Mango Zero

รวม 10 ซีรีส์ พระเอกสุดอัจฉริยะ ตื่นเต้น เร้าใจ แถมได้คิดตามไปด้วย

หากใครที่เบื่อเรื่องราวน้ำเน่า พระเอกนางเอกไร้ไหวพริบระดับผู้หญิงติดหนวดยังคิดว่าเป็นผู้ชาย ลองมาดูซีรีส์สนุกๆ ที่ต้องใช้สมองคิดตามหนักๆ กันดีกว่า นอกจากความสนุกตื่นเต้นเร้าใจแล้ว บางทีดูแล้วรู้สึกฉลาดขึ้นมานิสหนึ่งเหมือนกัน อย่าลืมเตรียมเวลาเผื่อไว้เยอะๆ หล่ะ ยาวแน่นอน

 

1. Sherlock Holmes

จากนิยายอมตะสู่ฉบับทีวีซีรีส์ ซึ่งในครั้งนี้พี่แกโผล่มาในยุค 20xx ที่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็ปเลต เครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัยมากมาย ทำให้การสืบสวนสอบสวนมีความสนุกน่าตื่นเต้นในระดับที่คนอ่านนิยายมาแล้วยังได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ก็ยังคงกลิ่นอายความเป็น Sherlock Holmes ฉบับดั้งเดิม เนื่องจากตัวละครทั้งฝั่งพระเอกและตัวร้ายยังมากันครบ เพียงแต่อยู่คนละยุคกับฉบับนิยายเท่านั้นเอง

ซีรีส์ Sherlock Holmes ฉบับนี้ทำออกมาได้ครบรส ทั้งการสืบสวนที่สนุกตื่นเต้น ความเนิร์ด ความกวนตีนของพระเอกที่รับบทโดย Benedict Cumberbatch ก็ได้ใจบรรดาแฟนคลับไปไม่น้อย เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วต้องคิดตามเยอะพอดูเหมือนกัน แถมพระเอกยังพูดเร็วโคตรๆ แบบว่าต้องดูไปกด Pause ไปเลยทีเดียว

Sherlock Holmes ออกมาแล้ว 4 Seasons จบ ซึ่งแต่ละ Seasons จะมีเพียง 3 ตอนเท่านั้น ดูเอาเพลิน ไม่ใช้เวลามาก

 

2. Mr. Brain

ซีรีส์ญี่ปุ่นเก่าหน่อย ฉายปี 2009 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนายเรียวซึเกะ ชายหนุ่มอารมณ์ดีที่ประสบอุบัติเหตุทำให้สมองได้รับความเสียหาย ในขณะเดียวกันสมองเขากลับมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นอัจฉริยะ จากนั้นเขาได้มาศึกษาการทำงานของสมองเพราะเขารู้สึกว่าเขาเองได้สูญเสียตัวตนไปตอนที่ประสบอุบัติเหตุ จึงอยากรู้เกี่ยวกับสมองตัวเองมากขึ้น

จนได้มาทำงานเป็นนักวิจัยทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์ ของสำนักงานวิทยาศาสตร์ตำรวจ และใช้ความสามารถของกระบวนการทำงานของสมองช่วยเหลือตำรวจแก้ไขคดียากๆ เพราะเมื่อรู้ว่าสมองกับร่างกายทำงานอย่างไร ก็จะรู้ว่าคนคนนั้นทำพฤติกรรมเหล่านั้นเพราะอะไร

ปัจจุบัน Mr. Brain ทำออกมาเพียง 1 Season ยังไม่จบด้วย แต่ไม่มีวี่แววทำต่อแล้ว น่าเสียดาย…

 

3. Prison Break

เมื่อพูดถึงซีรีส์ที่พระเอกฉลาด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีเรื่องนี้อยู่ในลิสต์ กับซีรีส์แหกคุกอันเป็นตำนานที่ป่านนี้ก็ยังทำภาคใหม่ออกมาไม่จบไม่สิ้นสักที แฟนๆ ก็ต้องตามดูกันละวะ

