เกิดมายี่สิบกว่าปี แต่คงมีไม่ถึงสามเดือนที่ตื่นเช้าสำเร็จ… ได้ยินมามากมายว่าการตื่นเช้าดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ แต่ก็ทำไม่เคยได้… เลยจะมาย้ำให้ตัวเองและคนที่ตื่นสาย(เหมือนกัน) รู้กันอีกซักที ว่าตื่นเช้ามันมีประโยชน์จริงๆ นะ แต่จะมีอะไรบ้างก็ลองมาดูกันว่าจะคุ้มค่าแก่การพยายามตื่นรึเปล่า 1. มีเวลาเพิ่มมากขึ้น ใครบอกว่าเวลาแต่ละคนมีเท่ากัน ใช่ซะที่ไหน เพราะเอาไปนอนก็นับได้ 12 ชั่วโมงแล้ววว หืออ ทีนี้ก็เลยแน่นอนว่าถ้าเราตื่นเช้าขึ้นเราก็จะมีเวลามากขึ้นเพื่อเอาไปใช้ทำสิ่งต่างๆ มากมายที่ปกติทำไม่ทัน! เพราะมัวแต่ต้องรีบตาลีตาเหลือกอาบน้ำแต่งตัวไปแสกนนิ้วมือให้ทัน 10 โมง! 2. ได้ฟังเพลงที่ชอบตอนตื่นนอน มีใครเป็นเหมือนกันไหม? เวลาตื่นมาจะชอบทิ้งตัวบนเตียงก่อนสักพัก เลื่อนจอมือถือดูเฟซบุ๊ก แล้วตามด้วยหาเพลงเพราะๆ ฟังเป็นการปลุกตัวเองยามเช้าให้สดใสซาบซ่า(พร้อมรับกองงานที่ทับถมในวันใหม่แล้วจย้าาา) ซึ่งบางครั้งพอตื่นสายเนี่ย หาเพลงไปหาเพลงมาก็กลายเป็นว่าไปทำงานสายซะงั้น จากความสดใสก็ต้องกลายเป็นความตาเหลือกเหมือนเดิมอีก! 3. กินอาหารเช้าดีดี โพสต์ลงไอจีอวดไลฟสไลต์ชิคๆ ที่เห็นรูปอาหารเช้าชิคๆ ตามไอจีน่ะ มันไม่ใช่ว่าตื่นมาทำห้านาทีแล้วเสร็จนะ ไหนจะต้องจัดจาน จัดมุมกล้อง แต่งสีภาพอีก.. เพราะงั้นอีกข้อดีของการตื่นเช้า(ที่แอบผิดจุดนิดนึง) ก็คือการได้ทำอาหารเช้าอวดความชิคลงโซเชี่ยลไงล่ะ วะฮาฮ่า แต่เอาจริงๆ มันไม่ใช่แค่การอวดหรอก เพราะคนเราควรได้รับมื้อเช้าที่ดี ไม่ใช่ว่าตื่นสายแล้วก็จบลงที่แซนวิชจากร้านสะดวกซื้อ 4. ได้สูดอากาศยามเช้า บ่นกันบ่อยๆ ว่าเมืองไทยอากาศไม่ดี ยิ่งในเมืองหลวงด้วยแล้วก็เต็มไปด้วยมลพิษ (ซึ่งมันก็จริงส่วนหนึ่งแหละนะ) แต่ถ้าเราลองตื่นเช้าขึ้นดูซักนิด เราอาจรู้สึกว่าอากาศมันดีกว่าเดิมก็ได้ เพราะช่วงเช้าแดดจะยังไม่จัดมาก แถมยังได้ยินเสียงนกร้องจิ้บๆ มองไปทางไหนก็รู้สึกแฮปปี้ 5. สายบุญ ทันพระบิณฑบาตร แฮปปี้เพราะได้สูดอากาศอย่างเดียวยังไม่พอ เพราะยังได้บุญจากการใส่บาตรพระอีกด้วย! ถ้าย้อนกลับไปในชีวิต จำไม่ได้แล้วว่าตื่นทันพระครั้งสุดท้ายคือกี่โมง แต่จำได้ว่าตอนนั้นมันรู้สึกดีจัง แบบว่าได้ทำบุญรับวันใหม่ แค่นี้ก็เป็นเช้าดีๆ แล้ว : ) 6. รถไม่ติด ข้อนี้คนกรุงเทพฯ คงเข้าใจดี.. ถ้าการจราจรมันแก้ไขอะไรไม่ได้ เราก็ต้องแก้ที่ตัวเอง! (เห้ย แก้ปลายเหตุจัง แต่เอาวะ ทำไรไม่ได้หนิ) เห็นหลายๆ คนที่ทำงานในกรุงเทพฯ มักจะยอมตื่นเช้าเพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับสภาพถนนที่รถติด ซึ่งมันก็คุ้มนะที่จะแลกกับความน่าปวดหัวของถนนที่รถแสนติด ยอมไปทำงานเร็วซักหน่อยแล้วค่อยไปหาข้าวเช้ากินที่ออฟฟิศก็ได้หนิเนาะ 7. สุขภาพจิตดี ไม่ต้องกดดัน กลัวไปไหนไม่ทัน แน่นอนว่าถ้าพ้นจากปัญหาต่างๆ แล้ว เราจะมีสุขภาพจิตดีขึ้นแน่ๆ ไม่ต้องเซ็งกับรถติด ได้กินอาหารเช้าดีๆ ได้ฟังเพลงบิ๊วท์อารมณ์ให้สดใส โอโห ชีวิตยามเช้าที่แสน Perfect … 8. ได้จัดตารางชีวิตTo do list ของแต่ละวัน อีกข้อที่สำคัญมากๆ สำหรับคนทำงาน(หรือวัยเรียน) อย่างเราๆ ก็คือการได้จัดการชีวิตของตัวเอง ว่าแต่ละวันเราจะทำอะไรบ้าง เพราะถ้าเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดมุ่งหมาย ความเซ็งและความเบื่อหน่ายต่างๆ จะมาเยือนแน่นอน เพราะงั้นลองตื่นเช้าขึ้นซักนิดแล้วลองลิสต์ดูว่า วันนี้เราจะทำอะไรให้ชีวิตเราดีขึ้นบ้าง 9. ได้ออกกำลังกาย อ้วน อ้วน อ้วน ชีวิตทุกวันนี้แค่หายใจเข้าไปก็น้ำหนักขึ้นแล้ว.. นี่มันอะไรกันนนน! อ๋อ ก็เพราะวันๆ เอาแต่กินแล้วไม่ได้ออกกำลังกายไงล่ะ แถมตอนทำงานก็นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับโต๊ะคอม แล้วจะเอาอะไรไปผอมได้? การตื่นเช้าก็ทำให้เราได้เพิ่มโอกาส (และลดความขี้เกียจ) บังคับตัวเองไปออกกำลังกายซักหน่อย จะแค่ซิทอัพ หรือปั่นจักรยานกลางอากาศบนเตียงก็ยังดี! 10. น้ำหนักลด นี่ไง ออกกำลังกายปั้บ น้ำหนักลดปุ้บ.. แต่จริงๆ การนอนเร็วตื่นเช้าก็มีส่วนช่วยให้เราผอมลง(แบบสุขภาพดี)ได้จริงๆ นะ เพราะร่างกายของเราก็จะมีเวลาที่ดีที่สุดในการซ่อมแซมส่วนต่างๆ แถมการตื่นเช้ายังจะทำให้เราขับถ่ายเป็นเวลาด้วย 11. หลับง่ายขึ้น การนอนเร็วมักเป็นสิ่งที่ยากเย็นพอๆ กับการตื่นเช้า เหมือนเป็นคำสาปที่ถูกปล่อยมาคู่กันซะอย่างนั้นแหละ.. ซึ่งจากการลองตื่นเช้าดูบ้าง จะพบว่ามันทำให้ง่วงเร็วกว่าปกติ เลยเหมือนเป็นการบังคับกลายๆ ว่าคืนนั้นร่างกายคุณจะ shut down เร็วขึ้นนะ เอาล่ะ พร้อมนะ 3 2 1 ปิดระบบ 12. ได้คุยกับคนในครอบครัวมากขึ้น เพราะเราใช้ชีวิตกันแบบปัจเจกบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ เราตื่นมาทำงานและกลับบ้านดึกๆ เพื่อนอน และตื่นขึ้นมาไปทำงานในเช้าวันต่อไป.. อ่าวไหนล่ะเวลาที่เราใช้กับคนในครอบครัว? การตื่นเช้าจะทำให้เรามีโอกาสได้เจอหน้าพ่อแม่ได้นานกว่าเดิม อย่างการกินข้าวพร้อมกัน หรือกอดกันก่อนออกจากบ้าน เราไม่จำเป็นต้องรอทำสิ่งเหล่านี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะทุกๆ วันควรเป็นวันครอบครัวนะ