เราไม่จำเป็นต้องมีพลังหรือเวทมนต์ก็สามารถอ่านใจคนโดยไม่ต้องถามออกมาดังๆ หรือเบี่ยงเบนความสนใจของคนอื่น หรือแม้กระทั่งควบคุมทิศทางของสถานการณ์ต่างๆ ให้เป็นไปตามที่เราต้องการ ซึ่งเราสามารถใช้แนวคิดตามหลักจิตวิทยาใกล้ๆ ตัวของเราได้ หากเรารู้และนำไปปรับใช้ก็จะช่วยทำให้การใช้ชีวิตของเราง่ายยิ่งขึ้น ไม่เชื่อก็ต้องลองไปพิสูจน์กับ 10 เทคนิคจิตวิทยาง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลเสมอจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ “สังเกตว่าใครสนิทกับใคร” ให้ดูตอนหัวเราะ เวลามีเรื่องขำขันในวงสนทนา หากเราจะสังเกตว่าใครสนิทกันหรือสนใจใครคนนั้นเป็นพิเศษอยู่รึเปล่า ลองสังเกตว่าคนคนนั้นหันหน้าไปหัวเราะกับใคร เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้วเราจะหันไปหัวเราะกับคนที่ตัวเองรู้สึกสนิทด้วยที่สุดหรือไม่ก็คนที่อยากจะสนิทด้วยที่สุด “เรามักจะจำส่วนแรกกับส่วนสุดท้าย” ได้แม่นยำกว่าช่วงตรงกลางเสมอ การที่เราจะโดดเด่นจากคนอื่น เช่น ตอนไปสัมภาษณ์งาน หรือแข่งขันอะไรบางอย่าง การใช้ปรากฏการณ์ความสำคัญในลำดับของความทรงจำเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณถูกจดจำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดที่ว่า ผู้คนมักจะจดจำส่วนแรกและส่วนสุดท้ายของสิ่งต่างๆ ได้แม่นยำมากกว่าส่วนอื่นๆ หรือการที่จดจำสิ่งที่อยู่ตรงกลางไม่ได้นั่นเอง “สบตากันให้นานกว่าสองนาที” ทำให้ตกหลุมรักกันได้ Joan Kellerma นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ได้ทดลองให้คนแปลกหน้า 72 คนจับคู่จ้องตากันนานสองนาที ต่อมามีรายงานหลังการทดลองว่าหลายคนรู้สึกว่าหลงใหลและตกหลุมรักอีกฝ่าย แสดงให้เห็นว่าการจ้องตากันเป็นเวลานานทำให้เกิดการตกหลุมรักได้ แม้ว่าคนสองคนอาจจะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนเลยก็ตาม “การฟังหรือร้องเพลงจนจบ” จะช่วยให้เคลียร์สิ่งที่ติดอยู่ในหัวออกไปได้ หลายคนคงรู้จักคำว่า “เอียร์เวิร์ม” หรือเสียงเพลงท่อนเดิมที่มันวนซ้ำๆ จนติดอยู่ในหัวของเรา พยายามจะไล่มันก็ไล่ไม่ออกสักที ซึ่งจากงานวิจัย ได้ระบุถึงวิธีการแก้เอาไว้แล้วว่าการฟังเพลงหรือร้องเพลงจนจบจะช่วยจัดการกำจัดมันออกไปได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ติดอยู่ในหัวอีกด้วย “ลองตะโกนว่า ใช่” จะทำให้ตื่นแบบสดชื่น ในขณะที่นาฬิกาปลุกกำลังดังขึ้น ให้ลุกขึ้นสักครู่แล้วทำท่ากำปั้น จากนั้นตะโกน “ใช่” ประหนึ่งว่าเราเป็นนักฟุตบอลที่เพิ่งทำประตูได้ แม้มันออกจะแปลกสักหน่อย แต่มันจะให้ความรู้สึกสดชื่น และช่วยทำให้ลุกขึ้นได้ง่าย ไม่เชื่อพรุ่งนี้เช้าลองทำดูสิ “ความมั่นใจในตัวเอง” สำคัญกว่ารูปร่างหน้าตาภายนอก งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีความมั่นใจ เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการมีหน้าตาที่หล่อเหลา และสามารถเอาชนะใจสาวๆ ได้มากกว่าคนที่ไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย นอกจากนี้การที่ผู้หญิงสวยมีแฟนที่ดูดีน้อยกว่า มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในชีวิตคู่มากกว่าคู่ที่ประกอบไปด้วยผู้ชายหล่อเหลากับผู้หญิงที่สวยน้อยกว่า หรือคู่ที่มีหน้าตาดูดีพอๆ กัน “กิจกรรมน่าตื่นเต้นในเดทแรก” ช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้มากขึ้น หากคุณกำลังมีความสัมพันธ์ใหม่ หรือเริ่มสร้างมิตรภาพกับใครบางคน แทนที่จะไปดูหนังหรือออกไปกินข้าวแบบธรรมดาๆ ให้ลองทำกิจกรรมที่สร้างความตื่นเต้น เช่น การไปสวนสนุก การเล่นรถไฟเหาะตีลังกา หรือกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เนื่องจากเมื่อร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนและเกิดการสูบฉีดของเลือด มันจะช่วยให้ทั้งสองคนรู้สึกใกล้ชิดและอยากสร้างความสัมพันธ์กันมากขึ้น “อาหารรสเลิศ” สามารถลดความตึงเครียดได้ อาหารเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวและสามารถลดความตึงเครียดได้จริงๆ ถ้ามีสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น การเจรจาธุรกิจที่ตึงเครียด ต้องใช้การโน้มน้าวใจคู่ค้า การพากันไปร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ เป็นวิธีที่ทำให้งานราบรื่นมากขึ้น เพราะเป็นการใช้กฎการเบี่ยงเบนความสนใจ ที่จะมีอาหารมาช่วยทำให้ทุกอย่างดูซอฟลง “การหาว” ติดต่อกันได้ หลักจิตวิทยาคลาสสิคที่หลายๆ คนคงเคยได้ยิน ก็คือการหาวตามกัน ซึ่งถ้าหากคุณต้องการที่จะรู้ว่ามีใครบางคนกำลังแอบมองคุณอยู่หรือเปล่า ให้ลองทำท่าหาวดู และถ้ามีใครบางคนที่หาวตาม สันนิษฐานได้เลยค่ะ ว่าเค้าแอบมองคู่อยู่แน่นอน “เก็บเป้าหมายไว้กับตัวเอง” มีโอกาสสำเร็จมากกว่าการบอกคนอื่น สุดท้ายเป็นหลักจิตวิทยาสำหรับคนที่มีเป้าหมายไว้พุ่งชน จากงานวิจัยเผยว่าการที่เราบอกเล่าถึงเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้ผู้อื่นฟัง จะทำให้ความพยายามในการไปให้ถึงฝั่งฝันลดลง นั่นเป็นเพราะว่าการพูดถึงความสำเร็จในเป้าหมายบ่อยๆ เป็นการบอกสมองว่า “ฉันได้ทำมันสำเร็จแล้ว” ทำให้แรงบันดาลใจในการไปให้ถึงเป้าหมายค่อยๆ ลดลงและหายไป ซึ่งเป็นข้อที่เจอมากับตัวจริงๆ เนื่องจากได้ลองสังเกตมาตัวเองหลายครั้ง เพราะฉะนั้นเก็บเป้าหมายของเราเอาไว้ในใจแล้วเดินตามเป้าที่ตั้งไว้ ทำสำเร็จเมื่อไหร่ค่อยบอกคนอื่น เท่กว่ากันเยอะ ว่ามั้ยคะ ที่มา – brightside
