“พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ~” หลายๆ คนน่าจะเคยฟังหรือเติบโตมากับเพลงนี้ในช่วงหนึ่ง และเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่มีนิสัยเหมือนอย่างในเนื้อเพลง หากไม่ได้พูดคำว่า “รัก” ออกไป จะเท่ากับว่าไม่รักหรือเปล่า? ขอตอบเลยว่าไม่ใช่! เพราะการแสดงความรักนั้นมีวิธีอื่นๆ มากมายนอกเหนือจากคำพูด วันนี้แมงโก้จึงขอพาทุกคนมารู้จักกับ “Love languages” หรือ “ภาษารัก 5 แบบ” คิดค้นขึ้นโดย Gary Chapman ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ ใครชอบการบอกรักสไตล์ไหน และชอบรับความรักด้วยวิธีใด มาร่วมสำรวจตัวเองและคนรอบข้างเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยืนยาวกันได้เลย~ 1. รักแบบตะโกน!!! (Words of Affirmation) เริ่มกันที่วิธีแรกกับการบอกรักตรงๆ ผ่าน “คำพูด” ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่คำว่ารักเสมอไป แต่ยังรวมไปคำชื่นชม ขอบคุณ ให้กำลังใจ “รักนะ!” “เก่งมาก!” “ทำได้แน่นอน!” ในวันที่เหนื่อยล้าหากได้ถ้อยคำดีๆ สักคำจากคนรักหรือคนรอบข้าง เท่านี้ก็อาจเติมเต็มหัวใจของใครบางคนให้มีแรงไปอีกนาน 2. ใช้เวลาร่วมกันอย่างคุ้มค่า (Quality Time) วิธีที่สองคือการบอกรักผ่านการ “ใช้เวลาและมีส่วนร่วม” กับกิจกรรมตรงหน้าไปด้วยกัน ไม่ว่าจะกินข้าว ดูหนัง หรือแม้กระทั่งการนั่งพูดคุยกัน ขอเพียงแค่อีกฝ่ายปิดจอมามองตากัน เพียงเท่านั้นก็ทำให้ทุกๆ ครั้งที่พบกันเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีได้แล้ว 3. กอดกันวันละนิด (Physical Touch) ขอกอดหน่อย~ ไหนใครเป็นแบบนี้บ้าง?! เวลาอยู่กับแฟนทีไรต้องได้จับมือ ได้กอด ได้หอมแก้ม หรือบางครั้งนั่งอยู่ไม่ไกลขอส่งมือไปแตะตัวไว้ให้อุ่นใจก็ยังดี ทั้งหมดนี้คือวิธีบอกรักผ่าน “การสัมผัส” ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือ “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ทำให้เรารู้สึกผูกพันและไว้เนื้อเชื่อใจอีกฝ่ายนั่นเอง 4. บริการทุกระดับประทับใจ (Act of Service) อีกหนึ่งรูปแบบการบอกรักที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้คือการบอกรักผ่าน “การกระทำ” บางคนอาจชอบที่จะดูแลแฟนและคนรอบข้างให้สุขสบายดุจเจ้าชาย-เจ้าหญิง ไม่ว่าจะทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน ช่วยยกของ ช่วยทำงาน หรือสิ่งอื่นใด เพียงแค่เอ่ยปากก็พร้อมจะทำให้ หรือบางทีก็พร้อมเสิร์ฟความรักให้แบบไม่ต้องพูดเลยด้วยซ้ำ! 5. รักคือการให้ (Giving Gifts) การบอกรักแบบสุดท้ายคือการบอกผ่าน “ของขวัญ” ไม่ว่าจะวาเลนไทน์ วันครบรอบ วันเกิด หรือเทศกาลไหนๆ ก็ต้องมีของติดไม้ติดมือมาฝากไม่ขาด ซึ่งของขวัญในที่นี้ก็ไม่ได้แปลว่าต้องราคาแพง หรือชิ้นใหญ่เบิ้มเสมอไป เพียงของเล็กๆ น้อยๆ อย่างดอกไม้สักดอก หรือการ์ดสักใบที่สื่อถึงความใส่ใจ เพียงเท่านั้นก็อาจทำให้ใครใจฟูไปได้ทั้งวันแล้ว ภาษารักทั้ง 5 อย่างนี้เป็นรูปแบบที่ผู้คนรู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่แท้จริงแล้วการบอกรักยังอาจมีรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับความต้องการและการสื่อสารในแต่ละความสัมพันธ์ การเรียนรู้ภาษารักของตนเองและของคนรอบข้างจะช่วยให้เรารักษาความสัมพันธ์ได้ยืนยาว เพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจความต้องการของตนเองและเข้าใจกันและกัน ในบางครั้งการที่คนคนหนึ่งไม่ได้พูดตรงๆ ว่ารักเรา อาจเป็นเพราะเขากำลังแสดงความรักด้วยวิธีอื่นอยู่ก็ได้ แล้วภาษารักของทุกคนเป็นแบบไหน? มาร่วมค้นหาหัวใจแล้วแชร์คำตอบกันไว้ได้เลย~ ที่มา: Urbinner, simplypsychology, มูลนิธิยุวพัฒน์