เรื่องราวว่าด้วยพี่ชายของ Michael Scofield ติดคุกโทษประหารด้วยข้อหาฆ่าน้องชายประธานาธิบดี ตัว Michael เองเป็นวิศวกรโครงสร้างที่ออกแบบคุกแห่งนั้นด้วยตัวเอง จึงใช้ความสามารถและความฉลาดวางแผนช่วยพี่ชายแหกคุก แต่แน่นอนเรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะในคุกก็มีเรื่องราวที่ทำให้ผิดแผนมันทุกตอน

เสน่ห์ของเรื่องนี้นอกจากความสามารถของพระเอกแล้ว ตัวละครในเรื่องนี้ยังมีบทบาทเด่นแทบทุกตัวทั้งฝั่งพระเอกและฝั่งผู้ร้าย ตอนแรกนั้น Prison Break มี 4 Season จบ แต่ก็ไม่วายออก Seasonใหม่ออกมาหลังจากจบไปแล้วหลายปี ก็ลองไปตามกันดู ไม่รู้มันจะจบจริงเมื่อไหร่

 

4. Ghost

ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของของแผนกสืบสวนไซเบอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่คอยทำคดีเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เปิดเรื่องด้วยนักสืบคิมอูฮยอน ลูกชายคนเดียวของตำรวจระดับสูง จบโรงเรียนตำรวจด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง ต้องมาไล่ล่าแฮกเกอร์ชื่อดังที่มีนามว่า Hades

ช่วงแรกทำให้หลายคนเข้าใจว่าทั้งซีรีส์เป็นเรื่องราวการไล่ล่าของสองคนนี้ แต่จริงๆ แล้วมีเรื่องที่อยู่เบื้องหลังลึกลงไปอีก ใครชอบเรื่องราวแนวอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก สืบสวนสอบสวน แนะนำให้ดูเลย

สำหรับซีรีส์เรื่อง Ghost มีทั้งหมด 20 ตอนจบ

 

5. Liar game

ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งฉบับเกาหลี และญี่ปุ่นซึ่งก็สนุกไม่แพ้กันทั้งสองเวอร์ชั่นเลย โดยในบทความนี่จะเล่าถึงฉบับญี่ปุ่นแล้วกันนะ เรื่องราวว่าด้วย นาโอะ คันซากิ นางเอกที่มีความซื่อม๊ากก จนโดนหลอกอยู่เสมอ วันหนึ่งเธอได้รับเงินมา 100 ล้านเยน พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งของ Liar Game โดยเธอต้องขโมยเงินของคู่ต่อสู้มาให้ได้ ถ้าแพ้จะถูกปรับ 100 ล้านเยน เหมือนถูกมัดมือชกให้เล่นเกมนั่นเอง

จึงไปขอร้องให้พระเอกที่เป็นนักต้มตุ๋นเพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุกช่วยเหลือ เมื่อพระเอกเข้าร่วม Liar Game จึงได้ใช้ความฉลาดแกมโกงเล่นเกมร่วมกับนางเอก

 

6. Chuck

Chuck ซีรีส์สัญชาติเมกัน เป็นเรื่องที่ว่าด้วยพระเอกชื่อ Chuck (ชัค) เด็กเนิร์ดบ้าคอม ทำงานแผนกช่างที่ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า อยู่ๆ วันหนึ่งเจ้าเพื่อนตัวดีสมัยเรียนมหาลัยส่งอีเมลมาหาชัค เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นข้อมูลลับของราชการที่ไหลเข้าสู่สมองโดยตรง คล้ายกับสมองเป็น Harddisk เมื่อพบสิ่งรอบตัวที่กระตุ้น ชัคจะนำความทรงจำในหัวมาใช้ได้

วันถัดมามีสาวสวยเอาโทรศัพท์มาให้ชัคซ่อม แต่ปรากฏว่าเธอคนนั้นเป็นสายลับที่มาเข้าประชิดตัวชัคเพื่อดูสถานการณ์ ในช่วงแรกชัคถูกไล่ล่า เพราะข้อมูลมีความสำคัญต่อประเทศมาก ต่อมาชัคใช้ข้อมูลนั้นช่วยสืบหาคนร้ายไขคดี

