ถ้าพูดถึง เดี่ยวไมโครโฟน แล้วล่ะก็ พี่โน้ต อุดม แต้พานิช ก็น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง และในเดี่ยวหลายๆ ครั้ง ที่ผ่านมา นอกจากทักษะและฝีมือที่พี่โน้ตได้โชว์ออกมาเป็นภาพจำแล้ว ยังมีเรื่องของประโยคจำที่เรียกได้ว่า พูดกันติดปากในช่วงที่มีการแสดงเดี่ยวฯ หรือ ตอนแผ่นวางขายแล้วเป็นประจำ วันนี้เราจะมารวมมิตรประโยคเด็ดจากเดี่ยวของชายคนนี้กันดีกว่าฮะ
หากพวกเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน
ประโยคซิกเนเจอร์ที่อุดมชอบพูดก่อนจะทำการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนแทบจะทุกครั้ง เป็นวลีที่ดูเหมือนว่าเล่นๆ กัน แต่จริงๆ แล้วที่มาของประโยคนี้ต้องย้อนกลับไปสมัยเดี่ยว 1 เนื่องจาก Stand Up Comedy ในประเทศไทยเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ บวกกับความวิตกกังวลของอุดม และการสังเกตคนที่มาดูในตอนนั้นหลายคน ทำท่ากอดอก (ซึ่งในทางจิตวิทยาคือการแสดงออกถึงการปิดกั้น) อุดมเลยหาทางหลอกให้คนดูปรบมือด้วยการกล่าวประโยค “หากพวกเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน” ออกมาเพื่อวัดว่าคนดูจะเล่นด้วยรึเปล่า…
ซึ่งผลที่ออกมาคือ คนดูปรบมือ “แปะ แปะ” กลับมาจนทำให้อุดมพูดประโยคทีเล่นทีจริงออกมาว่า “สัญญาณปลอดภัยเริ่มต้นขึ้นแล้ว” และตำนานเดี่ยวฯ ของอุดมก็ได้เริ่มต้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ที่มา : หนังสือ 16 ปีแห่งความโดดเดี่ยว
Fun Fact : จริงๆ แล้วอุดมไม่ได้ชวนให้ทุกคนมาปรบมือทุกครั้งอย่างที่เราเข้าใจกันเพียงท่าเดียว แต่ยังชวนให้คนดูเล่นอะไรต่างๆ ตามสมัยนั้น เช่น ตอนเดี่ยว 3 (อ.อุดมการช่าง) มีการชวนให้ปรบมือแบบ ปุ๊กกี้ ปริศนา กับเพลง “Sha-La-La” , เดี่ยว 6 (ตูดหมึก) ก็ชวนให้ทุกคนมา “ตบตูด” กัน, เดี่ยว 7 สลับหน้าที่กัน ให้คนดูเป็นคนพูดและอุดมเป็นคนปรบมือแทน
Can I have some Pepsi?
ในเดี่ยว 2 (โชว์ห่วย) อุดมได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ตัวเองเจอตอนไปออสเตรเลียไว้เต็มไปหมด และได้พูดถึงช่วงที่ตัวเองไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั้นด้วย และประโยคหากินที่อุดมได้จากตอนเรียนคือ “Can I Have Some… “ ถ้าอยากกินอะไร ก็เติมต่อท้ายประโยค เช่น Can I have some Pepsi? แต่ถ้าอยากได้ทีวี ก็จะเป็น Can I Have Sumsung (Samsung) ? อะไรก็ว่าไป
ซึ่งประโยคนี้ก็เอามาเล่นกับคนดูด้วยการแจกน้ำกระป๋อง แต่ข้อแม้คือต้องพูดประโยคข้างบนเพื่อแลกไว้กินระหว่างดู
Do you like Pop Music? I don’t like pop music.
แน่นอนว่า นอกจากประโยคคำถามแล้ว เจ้าสองประโยคนี้ก็น่าจดจำเช่นกัน เป็นประโยคที่เกิดขึ้นตอนที่อุดมเล่าประสบการณ์การนั่งรถรางเข้าบ้านผีสิงที่ออสเตรเลีย ซึ่งตอนนั้นอุดมถูกฝรั่งถามอะไรซักอย่างที่ตัวเองจำใจความไม่ค่อยได้ (แต่ได้ยินว่าฮาร์ทๆ น่าจะเกี่ยวกับหัวใจ) ด้วยความที่อุดมไม่รู้ภาษาอังกฤษก็เลยตอบกลับฝรั่งคนนั้นด้วยการหัวเราะแบบเขิลๆ พร้อมกับประโยค Do you like pop music? I don’t like pop music. and.. Can I have Pepsi? จากนั้นฝรั่งก็รีบดันคันโยกปล่อยให้รถของอุดมเข้าไปในบ้านผีสิงเพื่อตัดปัญหาไปนั่นเอง..
ผมเพื่อนตุ้ม
มีช่วงหนึ่งในเดี่ยว 2 (โชว์ห่วย) ที่พูดถึงเรื่องของอำนาจในแต่ละคน และปัญหากับรปภ.ตอนไปจอดรถที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ด้วยการที่อุดมจะต้องมาทำกิจกรรมที่นี่แต่โดนรปภ.บอกว่า “รถไม่มีสติ๊กเกอร์ เข้าจอดไม่ได้ครับ” ตลอด จนต้องหาวิธีแก้ทางรปภ.เพื่อไปจอดรถให้ได้ หลังจากขับรถวนสนามหลวง 1 รอบก็เกิดไอเดียว่า “ทำไมเราไม่ใช้อำนาจล่ะ เรามีอำนาจ เรารู้จักคนอื่น และเราก็เป็นเพื่อนตุ้มไง ใช่! เราเพื่อนตุ้ม” เมื่ออุดมได้ไอเดียแล้ว ก็ขับเข้าไปที่ป้อมรปภ.ที่เดิม เจอรปภ.คนเดิม และก็บอกไปว่า “ผมเพื่อนตุ้ม” แล้วขับรถเข้าไปเลย ปล่อยให้เค้างงไปเลย เท่านี้ก็จบปิ๊ง
และนี่ก็ทำให้ประโยค “ผมเพื่อนตุ้ม” ดังไปเลยทีเดียว
โอย…ขอบอกนะขอบอก
ขออนุญาตวาร์ปมาที่เดี่ยว 4 เลยละกัน (เพราะในเดี่ยว 3 ไม่มีเป็นประโยค แต่สิ่งที่น่าจดจำคือ เพลงทั้งหมดที่แสดงกันบนเวทีเดี่ยว 3 นั่นเอง..ซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าเพลงอะไรบ้าง ลองหาอัลบั้มที่ชื่อ “รวมเพลงประกอบโน่นประกอบนี่ ของอุดม” ละกันนะ)
กลับมาที่เดี่ยว 4 … โอยยย… ขอบวอกนะขอบวอก (ขอบวอก อ่านว่า ขอ–บวอก คำหลังพยายามพูดคำว่า “บอก” โดยมีว.แหวน พ่วงมาด้วยนะ) ประโยคนี้มาจากกะเทยที่ชื่อว่า “ยศ” กะเทยอิมพอร์ตจากต่างแดนที่ข้ามจากฝั่งลาวมาหางานที่ไทย และกลายเป็นช่างแต่งหน้าในกองถ่ายหนัง ซึ่งคำว่า “ขอบวอก” เนี่ย เป็นคำติดปากของยศที่มักจะพูดตอนขึ้นต้นการสนทนาต่างๆ อย่างในเดี่ยว 4 อุดมก็เล่าเรื่องที่กว่ายศจะข้ามฝั่งมาไทยได้เนี่ยเป็นยังไง ซึ่งดูทรหดจริงๆ เลยนะ ขอบวอกนะขอบวอก~
อีเห็ดสด
เป็นคำพูดที่อุดมเล่าในเดี่ยว 4 ซึ่งพูดถึงคำต่างๆ ที่กะเทยชอบใช้ และคำว่า “อีเห็ดสด” เป็นคำที่ไว้ด่าคนอื่น ซึ่งอุดมก็ไม่เข้าใจว่า เห็ดสด มันเป็นคำด่ายังไง แต่ถ้าจะด่าว่า “อีเห็ดแห้ง” มันก็ไม่ได้อารมณ์เลยกลายเป็น อีเห็ดสด นั่นเอง…
นี่หรือเมืองพุทธ
อีกคำที่อุดมได้พูดไว้ (ต่อจากภาพที่แล้ว) เกี่ยวกับคำอุทานต่างๆ ซึ่งอุดมเล่าว่า ยศกำลังหวีผมให้ลูกเกดอยู่ แล้วทำหวีหล่น ยศก็โผล่งขึ้นมาว่า “โอ๊ะ…นี่หรือเมืองพุทธ” แล้วเรียกเสียงฮาได้ดอกใหญ่ จนกลายมาเป็น 1 ในประโยคจำสุดคลาสสิคที่เกิดขึ้นในเดี่ยวไมโครโฟนเลยก็ว่าได้
อย่างแรง!
