โดยปกติแล้ว สินค้าจากการ์ตูนที่เป็นเมอร์แชนไดส์ส่วนใหญ่ จะขายได้ต้องมีความผูกพันร่วมกันระหว่างสินค้าและผู้ซื้อทางจิตใจมาก่อน เช่นเคยดูอนิเมชั่นหรือดูการ์ตูนมาก่อน พอไปเจอสินค้าต่างๆ เวลาเดินห้างเช่น เครื่องสำอางลายเซเลอร์มูน หรือ กระเป๋าลายแฮรี่พอตเตอร์ หรือเคสมือถือลายกันดั้ม วันพีช ดราก้อนบอล หรือสตาร์วอร์ เราก็จะควักตังซื้อได้โดยง่าย เพราะว่าเราชอบมันมาก่อนหน้านี้
แต่มีอีกหลายครั้งที่คุณสุภาพสตรีทั้งหลายตกเป็นเหยื่อการตลาดยามเดินผ่านร้านกิ๊ฟช้อปต่างๆ ในร้านพวกนี้มักจะมีสินค้าเมอร์แชนไดส์ของตัวการ์ตูนทั้งหลายที่ชวนเสียเงิน ซ่อนตัวอยู่เต็มร้านไปหมด โดยมี 5 ลายตัวการ์ตูนยอดฮิตในยุคนี้ ที่คุณทนความน่ารักของพวกมันไม่ไหว โดนสะกดจิตให้ควักกระเป๋าตังมาเพื่อซื้อมันโดยบางคนยังไม่รู้ที่มาที่ไปของมันด้วยซ้ำ รู้แต่ว่ามันตัลล๊าก~ ♥ …ซื้อแม่มเลย ถถถ+
ริลักคุมะ (Rilakkuma)
เจ้าหมีรีลักคุมะ ผลิตคาแรคเตอร์โดยบริษัท san-x ของญี่ปุ่น ถูกออกแบบมาตั้งกะเดือนกันยายนปี 2003 และเริ่มมีของเมอร์แชนไดส์ตั้งกะปีแรกๆ ที่เปิดตัว ส่วนอนิเมชั่นที่เป็นเรื่องราวของริรัคคุมะเพิ่งจะมีตามหลังมาเมื่อตอนปี 2008 นี่เอง
เรื่องราวในอนิเมชั่นส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าหมีคุมะนอนนิ่งๆ กลิ้งไปกลิ้งมาไม่ต่างจากการดูช่องแพนด้าชาแนลของหลินฮุ่ยและช่วงๆ ซักเท่าไหร่นัก แต่ก็กลับเป็นที่ถูกจริตของสาวๆ นักแล โดยเฉพาะแฟนผู้เขียนที่ชอบไอ้เจ้าหมีตัวนี้มาก เนื่องจากกลับบ้านมาก็นอนกลิ้งๆ ตรงกับการใช้ชีวิตของเธอเด๊ะ เพราะเหตุนี้เลยทำให้เจ้าหมีคุมะฮิตไปโดยปริยาย
คุมะมง (Kumamon)
ต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้ร้านกิ๊ฟช้อปในไทยเกือบทุกที่ต้องมีคุมะมงเป็นหนึ่งในสินค้าภาคบังคับภายในร้าน…เสียงจากแม่ค้าส่วนใหญ่ตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ก็คุมะมงมันขายง่ายอ่ะ” >___<
คุมะมงถูกสร้างโดยทางการท้องถิ่นจังหวัดคุมะโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่น ออกแบบโดยคุณ โคยามะ อาชีพฟรีแลนซ์ เพื่อผลักดันให้คุมะมงเป็นมาสคอต (ที่ยังไม่มีชีวิต) ประจำจังหวัดคุมะโมะโตะ ตั้งแต่ปลายปี 2010 โดยคุมะมงเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกพร้อมกับเส้นทางการเดินรถไฟสายคิวชูตอนต้นปี 2011 (คุมะมงก็ถูกเพ้นต์ลายลงในโบกี้รถไฟด้วย)
และหลังจากการเปิดตัวครั้งนี้ เจ้าหมีคุมะมงก็กลายเป็นที่นิยมในเวลาอันรวดเร็ว เริ่มมีสินค้าเมอร์แชนไดส์ลายคุมะมงออกวางจำหน่ายมากมาย (แม้กระทั่งเหล้าก็ยังมีให้ตายซิ) และคุมะมงเริ่มมีมีชีวิตเป็นตัวมาสคอตแบบคลิปวีดิโอเข้าไปป่วนชาวโลกตั้งแต่ปี 2012 นั่นเอง
ปอมปอมพูริน (Pom pom purin)
