให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถมาเปิดพื้นที่ในศูนย์การค้า หรือผู้ที่เช่าในศูนย์การค้าก็สามารถเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ได้ พร้อมกิจกรรมโปรโมทเพื่อสนับสนุนธุรกิจของร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้า 3. Co-Creating Partnership : ร่วมทุนกับบริษัทที่มีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เช่น I-Berhad สร้างศูนย์การค้าไอ-ซิตี้, ดุสิตธานี สร้าง Mix-Use Project ยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง, และ IKEA เสริมความเป็น Super Regional Mall ของเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต รวมไปถึงการร่วมกับพาร์ทเนอร์ร้านค้าผู้เช่า เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ . และ 5 เมกะโปรเจคที่เราจะมาเล่าให้ฟังอันได้แก่… 1. เซ็นทรัลเวิลด์ โฉมใหม่ เซ็นทรัลเวิลด์ศูนย์การค้าในดวงใจของคนเมืองที่กำลังแปลงโฉมอยู่ ด้วยคอนเซ็ปต์ Central to Your World ซึ่งถ้าใครได้ไปเดินช่วงนี้จะเห็นว่าบางชั้นจะเริ่มทยอยเป็นรูปแบบใหม่แล้ว เรียกว่าเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่ปรับตามแนวคิด Center of Life เราจะได้เห็น Co-Creating Destination Concepts ที่แบ่งพื้นที่ตามไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจน รวมไปถึง Digital Platform แห่งแรกๆ ของบ้านเรา เซ็นทรัลเวิลด์ โฉมใหม่ เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2561 เตรียมชมกันได้เลย 2. เซ็นทรัล ภูเก็ต เซ็นทรัล ภูเก็ต ใครไม่เก็ต ภูเก็ต ที่จะเพิ่มเฟสใหม่เข้ามาให้ศูนย์การค้าแห่งนี้อยู่ในระดับ A Global Must-Visit Destination ใครมาภูเก็ตแล้วไม่มา ถือว่ายังมาไม่ถึง เน้นทั้งไลฟ์สไตล์ทั้งแบบหรูหรา และกิจกรรมสันทนาการ มีการแสดงระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่าง ‘ไตรภูมิ’ ธีมปาร์ค รูปแบบใหม่ครั้งแรกของโลกที่จะสร้างประสบการณ์ผจญภัยแบบ 3D walkthrough และ ‘Aquaria’ ซึ่งจะเป็น อควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมไปถึง Food Destination สุดอลังการที่โคตรใหญ่ โคตรครบ พื้นที่แต่ละเฟสของเซ็นทรัลภูเก็ตจะเชื่อมกันด้วย Sky Link แบบที่ใช้กันในสนามบินด้วย โคตรเท่ 3. เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ เรียกว่าเป็นโครงการเล่นใหญ่ของเซ็นทรัล เพราะนี่คือศูนย์การค้าแห่งแรกในต่างประเทศ โดยทางเซ็นทรัลได้ร่วมมือกับภาครัฐของประเทศมาเลเซีย เปิด เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ อยู่ใน Mix-Use Project ขนาดใหญ่ใกล้กัวลาลัมเปอร์ พื้นที่ทำเลงามของประเทศมาเลเซีย ที่รัฐของมาเลเซียผลักดันให้เป็น Destination แห่งการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่สุด เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้คาดว่าจะเสร็จในช่วงปลายปี 2561 4. เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา ถัดไปทางด้านเหนือของภาคกลาง เมืองแห่งประตูสู่กาลเวลาที่ทางเซ็นทรัลจะนำเอกลักษณ์กลิ่นอายของจังหวัดอยุธยาเมืองมรดกโลกเข้ากับความร่วมสมัย ถือเป็นจุดแวะพักที่ดีที่สุด เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย ก่อนถึงทางแยกต่างระดับอยุธยา มีพื้นที่โครงการ 150,000 ตร.ม. มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท มีห้างสรรพสินค้าโรบินสันเป็นตัวหลัก ร่วมด้วยร้านค้าปลีกในกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ท็อปส์, เพาเวอร์ บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส ฯลฯ เห็นเค้าว่า Food Destination ที่นี่ก็จะเล่นใหญ่เช่นกันสำหรับเมืองแห่งกุ้งแม่น้ำ ก็คาดว่าจะได้เห็นร้านกุ้งแม่น้ำเจ้าดังหลายเจ้าบนห้างแห่งนี้แน่นอน และยังมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าของฝากอยู่ด้านหน้าศูนย์การค้าอีกด้วย เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2562 รอชมกันได้เลยออเจ้า 5. เซ็นทรัล วิลเลจ เซ็นทรัล วิลเลจ ศูนย์การค้าสุดหรูลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลก เน้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและแบรนด์ไทย ด้วยส่วนลด 35-70% โดยตั้งเป้าไว้ว่าเป็นสถานที่ must visit ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งเค้ายึดทำเลทองแห่งนี้ไว้ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยพื้นที่โครงการ (GLA) 40,000 ตร.ม. จึงเป็นแหล่งช็อปปิ้งอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน เซ็นทรัล วิลเลจ คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562