Mango Zero

กักตัวก็แค่เกือบตาย! 5 หนังแห่งความเปลี่ยวเหงาและเอาตัวรอด ที่ขอแนะนำ

กักตัวไม่กลัวตาย! 5 หนังแห่งความเปลี่ยวเหงาและเอาตัวรอด ที่ขอแนะนำ 

ช่วงไวรัส Covid-19 ระบาดอย่างนี้ นอกจาก ‘Work from Home’ เรายังเห็นคำว่า ‘Isolation’ บ่อยมาก – ดิกชันนารีนิยามความหมายมันในภาษาไทยไว้ว่า ‘การแยกออก’, ‘ความโดดเดี่ยว’, ‘การปลีกตัวออก’ หรือแม้แต่ ‘การแยกผู้ป่วยไว้ต่างหาก’ อะ ก็เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้แหละเลยเห็นบ่อย 

แต่รู้ไหมว่า เรายังพบคำนี้ในโลกภาพยนตร์ด้วยนะ หนังหลายเรื่องเลือกเล่าเรื่องราวการ ‘เอาตัวรอด’ ของตัวละครที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาในสถานที่และสถานการณ์แตกต่างกัน และหลายเรื่องที่ว่า ก็เป็นหนังดีในดวงใจคอหนังด้วย! (กูเกิลว่า Films about isolation เลย เพียบ) 

Mango Zero ขอแนะนำ 5 เรื่องนี้ สำหรับคนที่ต้องกักตัวอยู่บ้านจนจะเหงาตายแล้ว มาดูตัวละครในหนังเหล่านี้กันดีกว่า ว่าเขามีวิธีจัดการกับความเหงาและเอาชีวิตรอดกันยังไง 

Cast Away (2000) ติดเกาะร้างกับลูกยางเพื่อนรัก

นึกถึงหนัง Isolation ยังไงก็ต้องนึกถึงหนังของผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเม็กคิส เรื่องนี้ก่อนเรื่องอื่น  

ทอม แฮงค์ส แปลงร่างเป็น พนักงานระดับสูงของFed ex ชื่อ ชัค โนแลน ที่ถึงคราวซวย ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกจนต้องไปติดเกาะร้างแต่เพียงลำพังนาน 4 ปี 

เขาพยายามทุกทางที่จะออกจากเกาะ ไปพร้อมๆ กับเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ด้วยตัวคนเดียว โดยมีสิ่งของจากกล่องพัสดุที่ติดสอยมากับเขา ช่วยดำรงชีวิต หนึ่งในนั้นคือลูกวอลเล่ย์บอลจากบริษัทวิลสัน

เพราะเหงาแหละ ชัคเลยวาดใบหน้าด้วยมือเปื้อนเลือดของเขาบนลูกวอลเล่ย์ ตั้งชื่อให้มันว่าวิลสัน และเริ่มพูดกับมันเพื่อคลายเหงา จนเจ้าลูกยางกลายเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของชัค กระทั่งความพยายามในการกลับขึ้นฝั่งของชัคเป็นผลสำเร็จ

ใครที่กำลังเหงา ลองทำตามนายชัคดู หาลูกบอลหรือลูกอะไรสักอย่างที่บ้านมาวาดหน้าวาดตา ตั้งชื่อ แล้วคุยกับมันนะ น่าจะช่วยให้หายเหงาได้ไม่มากก็น้อย

 

127 Hours (2010) ติดเขาต้องไม่เฉาตาย

เจมส์ ฟรังโก้ พาตัวเองเข้าไปชิงออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ครั้งแรกแรกและครั้งเดียวเพราะติดเขา! 

ในหนังสร้างจากเรื่องจริงของ อารอน ราลสตัน (ฟรังโก) นักปีนเขาที่ถึงคราวเคราะห์ ติดอยู่ในซอกหลืบหินในร่องหุบเขาที่ยูท่าห์แต่เพียงลำพัง มีแต่ความเวิ้งว้างว่างเปล่าเป็นเพื่อน ออกไปก็ไม่ได้ ตะโกนเรียกก็ไม่มีใครได้ยิน อาหารกับน้ำก็มีจำกัด 

นอกจากการแสดงของฟรังโกที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่องแล้ว (เพราะเล่นแทบจะคนเดียวเลย) หนังยังโดดเด่นที่ความสมจริง ถ่ายทอดชีวิตตลอด 127 ชั่วโมงของราลสตันได้น่าอึดอัดดีแท้ และก็ชวนเราคิดต่อว่า ถ้าเป็นเราที่ต้องติดอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา จะกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ช่วยให้มีชีวิตรอดออกไป เหมือนเขาหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ ดูจบแล้วมันชาๆ ที่แขนยังไงไม่รู้แฮะ

 