ประโยคเด็ดจากเดี่ยว 5 (ฉายเดี่ยว) ที่เรียกว่าจำได้ติดหัว “อย่างแรง” เลยก็ว่าได้ ซึ่งคำนี้อยู่ในตอนที่อุดมเล่าเรื่องผีที่ไม่เหมือนในเดี่ยวอื่นๆ โดยปกติในเดี่ยวอื่น ตอนเล่าเรื่องผีจะเป็นเรื่องเล่าตลกๆ แต่ในเดี่ยว 5 นั่น คือผีจริงๆ (ที่อุดมย้ำว่ามันคือ “เรียลผี” ) ที่ทำให้ทั้งออฟฟิศปั่นปวนสุดๆ และเจ้าของคำว่า “อย่างแรง” คือ สวย สาวใต้พนักงานออฟฟิศของอุดมที่เจอผีระยะ 1 เมตรจนลั่นคำออกมาว่า “สวยเจอผีอย่างแรงเลยนิ” แบบคอทองแดงสุดๆ
โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
คุณกำลังประสบปัญหา…เกี่ยวกับความสนุกของตัวเองใช่หรือไม่ พอกันที…กับการที่ต้องมานั่งกร่อยแบบเหงาๆ …. นี่เลย “เดี่ยว 6 ตูดหมึก” เดี่ยวไมโครโฟนก่อนที่อุดมจะประกาศว่าอีก 5 ปีเจอกันใหม่ และแน่นอนว่าประโยคจำของเดี่ยวนี้ก็คงหนีไม่พ้นการแซวรายการทีวีขายของ Quantum Television และแน่นอนว่าประโยคจำของเดี่ยวนี้ก็คงหนีไม่พ้นการแซวรายการทีวีขายของ Quantum Television ที่มีฝรั่งชายหญิงที่ชื่อ จอร์จ กับ ซาร่าห์… ไม่ว่าจอร์จพูดอะไรออกไป ซาร่าก็จะเออออห่อหมกไปด้วยประโยค “โอ้ววว.. พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก!” ทำให้คนที่ได้ดูเดี่ยวไม่ว่าจะรอบดูสดหรือแผ่นซีดีก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบที่ซาร่าห์พูดนั่นแหละ
ลำปางหนาวมาก
วลีนี้เกิดขึ้นใน เดี่ยว 7 ระหว่างที่อุดมเล่าเรื่องที่ตัวเองดูทีวีและสังเกตบรรดา sms ที่ส่งเข้ามาระหว่างดูข่าว ที่หลายๆ อันก็ส่งเพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นกับข่าวต่างๆ นานา จนกระทั่งมีคนนึงส่งมาด้วยประโยคที่ว่า “ลำปางหนาวมาก” แล้วก็หายไป จนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความนี้เป็นคนแรก หลวงประดิษฐ์ลำปางหนาวมากก็ไม่น่าจะใช่ แต่ที่แน่ๆ ทำให้วลีนี้ขึ้นแท่นคลาสสิกอีกอันนึงเหมือนกัน
อาร์ตตัวแม่
อุดมเคยอธิบายถึงคำว่า ‘ศิลปะ’ ไว้ในเดี่ยว 7 ว่า “จินตนาการ อยู่เหนือเหตุและผล และไม่ต้องการการเข้าใจ” และสิ่งที่เหมือน Art ที่สุดคือผู้หญิง เพราะผู้หญิงเต็มไปด้วยจินตนาการ อยู่เหนือเหตุและผล และไม่ต้องการการเข้าใจ เพราะทุกการกระทำของผู้หญิง ผู้ชายมักเจอจะเป็นแบบนี้ตลอด จนอุดมได้บัญญัติไว้ว่า “อาร์ตตัวแม่” นั่นเอง…
(และในเดี่ยวครั้งต่อไป อุดมก็ได้พูดถึงอาร์ตตัวพ่อไว้เหมือนกัน นั่นก็คือมุมมองที่ผู้หญิงมองมาทางผู้ชายที่เรียกได้ว่า แก้เผ็ดได้ดี ได้ใจสาวๆ กันไปทั่วประเทศเลยทีเดียวเชียว 😀 )
ต๊งหมงเหมียวขื่อ
