เผลอแป๊บเดียวอีกไม่กี่วันจะหมดปี 2017 แล้ว และเรียกได้ว่าทุกวันประเทศไทยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย แต่จะมีสักกี่เหตุการณ์ที่ควรค่าแก่การจดจำ
Mango Zero ก็จับตามองเหตุการณ์ เฝ้าดูกระแสในไทยมาตลอดทั้งปี เราได้ทำการสรุป 10 เหตุการณ์สำคัญที่ควรค่าแก่การจดจำของประเทศไทยประจำปี 2017 มาให้อ่านกันเพื่อเตือนความทรงจำ
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร
เหตุการณ์ที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของคนไทยทุกคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2017 ก็คือวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เป็นวัน ‘พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร’ ซึ่งเป็นวันที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้ากับเหตุการณ์นี้อย่างมาก สำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
ทางรัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดราชการ 1 วัน รวมถึงทุกบริษัทก็ประกาศหยุดเพื่อให้ประชาชนเดินทางไปยังท้องสนามหลวงเพื่อร่วมงานพระราชพิธี ขณะที่ประชาชนจังหวัดอื่นๆ หรือพื้นที่อื่นที่ไม่สามารถเข้ามายังท้องสนามหลวงเพื่อร่วมพระราชพิธีได้ ก็ไปรวมตัวกันยังสถานที่อื่นๆ ทั่วประเทศที่ทางฝ่ายราชการจัดไว้เพื่อถวายดอกไม้จันทร์เป็นการถวายความอาลัยครั้งสุดท้ายต่อในหลวงรัชกาลที่ 9
ตลอดทั้งวันสื่อทั่วประเทศ ก็พร้อมใจกันนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีให้ทุกคนได้เฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงสุดท้ายของพระราชพิธี ในฝั่งประชาชนก็จัดกิจกรรมมากมายเพื่อระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นวันที่เศร้าที่สุดของคนไทยทั้งประเทศ เชื่อว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคนไทยก็จะไม่ลืมวันนี้เลย
#ก้าวคนละก้าว พี่ตูน วิ่งจนยอดบริจาคทะลุ 1.1 พันล้าน
หนึ่งในอีเวนต์การกุศลที่อิมแพ็คที่สุดของประเทศก็คือ ‘ก้าวคนละก้าว’ โครงการวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลครั้งยิ่งใหญ่ของ ‘ตูน บอดี้สแลม’ ที่ครั้งนี้วิ่งไกลกว่าเดิม จากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา มายังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ใช้เวลา 55 วัน 2,191 กิโลเมตร ครั้งนี้พี่ตูนตั้งเป้าระดมทุนบริจาคช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาล ทั้งหมด 700 ล้านบาท
พี่ตูนออกวิ่งเมื่อ 1 พฤศจิกายน และตลอดการวิ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ตลอด ทำให้ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันทั้งเรื่องดี และเรื่องไม่ค่อยดีซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องอาการบาดเจ็บของพี่ตูน และการได้รับการรบกวนในการวิ่งของพี่ตูน การวิ่งครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นวงกว้างทั้งสื่อออนไลน์ และสื่อหลักต่างก็พร้อมใจกันรายงานข่าวพี่ตูนแทบจะรายวัน