เรื่องนี้มีความกลมกล่อมระหว่างฉากบู๊แอคชั่น เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและเพื่อน รวมไปถึงเรื่องราวความรักของชัคที่ดันไปตกหลุมรักสายลับ มีทั้งหมด 5 Season จบ ใช้เวลาดูเยอะหน่อยนะ

 

7. Team Medical Dragon

ซีรีส์ญี่ปุ่นที่เรื่องราวว่าด้วยวงการศัลแพทย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัวเอกที่มีชื้่อว่า อาซาดะ ริวทาโร่ ศัลยแพทย์อัจฉริยะที่เคยไปทำงานอยู่ในถิ่นทุรกันดารไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องใช้ทักษะทุกอย่างเพื่อทำหน้าที่ให้ลุล่วง แต่หลังจากกลับมาทำให้เข้ากลายเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งอันไร้เทียมทาน

Team Medical Dragon มีทั้งหมด 5 Season โดยในแต่ละ Season ก็จะมีเคสผ่าตัดยากๆ ให้เราได้ลุ้นกันว่าทีมแพทย์ของพระเอกจะทำสำเร็จหรือไม้

 

8. 24

ซีรีส์เมกันที่เป็นเรื่องราวชีวิตของแจ็ก บาวเออร์ ทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐในขณะที่ประเทศกำลังประสบกับสถานการณ์วิกฤตหรือภัยที่กระทบความมั่นคงของชาติ ทุกวินาทีคือความเครียด ความกดดันทั้งชีวิตการทำงานและครอบครัวของเขา เป็นซีรีส์ที่ได้รับเรทติ้งสูงสุดในอเมริกา กวาดรางวัลมาเพียบ เป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่ห้ามพลาดมากๆ

ความน่าสนใจคือซีรีส์นี้นำเสนอตามเวลาจริงเหมือนชื่อซีรีส์ 24 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ดำเนินไปตามเวลา แบ่งเป็น Season ละ 1 วัน (24 ชั่วโมง) ถ้าเราดูครบ 1 Season หมายความว่าเราใช้เวลาดูไป 24 ชั่วโมงนั่นเอง

 

9. Dexter

ซีรีส์เมกัน พระเอกชื่อ Dexter เป็นนักวิเคราะห์การกระจายตัวของเลือดที่เรียกว่าระดับอัจฉริยะ ณ จุดเกิดเหตุเค้าจะวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้นด้วยการกระจายตัวของเลือด แต่ตัวเขาเองก็มีความโรคจิตอยู่ เมื่อพบลค่ำ เค้าจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ไล่ฆ่าเหยื่อเหมือนเป็นอาการติดยาเสพติด

โดยเขาเลือกเหยื่อที่เป็นผู้มีคดีต่างๆ ติดตัว และกฏหมายไม่สามารถเอาผิดได้ Dexter คล้ายกับเป็นศาลเตี้ยที่จัดการฆาตกรเหล่านั้นยามค่ำคืน

 

10. Mr. Robot

ซีรีส์แฮกเกอร์ของฝั่งเมกันอีกเรื่อง เป็นเรื่องราวของ Elliot พนักงานบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยที่มีชื่อเสียง ชีวิตของ Elliot กลางวันทำงาน กลางคืนนั่งแฮ็คระบบ พระเอกของเราเรื่องนี้เป็นคนเบื่อโลก เก็บตัว ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยพูดจากับใคร

จนมีอยู่วันหนึ่งมีกลุ่มแฮ็คเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Mr. Robot ทาบทามให้ไปเข้ากลุ่มนี้ โดยจุดประสงค์ของกลุ่มนี้คือต้องการสร้างความเท่าเทียมให้กับสังคม แต่ความจริงแล้วอาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้ เนื้อเรื่องช่วงแรกของซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างจะน่าเบื่อ แต่ช่วงหลังๆ เมื่อมีการเฉลยปมมากขึ้น เนื้อเรื่องจะเริ่มเข้มข้น สนุกและตื่นเต้นมาก แนะนำเลย