เจ้าหมาสีทอง…ใช่ครับ เจ้าปอมปอมพูรินมันเป็นหมา แถมเป็นลูกหมาหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ซะด้วย ออกแบบโดยบริษัท Sanrio เริ่มเปิดตัวและเป็นสินค้าเมอเชนไดร์ตั้งกะปี 1996 แต่เพิ่งมีอนิเมชั่นให้คนรู้จักเมื่อตอนปี 2006 ปัจจุบันมีคาเฟ่ทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงค์โปร และที่อื่นๆ อีกมากมาย (จริงๆ บริษัทนี้มีสินค้าเมอเชนไดส์ที่คนไทยนิยมอีกเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นคิตตี้, กบเคโระ, แบดแบดซึมารุ ฯลฯ แต่โดยส่วนใหญ่การ์ตูนดังก่อน ของขายค่อยตามมา มีอีปอมปอมพูรินนี่แหละที่ของขายมาก่อนการ์ตูน)
บีดั๊ก (B.Duck)
เป็ดน้อยบีดั๊กซ์ถูกออกแบบเมื่อปี 2005 โดยดีไซน์เนอร์ชาวฮ่องกงชื่อคุณเอ็ดดี้ ชื่อจีนชื่อว่าเสี่ยว ชื่อไทยคือเสี่ยวโคตรๆ (อันนี้มั่ว 55+) เริ่มมีสินค้าเมอร์แชนไดส์ลายเป็ดหน้ามึนออกมาตั้งกะปีแรกๆ ที่เปิดตัว และเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อปี 2012 ได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน Comic-Con ที่ฮ่องกง และในปี 2015 ดังระเบิดจนมาเปิดคาเฟ่ในไทยแถวสยามสแควร์ เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ทั้งหลาย
ส่วนอีเจ้าเป็ดยักษ์ลอยน้ำที่โด่งดังเป็นไวรัลในบ้านเราเมื่อสองสามปีที่แล้ว จนคนต้องไปถ่ายรูปกะมันกันใหญ่โต…มันเป็นคนละตัวคนละเจ้ากันเลยจ้า ไม่เกี่ยวกันเลย ไม่ใช่บีดั๊กแต่แค่หน้าตาเหมือน 555 เรื่องนี้เลยทำให้บีดั๊กได้อานิสงค์ความป็อปของมันไปเช๋ยๆ แบบไม่ต้องใช้งบการตลาดใดๆ ดวงดีโคตรๆ
บาร์บี้ (Barbie)
ถือเป็นตุ๊กตาต้องคำสาปที่ผลิตโดย บริษัท แมทเทล ชาวอเมริกัน ตั้งกะปี 1959 โดยผู้ผลิตเสกคาถาเอาไว้ว่าบ้านไหนมีลูกสาว ต้องมีมัน ตอนแรกๆ บริษัทนี้ก็ทำขายแต่ตุ๊กตาเท่านั้นแหละ แต่หลังๆ เริ่มลามไปยังห่วงยาง, แก้วน้ำ,ของแต่งรถ, หมวก, ของเล่นเด็ก, กระเป๋าสะพาย, ยาทาเล็บ, รองเท้าส้นสูง อุปกรณ์เสริมสวย โอ้ย อีกสารพัด ของขายนางมากมายขนาดนี้ แต่กว่าจะเป็นมีเรื่องราวเป็นอนิเมชั่นก็ปาเข้าไปปี 1987 นู้นแหน่ะ
ซึ่งอนิเมชั่นไม่มีผลกับยอดขายโดยตรงซักเท่าไหร่ เพราะเคยถามหลานหลายๆ คนว่ารู้จักบาร์บี้เพราะอะไร คำตอบที่ได้มักจะเหมือนกันเกือบหมด คือเพราะเธอสวย เธอปัง บาร์บี้นางเป็นตัวแม่สำหรับเด็กน้อยมาทุกยุคทุกสมัย สตอรี่ไม่ต้องมี เชื่อเถอะ ซื้อมาเลย เดี๋ยวลูกคุณจินตนาการเองได้
ย้อนเวลาถึงวัยเด็กด้วยสินค้าจาก Barbie ให้หายคิดถึง -> สินค้า Barbie
ที่มารูป
https://osaka-map.com/spot/rilakkuma-store/
http://littlemissbento.com/2015/12/character-cafes-japan-tokyo/
https://www.pinterest.com/source/barbiestore.com.ph
https://www.entrepreneur.com/article/276710