ในที่สุด 25 ธันวาคม ราวๆ 18.30 น. ที่พี่ตูน และคณะก้าวคนละก้าว ก็ถึงแม่สาย โดยวิ่งไปทั้งหมด 2,215.40 กิโลเมตร และระดมเงินบริจาคได้ถึง 1.1 พันล้านบาท มีคนชมการไลฟ์สดๆ ทั่วประเทศสูงสุดถึง 2 แสนวิว ตูน ถูกยกย่องจากคนที่รู้จักเขา และเพิ่งมารู้จักเพราะการวิ่งครั้งนี้ จึงไม่แปลกที่ก้าวคนละก้าว จะถูกยกให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ควรจดจำ
The Mask Singer ปรากฎการณ์ใหม่ของทีวีไทย
ใครที่บอกว่าปีนี้รายการทีวีไทยมีแต่ซบเซา คงต้องยกเว้นให้ Work Point ที่ผลิตรายการอะไรก็ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ที่ได้รับการตอบรับแบบถล่มทลายจนคนในวงการทีวีหันมามองก็คือความพีกขั้นสุดของ The Mask Singer รายการเกมโชว์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลีใต้ เพื่อผลิตเอง คอนเซปต์คือเอาศิลปินมาใส่หน้ากากแล้วร้องเพลงแข่งกันเพื่อให้กรรมการตัดสินว่าใครจะได้ไปต่อ และใครอยู่ใต้หน้ากาก
เสน่ห์ของรายการที่ว่าด้วยหน้ากาก และการปกปิดตัวตนของนักร้องใต้หน้ากากนี่เองที่ทำให้ The Mask Singer ดังแบบว่ากระชากเรทติ้งทีวีไทยถล่มทลาย รับรายได้จากค่าโฆษณาเป็นกอบเป็นกำ และยังสร้างบรรทัดฐานใหม่ของวงการทีวีไทยด้วยการออกอากาศสดทางออนไลน์ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีช่องไหนกล้าทำ เพราะกลัวว่าช่องทางออนไลน์จะแย่งเรทติ้ง
แต่เวิร์คพอยท์ ซึ่งมี ‘ชลากรณ์ ปัญญาโฉม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสาย
‘เป๊ก ผลิตโชค’ รีเทิร์น
ปรากฎการณ์ของรายการ The Mask Singer ไม่เพียงทำให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ยอมที่จะออกอากาศทางออนไลน์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนดู แต่ยังทำให้ศิลปินและคนดังหลายคนที่มาออกรายการได้แจ้งเกิดอีกครั้ง และแม้แชมป์ของ The Mask Singer ซีซั่นแรกจะเป็น ‘ทอม Room39’ หน้ากากทุเรียน ส่วนรองแชมป์คือ ‘เอ๊ะ จิรากร’ หน้ากากอีกาดำ
แต่คนที่โด่งดังมากที่สุดก็คือหน้ากากจิงโจ้ งงเด้ งงเด้ ‘เป๊ก ผลิตโชค’ เขาหายจากวงการบันเทิงไปเกือบสิบปี ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าเขามีความสามารถทางการร้องเพลงที่เก่งกาจซ่อนอยู่เพียงแค่รอโอกาสได้ปลดปล่อยออกมา
กระทั่งหลังจากเปิดหน้ากากเรื่องราวและความสามารถของเป๊กที่ถูกซ้อนเร้นก็เปิดเผยกลายเป็นว่าเขาได้ฐานแฟนคลับใหม่เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เปิด Twitter ได้แป๊บเดียวคนติดตามหลักแสน ส่วน IG คนตามพุ่งพรวด 1 ล้าน Follower เรียบร้อย และมีงานเข้ามาไม่ขาดสาย
วันที่เป๊ก ได้กลับมาทำงานที่รักอีกครั้ง เขาโพสต์ขอบคุณแฟนคลับและหน้ากากจิ้งโจ้ไว้ว่า “ขอบคุณ หน้ากากจิงโจ้เพื่อนรักด้วยนะ ที่ช่วยเราไว้ ช่วยปิดบังอคติ ของข่าวและสังคม ที่ยัดเยียดใส่ให้ผมมาตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา จนคนมองข้ามผมไป และไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของผมเป็นยังไง”
อำลาโค้ชซิโก้ อดีตฮีโร่แฟนบอลไทย
หลังจากที่โค้ชซิโก้ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยผู้ปลุกกระแสบอลไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมกู้ศรัทธาแฟนบอลไทยด้วยการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ทั้งระดับภูมิภาค และไปเล่นระดับเอเชียได้อย่างสูสีกับทีมใหญ่