หนึ่งในหลายๆ อย่างที่อุดมบ่นไว้ในเดี่ยว 7 ถึงเรื่องที่เราเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้เรียนไปทำไม ตั้งแต่สูตร PI r2 (อ่านว่า พายอาร์กำลังสอง) สูตรหาค่าพื้นที่วงกลม ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยใช้สูตรนี้หาพื้นที่จากที่เรากินข้าวกัน วิชากระบี่กระบองที่ไม่รู้เรียนไปเพื่ออะไร หรือแม้กระทั่งเพลงลูกเสือที่ เราร้องได้ แต่ร้องแล้วได้อะไร แถมไม่รู้ความหมายอีก อย่างเพลง “ต๊งหมงเหมียวขือ” ที่อุดมบ่นอุบว่าไม่รู้ความหมายจริงๆ ของมันซะที แต่ที่แน่ๆ เพลงนี้ก็ทำให้คนทั่วไปติดหูกันอีกรอบไปแล้วล่ะ
Thailand Only
ในเดี่ยว 8 อุดมได้พูดถึงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ของต่างประเทศที่ตัวเองรู้สึกดีใจ และได้มองกลับมาที่ประเทศไทย มันก็ยังมีนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ รวมไปถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่รู้สึกว่า มันมีแค่ประเทศไทยที่เดียวที่มี หรือพยายามทำอะไรหลายๆ ให้มันมีที่ไทยอย่างเดียว เช่น ข้าวหลาม ก็ทำให้มันเป็นข้าวหลามช็อต ลามไปถึงขันเจาะรู รองเท้าแตะผ่าครึ่ง อะไรหลายๆ อย่างที่มีแค่ไทยเรามี จนสามารถเรียกว่า Thailand Only ดีกว่านะ
ควายเผือก
แน่นอนว่าตอนเดี่ยว 7 อุดมได้ฝากวลี “อาร์ตตัวแม่” ไว้จนได้ใจเหล่าท่านชายเกือบทั้งประเทศ แต่ในเดี่ยว 8 อุดมขอเป็นตัวแทนฝั่งหญิงที่มาระบายความในใจว่าจริงๆ แล้วที่เป็นอาร์ตตัวแม่ก็เพราะพวกแกน่ะแหละ ไอ้พวกอาร์ตตัวพ่อ! แต่ว่านอกจากคำว่า อาร์ตตัวพ่อแล้ว … คำว่า “ควายเผือก” ก็เป็นอีกคำที่ขึ้นแท่นความคลาสสิคด้วยอีกคำ เพราะความหมายคือ ผู้ชายที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวของผู้หญิง(หรือบางครั้งก็แฟนน่ะแหละ) ว่าอยากได้อะไร คิดอะไรอยู่ บลาๆ หรือถ้าสรุปให้สั้นๆ คือ ผู้ชายแกมันโง่น่ะแหละ โง่เหมือนควายเผือกน่ะแหละ อะไรประมาณนั้นครับผม
เซราะกราวขนาดหนัก
ในช่วงที่อุดมเล่าเรื่องราวในอดีตหลายๆ อย่างที่คุมธีมของเดี่ยว 9 ไว้ หนึ่งในเรื่องราวที่อุดมเล่าคือ ตอนเด็กที่เรียนอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ในวิชาภาษาไทย มีการสอบเขียนคำตามครูบอก แล้วตัวเองเขียนบางคำไม่ได้ จนร้องไห้ออกมาใหญ่ทำให้ครูถึงขนาดหยุดสอบแล้วถามไถ่อาการ อุดมในวัยเด็กร้องไห้เพราะตัวเองเขียนวรรคไม่ได้ (คือ.. ตอนสอบอาจารย์ก็จะพูดประมาณว่า กา… วรรค…. มา….. วรรค… บลาาๆๆ ซึ่งเจ้าวรรคคือ การเว้นวรรค ไม่ได้เขียน แต่อุดมเขียนไม่ได้ เพราะสะกดคำว่า “วรรค” ไม่เป็น
หลังจากนั้นก็เรียกได้ว่า แจ้งเกิดได้หวือหวาเลยทีเดียว และเพื่อนที่เป็นชาวเขมรก็ออกมาพูดกับอุดมว่า “เซราะกราวขนาดหนัก” เพื่อตอกย้ำว่าแกนี่มัน..บ้านน้อออก บ้านนอกจริงๆ เลย!