The Revenant (2015) วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า

เปลี่ยนบรรยากาศมากักตัวในป่ากับพรี่ลีโอกันดีกว่า ในหนังดีการันตีด้วยการเข้าชิง 12 ออสการ์ จูงมือเราเข้าไปด้อมๆ มองๆ การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของ ฮิวจ์ กลาส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ในยุคแห่งการล่าสัตว์เพื่อความมั่งคั่ง 

กลาสคือนักสำรวจผืนดินผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนถูกเพื่อนร่วมทีมทอดทิ้งไว้กลางอากาศที่เลวร้าย ภัยธรรมชาติ และชนเผ่าพื้นเมือง แต่ฮิวจ์ที่ราวกับตายทั้งเป็น กลับยังมีชีวิตรอด เขาจึงออกเดินหน้าล้างแค้นผู้ที่ทำกับเขาไว้อย่างเจ็บแสบ แบบทบต้นทบดอก

แต่กลาสก็ไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบ ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร หนังพาเราไปเจอน้องๆ สัตว์ที่ใกล้สูญพันธ์ไปแล้วอย่าง กวางมูส ควายไบซัน หมีกริซซี่ ซึ่งไม่ได้มาเปล่า แต่มาเพื่อเพิ่มดีกรีความมันส์ของการเอาตัวรอดของนายกลาส ให้ยิ่งลุ้นระทึกกว่าเดิม

แต่สุดท้ายนายพรานพระเอกของเราก็รอดออกจากป่า มาคว้าถ้วยออสการ์กลับไปนอนกอดสมใจ ถ้าถามว่ากักตัวยังไงให้ได้รางวัล ขอให้ดูเรื่องนี้เลย

 

The Martian (2015) เหงาเท่าอวกาศ

สงสารนายแมตต์ เดม่อนจับใจ โดนเทที่ไหนไม่โดน มาโดนบนอวกาศ! ในหนังของผู้กำกับรุ่นใหญ่ ริดลีย์ สก็อตต์ ถ่ายทอดเรื่องราวของทีมสำรวจดาวอังคารที่เจอพายุใหญ่บนดาวจนต้องรีบอพยพกลับโลก แต่ วัตนีย์ (เดม่อน) กลับหายตัวไปจนใครๆ ก็คิดว่าเขาตายแล้ว

แต่เปล่าเลย! ไม่ตายโว้ย วัตนีย์ต้องพยายามเอาตัวรอดบนยานอวกาศด้วยตัวเองก่อนที่เสบียงอาหารจะหมดไป จนทำให้เขาต้องตายจริงๆ

สิ่งที่เขาต้องทำคือการประทังชีวิตต่อไปจนกว่าจะมียานช่วยเหลือมาถึงในอีก 4 ปี โดยใช้สิ่งที่มีรอบตัว บวกกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์และพฤกษศาสตร์

และความมุ่งมั่น พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ พยายามมีความสุขและความหวังอยู่เสมอ ว่าสักวันเขาจะได้กลับไปยังที่ๆ เขาเรียกว่าบ้าน

นี่คือหนังกักตัวฟีลกู้ดที่ส่งตรงมาจากดาวอังคาร ทั้งสนุกสนาน และจับหัวใจ 🙂

 

All is Lost (2013) โดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเล

จะเป็นยังไงถ้าเรานอนกลางวันอยู่ดีๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนเรือยอร์ชที่ดันไปชนกับตู้คอนเทนเนอร์รองเท้าผ้าใบกลางทะเล จนเรือเป็นรูโหว่ – เหมือนหนังที่ชวนเราออกทะเลไปกับปู่โรเบิร์ต เรดฟอร์ด ผู้รับบทชายชราที่ต้องเอาชีวิตรอดบนเรือที่ทั้งเครื่องนำทางและวิทยุสื่อสารเสีย แต่เพียงผู้เดียว

สิ่งที่เขายังเหลือคืแผนที่นำทางไปยังจุดหมาย และใจที่สู้ไม่ถอย พร้อมรับมือกับธรรมชาติแสนใจร้าย ด้วยความหวังว่าคลื่นลมจะพัดพาเขาไปยังดินแดน 

แต่เสบียงก็เริ่มร่อยหรอ ไหนจะฉลามที่ว่ายวนรอรับประทานเขาอีก! 

หนังเหมือนจูงมือเราขึ้นไปนั่งบนเรือชมชีวิตของชายแก่แบบหนีไปไหนไม่ได้ แต่กลับไม่เบื่อเลย ทั้งยังลุ้นซะอีกว่าเขาจะรอดออกไปจากวิกฤตนี้ยังไง ว่าแล้วก็ขอคารวะการแสดงชั้นครูของปู่เรดฟอร์ด ที่จัดการบทที่ยากที่สุดในรอบหลายปีของเขาได้อย่างอยู่มือ เหมือนจะบอกเราว่า นี่…รุ่นใหญ่เขาแสดงกันอย่างนี้ ดูไว้!

เลือกซื้อโทรทัศน์ที่มีความคมชัด เพื่อการดูหนังที่สมจริงได้ ที่นี่