จนทำให้เขากลายเป็นอดีตนักเตะระดับตำนาน และโค้ชทีมชาติไทยที่แฟนบอลรักมากที่สุดคนหนึ่งคุมทัพช้างศึกมาได้ 1,396 วัน หรือกว่า 4 ปี ในที่สุดโค้ชซิโก้ ก็ประกาศอำลาตำแหน่งโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่เพราะผลงานย่ำแย่
โดยซิโก้ ถูกกดดันทั้งจากสมาคมและแฟนบอล หลังในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียทีมช้างศึกทำผลงานได้ย่ำแย่ สองนัดสุดท้ายที่ทีมชาติไทยบุกไปแพ้ซาอุดิอาระเบียร์ 4 – 0 และแพ้ญี่ปุ่นคาบ้าน 3 – 0 ก็ทำให้เขาตัดสินใจประกาศลาออกจาการคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ กระนั้นแฟนบอลไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ลืมว่าเขาสร้างตำนานอะไรให้กับทัพช้างศึกบ้าง
(ภาพจาก ESPN)
‘BNK48’ โตสวนกระแสวงการเพลงไทย
หากสังเกตดูจะเห็นว่าปีนี้วงการเพลงซบเซาทั้ง RS เลิกทำเพลงแบบแทบจะถาวร ส่วน Grammy ก็ไม่ได้มีศิลปินใหม่ที่เกิดและดังแบบจับต้องได้ส่วนยอดขายไม่ต้องพูดถึง แต่วงการเพลงไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งก็คือการมาถึงของวงไอดอล BNK48 (ซึ่งเราคงไม่ต้องอธิบายอีกแล้วว่า BNK48 คืออะไร)
BNK48 สร้างปรากฎการณ์หลายอย่าง ทั้งรูปแบบของแนวทางการดำเนินธุรกิจ และการนำเสนอผลงานที่แตกต่างจากขนบธรรมเนียมของศิลปินไทย และการค่อยๆสร้างฐานแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้กลุ่มฐานแฟน BNK48 (ที่มีศิลปินไทยหลายคนประกาศตัวเป็นโอตะด้วย) ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในแง่ของตัวเลขที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือยอดขาย CD ซิงเกิ้ลสอง ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’ ขายดีถึง 30,000 แผ่นอย่างรวดเร็ว
อาจจะดูน้อยแค่ 30,000 แผ่นทำไมต้องดีใจ แต่ลองมองย้อนกลับไปวงการเพลงไทยดูสิแล้วจะพบว่าต่อให้วงดังแค่ไหนยอดขายแผ่นก็ยากที่จะดันไปแตะหลักหลักพันยังยาก BNK48 น่าจะเป็นสีสัน และสร้างปรากฎการณ์ให้ได้เห็นชัดที่สุดถึงการเติบโตที่สวนกระแสซบเซาวงการเพลงไทย
‘ฉลากเกมส์โกง’ หนังไทยดังไกลโกอินเตอร์
ค่ายหนังไทยที่ทำผลงานได้ดีรับทั้งเงินและกล่องมากที่สุดประจำปีคงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า GDH จากหนังเรื่อง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ของ ‘บาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ’ ที่พูดถึงด้านมืดของวงการศึกษาประเด็นของการลอกข้อสอบ แต่เนื้อเรื่องกลับไม่ได้พูดถึงแค่ในประเทศ แต่ขยายออกไปไกลถึงในระดับการโกงข้อสอบระดับโลก
ประเด็นของหนังดูจับต้องได้และไปไกลกว่าแค่ในเมืองไทย รวมไปถึงจังหวะการเล่าเรื่อง การตัดต่อที่รวดเร็วฉับไว เทคนิคต่างๆ ทำให้รสชาติของ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ถูกปากคนดูต่างประเทศด้วย จึงถูกซื้อไปฉายหลายประเทศ และสร้างกระแสได้ดี ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก
แม้ในประเทศรายได้จะยังไม่แซงหนังระดับตำนานพันล้านบาทอย่าง ‘พี่มาก.. พระโขนง’ แต่ตลาดใหญ่ ฉลาดเกมส์โกง ซัดไป 42.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.3 พันล้านบาท ขณะที่พี่มาก… พระโขนง ทำรายได้นอกบ้านได้ 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1 พันล้านบาท