ก็ไม่รู้สินะ
ในเดี่ยว 10 ในช่วงที่อุดมสมมติตัวเองว่ามีลูกแล้วจะสอนลูกอะไรบ้าง หนึ่งในสิ่งที่อุดมพูดถึงก็คือ ตอนที่ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกประตูรถไฟฟ้าปิดใส่หน้า จนไม่ได้ขึ้น นอกจากจะทำให้ลูกนั่นเสียเซลฟ์แล้ว พอมองเข้าไปในรถไฟฟ้า เห็นพวกที่ขึ้นทันแล้วมองด้วยสายตาที่รู้สึกได้ถึงความประชดประชัน เหิมเกริม และยิ้มกระหย่อง เหมือนตัวเองเป็นผู้ชนะ และถ้าพูดได้ก็คงพูดว่า “แหม…ก็ไม่รู้สินะ” (เพิ่มลูกกระแดะไป 34 เลเวลเวลาอ่าน) และนี่ก็เป็นที่มาของประโยคดังกล่าวนั่นเอง…
โอ้วว แม่สาวน้อย
ประโยคจำในเดี่ยว 11 มาจากตอนที่อุดม เล่าถึง แบร์ กริลส์ พิธีกรรายการ Man vs Wild ที่แบร์ กริลส์ พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ สถานที่ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าบ้าระห่ำ และในแต่ละเทป แบร์ กริลส์ ก็พาคนดูมาสำรวจไปพร้อมๆ กันกับตัวเอง และเนื่องจากอุดมได้ดูแบบพากย์ไทย สิ่งที่ได้ก็คือการพากย์ตอนที่ แบร์ กริลส์ กำลังพยายามพุ่งเข้าไปจับจระเข้ และระหว่างที่กำลังเดินไปจับนั้น เสียงพากย์ไทยก็พูดขึ้นมาประมาณว่า “โอ้ววว แม่สาวน้อย” ซึ่งเหมือนเป็นคำติดปากเวลาที่เจอสัตว์บางอย่าง (หรือในบางครั้งก็เป็นคำอินโทรเล็กๆ ก่อนจะเข้าไปประกบนั่นแหละ… ก็จะพูดว่า “โอ้วว แม่สาวน้อย” อยู่ทุกที…)
หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน
เป็นอีกประโยคที่อุดมเล่าตอนที่เล่นเว็บไซต์พันทิป แล้วบังเอิญไปเจอกระทู้ที่พูดถึงเรื่องค่าสินสอดว่า ใครเป็นคนคิดค่าสินสอด แต่ละคอมเมนท์ก็ได้ถกเถียงปัญหานี้กันอย่างสนุก จนกระทั่งมีคอมเมนท์หนึ่งได้โพสว่า “หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน” ซึ่งเป็นคอมเมนท์ที่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย โผล่มากลางวงนี้เฉยๆ และเจ้าของคอมเมนท์ก็หายตัวไป สร้างความมึนงงทั้งคนในกระทู้ รวมไปถึงอุดมที่เอามาเล่าเรื่องด้วย