หนึ่งในสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ประสบปัญหามากที่สุดก็คือการไม่รู้ว่าแต่ละเดือนของตัวเองเหลือเงินเท่าไหร่เพราะไม่รู้รายจ่ายของตัวเองที่ชัดเจน นั่นทำให้เกิดปัญหาตามมานั่นคือไม่รู้ว่าตอนนี้มีรายจ่ายได้บ้างที่เป็นรายจ่ายประจำ รายจ่ายไหนเป็นรายจ่ายไม่จำเป็น ไม่รู้ว่าแต่ละเดือนควรใช้เงินเท่าไหร่ จนทำไมไม่มีเงินเก็บ แม้จะอยากเก็บเงินก็ตาม แค่กลับเก็บเงินไม่ได้ ปัญหานี้ไม่ยากขอเพียงแค่เราให้เวลากับตัวเองในการจัดการเรื่องรายจ่ายทั้งหลายด้วยการทำรายรับรายจ่าย ขอแค่ทำอย่างสม่ำเสมอในทุกเดือนแล้วคุณจะพบกับข้อดีและชีวิตที่เปลี่ยนไปขอแค่เริ่มต้นจดบันทึกรายรับ รายจ่ายในทุกวันแล้วสรุปในทุกเดือน สามารถรู้รายรับ – รายจ่ายประจำได้ทุกเดือน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีรายรับ รายจ่าย ที่ต้องจ่ายประจำอยู่แล้วในทุกเดือนตั้งแต่ค่าน้ำมัน ค่ารถไฟฟ้า ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิต ค่านั่นนี่นู่นที่ดูแล้วยังไงก็ต้องจ่ายทุกเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายประจำนั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ ของมนุษย์เงินเดือนที่หนีไม่พ้น ข้อดีของการรู้ค่าใช้จ่ายประจำก็คือทำให้เราสามารถวางแผนในการ ‘ลด’ ค่าใช้จ่ายประจำที่อาจไม่จำเป็นได้ เช่น มีค่าฟิตเนสที่ต้องจ่ายรายเดือนละ 3,000 บาท แต่เล่นไม่คุ้มก็อาจตัดฟิตเนสออกไปจากรายจ่ายประจำ หรือสมัครฟิตเนสที่ราคาถูกกว่าเพื่อลดรายจ่ายลงไป อย่างน้อยมีเงินเหลือเดือนละ 1,000 บาทก็ดีกว่าไม่เหลือ ไม่สับสนเรื่องที่มาที่ไปของเงิน มนุษย์เงินเดือนทุกคนเคยประสบปัญหา “เฮ้ย! ตอนนั้นจ่ายเงินค่าอะไรไปวะ 2,800 บาท” หรือบางทีไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอจ่ายเงินซื้ออะไรสักอย่างไป แต่โวยวายว่า เงินหายไปไหน เงินหายไปหนายยยยยยยยย แต่ถ้าคุณได้ทำรายรับรายจ่ายทุกวัน เราจะรู้ได้ทันทีว่าเงินหายไปไหนแค่เปิดบันทึกของเรามาดูจบเลย นอกจากปัญหาเรื่องเงินหายไปไหนแล้ว ปัยหาเงินเพิ่มมาจากไหนก็เป็นปัญหา เพราะบางทีเราได้รับเงินมาจากจ็อบนอก หรืองานฝิ่น แล้วเผลอใช้ไปจนหมดโดยไม่รู้ตัวหรืออาจจะรู้ตัว แต่ก็ลืมไปแล้ว มารู้ตัวอีกทีอ้าว…เราได้เงินก้อนนั้นไปแล้วเหรอ แล้วเงินไปไหนหมดวะตายแล้วววว รู้รายจ่ายที่ไม่จำเป็นและจัดการได้ รายจ่ายที่ไม่จำเป็นคือสิ่งที่ทำให้เราหมดเงินไปอย่างไม่จำเป็นเช่นกัน การทำรายรับรายจ่าย แล้วเอามาสรุปในช่วงสิ้นเดือนจะทำให้เรารู้วินัยทางการเงินของตัวเองว่าเดือนนี้เราผิดพลาดที่ตรงไหน ทำไมเงินถึงเหลือเก็บน้อยกว่าที่คิดหรือไม่เหลือเก็บเลย อาจจะไม่สามารถทำให้เราได้เงินที่เสียไปเพราะหน้ามืดกลับมาได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเตือนสติตัวเองได้ว่า…เดือนหน้าอย่าหน้ามืด วางแผนอนาคตทางการเงินโดยไม่พลาด การทำรายรับรายจ่ายก็เหมือนการรู้อนาคตล่วงหน้าเหมือนมี Eye of Agamotto ของ ดร.สเตรนจ์ เพราะเราสามารถมองเห็นว่าแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องจ่าย เมื่อตัดรายจ่ายออกไปแล้ว ที่นี้เราจะมองเห็นเงินเหลือของแต่ละเดือนอย่างชัดเจน เมื่อเห็นอนาคตล่วงหน้าว่าเดือนนี้มีเงินเหลือเท่าไหร่ ก็วางแผนการใช้ชีวิตให้ไม่วู่วามได้มากขึ้นรายจ่ายไม่จำเป็นก็จะไม่เกิด เพราะเรารู้ลิมิตของตัวเอง มีวินัยทางการเงิน และมีเงินเก็บ การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และมีการสรุปทุกเดือนจะทำให้เรามีวินัยในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น และยังทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าไม่ได้ทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้นในทันทีเพราะมีหนี้คงค้างอยู่ แต่ก็ทำให้เราสามารถบริหารหนี้ได้ และสามารถบริหารจัดการได้ว่าจะเคลียร์หนี้หมดได้ช่วงไหน แล้วเปลี่ยนจากเงินที่จ่ายหนี้ มาเป็นเงินเก็บได้ช่วงไหน เมื่อมีวินัยทางการเงินที่ดี มีแผนในการบริหารรายจ่าย และรายรับของตัวเอง เราก็สามารถสร้างเงินเก็บของเราได้