‘มารีญา’ บุ๋งๆ ทะยานติด 1 ใน 5 สาวงามระดับโลก
ปีก่อนคนไทยต้องอกหักที่ดัน ‘น้ำตาล ชลิตา’ ไปไม่ถึงมงนางงามจักรวาล ติดสูงสุดรอบ 3 คนสุดท้าย แต่ปีนี้คนไทยก็ได้ลุ้นอีกครั้งกับ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ ตัวแทนสาวไทยจากเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประจำปี 2017 ซึ่งกระแสดันมงไปลงหัวมารีญา ก็พีกมาก โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ของการโหวตบนโลกทวิตเตอร์สมรภูมิโหวตสุดโหด เกิดดราม่ามากมาย
แต่คะแนนโหวตก็เพียงพอที่จะดันมารีญา ทะลุรอบ 16 คนสุดท้ายไปได้ อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่มารีญา เข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้าย ไม่สามารถไปถึงมงกุฎนางงามจักรวาลที่คนไทยเชียร์ให้เธอคว้ามาครองได้ แล้วกระแสก็เบนเป้ามาโจมตีชุดราตรีของพี่หมู Lazada เอ้ย! พี่หมู Asava ว่าออกแบบชุดไม่ดี ออกแบบชุดเดิมๆ น้องนางมารีญา เลยไม่เจิดเฉิดฉาย พี่หมู เลยบอกว่างั้นปีหน้า Asava ไม่ทำชุดนางงามแล้วจ้า บัยยยย
ขาลงนิตยสารไทยหัวใหญ่ทยอยลาแผง
หนึ่งข่าวที่สั่นสะเทือนวงการสื่อไทยก็คือการลาจากของนิตยสารในเมืองไทย ที่ทยอยโบกมือลาหลังจากต้านกระแสการมาถึงของโลกออนไลน์ไม่ไหว และปรับตัวตามไม่ทัน โดยปีนี้นิตยสารหัวใหญ่ระดับตำนานที่ประกาศอำลาแผงไปก็มีทั้ง ‘แมรี แคลร์’ ‘Men’s Health’ ‘ครัว’ ‘เนชั่นสุดสัปดาห์’ ‘Filmax’ ‘ขวัญเรือน’ ‘ดิฉัน’ ‘มาดาม ฟิกาโร่’ และล่าสุด ‘คู่สร้าง คู่สม’
การปิดตัวของนิตยสารไทยเหตุผลที่ตอบได้อย่างชัดเจนคือคนเลิกอ่านนิตยสาร และเม็ดเงินโฆษณาที่จะลงในนิตยสารถูกตัดทอนน้อยลง จากการสรุปของ ‘มีเดีย อินเทลลิเจนซ์’ เกี่ยวกับเม็ดเงินโฆษณาในวงการสื่อต่างๆ พบว่าวงการนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์งบโฆษณาลดลงจาก 12,761 ล้านบาท เหลือ 8,809 ล้านบาท
โดยเกินกว่าครึ่งเม็ดเงินโฆษณาอยู่ที่หนังสือพิมพ์ ดังนั้นเงินที่จะนำมาใส่อยู่ในวงการนิตยสารจึงน้อยลงมาก คาดว่าปีหน้าเราจะได้เห็นการปิดตัวของนิตยสารหัวใหญ่ให้เซอร์ไพรส์ได้อีก
ทีวีดิจิทัลระส่ำรายใหญ่ปรับตัววุ่น
ใครที่บอกว่าสถานีโทรทัศน์คือมหาอำนาจของสื่ออาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะหลังจากที่ประมูลช่องทีวีดิจิทัลในช่วงเวลาที่ผิดที่ผิดทาง วงการทีวีไทยก็ระส่ำทันทีเพราะการมาถึงของอินเทอร์เน็ตทำให้ช่องใหญ่ๆ ทั้งหลายเกิดอาการไปต่อไม่ถูกทั้งกับยอดคนดูที่ลดลง และยอดโฆษณาที่ตกลง
แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือปี 2560 ผู้ถือสิทธิช่องทีวีดิจิทัลทั้งหลายถึงกับปาดเหงื่อ ไล่ตั้งแต่อมรินทร์ทีวี (รวมถึงอมรินทร์ทั้งเครือ) ขายให้กับทางไทยเบฟ หรือเบียร์ช้าง ไป 850 ล้านบาท เพราะเจ็บหนักกับการประมูลทีวีดิจิทัล, ทางด้านเนชั่น ก็ประกาศขายช่อง Now 26 พ่วงด้วยมหาลัยเนชั่น และบริษัทขนส่ง 1.4 พันล้านบาท
ด้าน Voice TV ก็ประกาศปลดพนักงานแบบฟ้าผ่าเกือบ 200 ตำแหน่ง และเตรียมหันหน้าไปสู้รบในสื่อดิจิทัลแทน ส่วนช่อง 3 ก็รายได้หดเน้นแก้เกมใหม่หลายอย่างเพื่อหวังที่จะสร้างรายได้กลับมาใหม่ โดยรวมคือปีนี้คนทำทีวีค่อนข้างจะเหนื่อยหนักไม่แพ้นิตยสารเลย